อากาศหนาว ๆ อย่างนี้ทำให้เรานึกถึงภูเขา ป่าไม้ และกิจกรรมที่ชวนให้อยากไปนั่นก็คือการเก็บสตรอว์เบอร์รี วันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ออกเดินทางจากบริสเบนไปเก็บสตรอว์เบอร์รีและแวะเที่ยวจุดท่องเที่ยวน่าสนใจต่าง ๆ ตามเส้นทาง โดยมีปลายทางของทริปนี้คือ Montville เราไปเริ่มกันเลยกับ One Day Trip to Strawberry Fields.!!
Strawberry Fields
สตรอว์เบอร์รีในออสเตรเลียนั้นพบเจอได้ทุกฤดู โดยแต่ละรัฐก็จะมีช่วงเวลาในการเก็บเกี่ยวต่างกันออกไป ส่วนในรัฐควีนส์แลนด์ของเรานั้นจะเป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวในช่วงหน้าหนาวไปจนถึงฤดูใบไม้ผลิ (มิ.ย. ถึง ต.ค.)
โดยมีฟาร์มสตรอว์เบอร์รีอยู่หลายแห่งด้วยกัน แต่ที่ขึ้นชื่อจะมีอยู่ทั้งหมด 3 ฟาร์มด้วยกัน คือ McMartin’s Strawberry Farm (Sunshine Coast), Strawberry Fields (มี 2 สาขาที่ Sunshine Coast และ Granite Belt), และ Rolin Farms (เป็นฟาร์มที่อยู่ใกล้บริสเบนที่สุด ออกไปทางเหนือของ Caboolture) โดยฟาร์มทั้งหมดนี้เป็น P.Y.O. ย่อมาจาก Pick Your Own ซึ่งก็หมายความว่าเราสามารถเข้าไปในฟาร์มเพื่อไปเก็บสตรอว์เบอร์รีกันสด ๆ จากต้นได้เองเลย ความน่าสนใจมันอยู่ตรงนี้แหละ :)
วันนี้เราเลือกเส้นทางการเก็บสตรอว์เบอร์รีที่ Starwberry Fields สาขา Sunshine Coast เนื่องจากอยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งที่เราอยากจะไปกันซึ่งก็คือ Montville ขับรถออกจากตัวเมืองบริสเบนแต่เช้ามุ่งสู่ทางด้านทิศเหนือแบบสบาย ๆ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที ก็ถึงจุดหมาย มีที่จอดรถมากมายไม่เสียค่าเข้าและจอดฟรี เตรียมหมวก แว่นและเสื้อกันแดดเรียบร้อยแล้ว กระโดดออกจากรถตรงไปร้านขายของเพื่อที่จะขอกล่องพลาสติกมาเพื่อเก็บสตรอว์เบอร์รีของเรา โดยเขาจะคิดราคาค่าสตรอว์เบอร์รีจากน้ำหนักสตรอว์เบอร์รีที่เราเก็บได้ ซึ่งหากเก็บมาเต็มกล่องแบบไม่พูนมากก็จะหนักประมาณ 1 กิโลกรัมพอดี หากใครตั้งใจจะเก็บเยอะ ก็ขอกล่องเพิ่มนะสตอรว์เบอร์รี่จะได้ไม่กลิ้งตกด้วย ยังไงเราก็ไม่เสียค่ากล่องอยู่แล้ว
เมื่อได้กล่องมาแล้ว พนักงานก็จะแจ้งเราว่าให้ไปที่ฟาร์มหมายเลขที่เท่าไร เพราะบางจุดสตรอว์เบอร์รีจะยังไม่พร้อมเก็บ แล้วเราก็มุ่งหน้าไปกันเลย!! แม้ว่าจะเป็นหน้าหนาว แต่อยู่กลางแดดในฟาร์มก็ร้อนนะ ฟาร์มบางส่วนก็เป็นพื้นโคลนแฉะ ใครใส่รองเท้าแตะสีสดใสมานี่อาจจะจบกัน
ทริปเล็กน้อยในการเก็บสตรอว์เบอร์รี ถ้าใครตั้งใจจะกินกันสด ๆ หลังจากเก็บเลยก็เลือกลูกฉ่ำ ๆ แดง ๆ แต่ถ้ากะจะเอากลับไปทานที่บ้านก็เลือกลูกที่ไม่ฉ่ำมาก เพราะสตรอว์เบอร์รีช้ำง่ายมั่ก ๆ เลยล่ะ ยิ่งวางทับกันบนกล่องและการเดินทางในรถ กว่าจะถึงบ้านก็จะช้ำกันเป็นจุด ๆ หากใครมีถุงหรือกล่องเก็บดีหน่อยก็เอาไปเผื่อนะ
ใช้เวลาอยู่ที่ฟาร์มสตรอว์เบอร์รีไม่ถึงชั่วโมงก็ได้มาเต็ม 2 กล่อง ราคาประมาณ $40 (โลละ $16 - $18 ขึ้นอยู่กับราคาตลาดว่าไปช่วงไหน) ราคาอาจจะเทียบกับสตรอว์เบอร์รีที่เราซื้อตามซุปเปอร์มาร์เก็ตไม่ได้ แต่ก็ถือว่าได้บรรยากาศและเรายังได้เก็บสตรอว์เบอร์รีเองด้วย ผลโต ๆ ลูกสวย ๆ รูปร่างแปลก ๆ สนุกสนานดี และในนั้นยังมีร้านคาเฟ่ขายเครื่องดื่ม อาหาร ของที่ระลึกให้ซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้าน ที่ไม่ควรพลาดคือไอติมแยมสตรอว์เบอร์รี อร่อยใช้ได้เลย หากใครอยากได้ช็อคโกแลตมาดิปกับสตรอว์เบอร์รี่สด ๆ ที่เราเก็บมา ที่นี่ก็มีขายด้วยเช่นกัน
ข้อมูลที่ตั้ง
Strawberry Fields
133 Laxton Rd Palmview, QLD, 4553
เว็บไซต์: http://strawberryfields.com.au
The Big Pineapple
หายเหนื่อยกันแล้วก็มุ่งหน้าเดินทางต่อ ไปไม่ใกล้ไม่ไกลประมาณ 20 นาที ก็จะพบกับ The Big Pineapple ซึ่งถือเป็น 1 ใน Australia’s big things (หากใครเคยอ่านทริปพาเที่ยว Stanthorpe กันมาก่อนหน้านี้คงจะเห็น Big Apple กันมาแล้ว) ที่นี่เป็นรูปปั้นสัปปะรดที่ใหญ่ที่สุดในโลก เราสามารถปีนขึ้นไปบนเจ้าสัปปะรดขนาดมหึมานี้เพื่อชมวิวรอบ ๆ เรียนรู้การทำสวนสัปปะรด กระบวนการเก็บเกี่ยวไปจนถึงการนำเข้าโรงงาน มีรถไฟน่ารัก ๆ ให้นั่งชมสวนอีกด้วย
รูปประกอบ: bigpineapple.com.au
ข้อมูลที่ตั้ง
The Big Pineapple
76 Nambour Connection Road, Woombye Sunshine Coast QLD 4559
เว็บไซต์: http://www.bigpineapple.com.au
Montville
เก็บสตรอว์เบอร์รี่และเที่ยวสวนสับปะรดกันแล้ว เราก็ไปหาอะไรกินกันต่อเพราะเวลานี้กำลังจะเที่ยงพอดี สถานที่ต่อไปเราจะพาไปเดินชมบรรยากาศเมืองบนภูเขาสุดชิลที่ Montville กัน ขับจากสวนสับปะรดไปเพียง 15 นาที ก็จะเข้าสู่เขต Montville ตลอดเส้นทางที่เราขับรถผ่านก็จะมีวิวภูเขาสวยงามมาก แต่คนขับที่ไม่ชินทางอาจจะเหนื่อยและตื่นเต้นหน่อย อารมณ์ประมาณขับไปปายและแม่ฮ่องสอน ทางคดเคี้ยวไปมา แต่ได้กลิ่นธรรมชาติป่าไม้ และเห็นวิวมุมสูงสวยจริง ๆ
Montville เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่อยู่บนภูเขาสูงจากน้ำทะเล 400 เมตร มีประชากรอาศัยอยู่ไม่ถึง 1,000 คน มีร้านอาหาร คาเฟ่ ที่เห็นวิวภูเขาสวย ๆ บรรยากาศน่านั่งมาก ร้านค้าต่าง ๆ ของที่นี่ก็จะเน้นเป็นพวกงานฝีมือ ของใช้แบบโฮมเมด
ร้านอาหาร The Edge เป็นร้านที่คนนิยมมานั่งดูวิวกัน ราคาอาหารอาจจะค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับร้านละแวกนั้น ก็ถือเป็นค่าชมวิวไป มาถึงทั้งที
ร้าน Wild Rocket Misty’s Micro Brewery เป็นร้านน่ารัก บรรยากาศธรรมชาติ รสชาติอาหารอร่อยในราคาดีงาม แถมยังมีเบียร์สดทำเอง Craft Beer ให้ลิ้มลองกันอีกด้วย
Poets Café เป็นร้านคาเฟ่น่ารักสไตล์โบราณ ดูโดดเด่นสุดในบรรดาร้านคาเฟ่ใน Montville เป็นอีกร้านที่มองเห็นวิว แต่อาจจะไม่อลังการพาโนราม่าเท่าร้าน The Edge เหมาะมานั่งจิบชากาแฟดื่มด่ำกับบรรยากาศเก๋ ๆ
Chocolate Country Montville ร้านนี้พลาดไม่ได้สำหรับคนชอบช็อกโกแลตและของหวาน มีทั้ง truffle, nougat, ช็อกโกแลตเคลือบผลไม้ ขนมหลากหลาย สั่ง Hot Chocolate มาลองชิมกันดูนะ ของเราจัดเต็มทั้งวิปครีมและมาร์ชแมลโลว์ คนขายน่ารักมากให้ช้อนมาตักวิปครีมด้วย
ข้าง ๆ ร้าน Chocolate Country Montville มีร้านนาฬิกาโบราณน่ารักมาก ๆ อยู่ร้านนึง ชื่อร้าน Clock Shop ราคาสมเหตุผลงานแฮนด์เมดจริง ๆ
นอกเหนือจากร้านที่กล่าวมานี้แล้ว ยังมีร้านขายของอีกมากมายเช่น Castle Glen Australia เป็นร้านขายแอลกอฮอล์หลากหลายชนิด ส่วนใหญ่จะเป็นรสผลไม้ สาว ๆ น่าจะชอบ เป็นสาขาย่อยจากปราสาทหลังโตในทริป Stanthrope บทความก่อนหน้านี้
รวมไปถึงร้านจำหน่ายสินค้าพวก สบู่ เทียน น้ำหอม เสื้อผ้า ของตกแต่งบ้าน ใครชอบของน่ารัก ๆ น่าจะอยู่ได้ทั้งวัน
The Chapel Montville เป็นโบสถ์ที่คนนิยมมาจัดงานแต่งงานกันที่นี่ แม้ขนาดจะเล็ก แต่ด้วยตัวโบสถ์และวิวที่สวยงามด้านหลัง ทำให้ภาพในวันสำคัญออกมายังกะเทพนิยาย เปิดให้เข้าเฉพาะวันเสาร์และอาทิตย์ 11am – 4.30pm
แผนที่แนะนำเส้นทางการเดิน
รูปประกอบ: montvillecommerce.com.au
ข้อมูลที่ตั้ง
Montville, QLD 4560
เว็บไซต์: www.visitsunshinecoast.com/Montville
อิ่มหนำสำราญ ช้อปกันตัวปลิวแล้ว ก็ถึงเวลากลับ เวลาช่างผ่านไปเร็วจริง ๆ ขากลับเราเลือกกลับเส้นทาง Maleny Montville Rd เนื่องจากคนขับของเราไปแอบสอบถาม Information Centre มาว่ามีทางเลือกอื่นในการเดินทางกลับบริสเบนไหม เพราะขามาไอตื่นเต้นมั่ก ๆ เลยได้ความจากเจ้าหน้าที่ว่า ทางที่ยูมามัน crazy จริง ๆ ข้อดีของการเลือกเส้นทาง Maleny Montville Rd ในการกลับก็คือ เราจะผ่านจุดชมวิว Gerrards Lookout ซึ่งถ้ามากันช่วงพระอาทิตย์กำลังจะตกจะโรแมนติกฝุด ๆ
เป็นไงกันบ้าง กับ One Day Trip to Strawberry Fields, Montville ในครั้งนี้ เพื่อน ๆ คนไหนไปมาแล้วมีรูปสวย ๆ เจอร้านหรือสถานที่เด็ด ๆ มาเล่าสู่กันฟังบ้างนะ