วันพฤหัสบดี, 21 พฤศจิกายน 2567

Booking.com

Whitsunday สวรรค์ของคนรักทะเล ตอนที่ 3 Great Barrier Reef

เผยแพร่เมื่อ 18 ธันวาคม 2557 โดย ปีศาจน้อย

และแล้วก็มาถึงตอนสุดท้ายของทริป Whitsundays หลังจากเมื่อตอนที่แล้ว “Whitsunday สวรรค์ของคนรักทะเล ตอนที่ 2 Whitehaven Beach” เราพาไปชมหาดทรายสีขาวอันเลื่องชื่อ ที่ว่ากันว่าสวยที่สุดในออสเตรเลียกันไปแล้ว วันนี้ก็ถือคราวที่เราจะต้องไปชมแนวปะการังที่ยาวที่สุดในโลกกันบ้าง โดยเป็นแพ็คเกจ “Great Barrier Reef Adventures - Full Day” ออกทะเลกันตั้งแต่เช้ายันเย็นเลยทีเดียว

 

Whitsunday วันที่สาม - Great Barrier Reef

วันนี้เราตื่นเต้นเป็นพิเศษ เตรียมตัวพร้อมลุย Great Barrier Reef แบบหนึ่งวันเต็ม เรายังไปจุดนัดพบที่เดิมเพื่อขึ้นรถที่เวลา 7.25am และเรือออกจากท่าเวลา 8am เรือของเราในวันนี้เป็นเรือ 3 ชั้น ใหญ่กว่าลำเมื่อวานประมาณ 2 เท่า ตอนออกจากท่าเรือ ที่นั่งว่างเกินครึ่งลำ แต่ตอนแวะรับคนที่ Hamilton Island โอ้ คนมาจากไหนกันเนี่ย ที่นั่งเต็มภายในกระพริบตา ข้อดีอย่างหนึ่งของการพักที่ Airlie Beach คือการได้จับจองที่นั่งก่อนเป็นรายแรก ๆ เพราะ Airlie Beach คือท่าเรือใหญ่จุดแรกและจุดสุดท้ายของทริป เหมือนที่เราเกริ่นไปในตอนแรก

พอเรือออกจาก Hamilton Island พนักงานเขาก็จะมาให้ความรู้เรา เกี่ยวกับกิจกรรมที่เราสามารถเอ็นจอยได้ที่ปลายทางจุดจอดเรือ Pontoon โดยสามารถดูเพิ่มเติมได้จากใบโบรชัวร์ที่แจกมา พร้อมกับสอนสัญลักษณ์มือฉุกเฉินเวลาเราลงน้ำอีกด้วย ในช่วงนี้หากใครจะลงเล่นน้ำไม่ว่าจะเป็น Snorkeling หรือ Diving จะต้องลงชื่อก่อน และถ้าใครต้องการลงดำน้ำแบบ Diving ก็จะมีคลาสสอนเพิ่มเติมด้วย

 

เริ่มเข้าใกล้จุดหมายหลายคนก็เริ่มเตรียมตัว เพราะต่างก็มีแพลนว่าจะทำอะไร ซึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจมีคร่าว ๆ ดังนี้..

1712-whitsunday3-reefworld
“Great Barrier Reef Adventures - Cruise Whitsundays”

“Semi-submersible submarines” กิจกรรมสำหรับคนที่ไม่ชอบเปียกน้ำ โดยเราจะเดินเข้าไปใต้ท้องเรือ แลดูคล้ายกับเรือดำน้ำ เมื่อก้าวลงไปข้างล่างที่ใต้ท้องเรือ ก็จะเห็นว่าด้านข้างของตัวเรือเป็นกระจกใส สามารถมองเห็นปลาและปะการังใต้น้ำได้ โดยจะขับออกจาก Pontoon และล่องไปตามเส้นทางริมแนวปะการัง ทุก ๆ 30 นาที

“Scenic helicopter flights” การขึ้นเฮลิคอปเตอร์เพื่อชมแนวปะการัง Great Barrier Reef จากบนท้องฟ้า ราคาเริ่มต้นที่ 10 นาที/$135 (ต่อคน) สามารถมองเห็น Heart reef แนวปะการังรูปหัวใจ ซึ่งเป็นไฮไลท์ของกิจกรรมนี้ โดยเรามักจะเห็นตามปฏิทินและวอลเปเปอร์สวย ๆ ถ้าขึ้นแบบ 20 นาที/$250 เราจะเห็นแนวปะการังเพิ่มอีก 5 ที่

“Swimming & Snorkeling” ลงไปว่ายน้ำทะเลสวย ๆ พร้อมทั้งดำน้ำชมปลาและปะการังบนผิวน้ำด้วยสน็อกเกิ้ล ซึ่งทั้งชุดและอุปกรณ์ทั้งหมดทางทัวร์เตรียมไว้ให้ใช้ฟรี

“Diving” กิจกรรมแนวแอดเวนเจอร์ สำหรับคนที่อยากสัมผัสน้องปลาใกล้ ๆ และไม่ได้จำกัดแค่คนที่มีใบอนุญาติในการดำน้ำเท่านั้น คนที่ไม่เคยดำน้ำก็สามารถลงชื่อแบบ Beginner ได้ โดยจะมีเจ้าหน้าที่มาช่วยสอนและคอยดูแลตลอดทริป ซึ่งทริปดำน้ำนี้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และอุปกรณ์ก็แตกต่างกันไปตามความยากง่าย

“Sundeck” เปลนอนสำหรับอาบแดด ที่ทางทัวร์เตรียมไว้ให้บนดาดฟ้าของ Pontoon มีชาวต่างชาติและชาวออสซี่จำนวนไม่น้อย ที่มานอนอาบแดดหลังลงเล่นน้ำ และนั่งพูดคุยกัน แต่กิจกรรมนี้เราขอผ่านละกัน :)

 

เมื่อดูตารางกิจกรรมเสร็จ เราจึงตกลงกันว่าจะขึ้นเฮลิคอปเตอร์ชมปะการัง แม้ราคาแอบจะแพงอยู่เล็กน้อย แต่หากมาคิด ๆ ดูแล้ว ว่านี่อาจจะเป็นการมาเที่ยว Whitsundays ครั้งเดียวของเราหรือเปล่า? ถ้าไม่ได้ชมอาจจะต้องเก็บเอาไปเสียดายทีหลัง เราจึงตัดสินใจเดินไปจองที่นั่งกับเจ้าหน้าที่ทันที เนื่องจากถ้าใครจะขึ้นต้องจองล่วงหน้าก่อน

นั่งเรือชมวิวเพลิน ๆ เราก็มาถึงจุดหมายตอนเวลา 11am เดินขึ้นไปบน Pontoon ก็เจอกับปลา Grouper ขนาดใหญ่ ที่เขาเลี้ยงไว้ข้างใต้ หลังจากนั้นเราจึงเตรียมตัวไปขึ้นเฮลิคอปเตอร์กันก่อน เนื่องจากได้รอบตอน 11.25am ที่เห็นมีอยู่มี 3 ลำ ด้วยกัน แบบนั่ง 2 คน (ไม่รวมคนขับ), 4 และ 6 คน กลุ่มเราไปกัน 4 คนพอดี จึงได้ขึ้นลำขนาดกลาง ซึ่งคิดว่าลำนี้น่าจะเป็นลำที่ดีที่สุดเท่าที่สังเกต เพราะมีกระจกรอบด้านและบานค่อนข้างใหญ่กว่าลำอื่น ทำให้เห็นวิวได้ชัดเจน คนขับก็ขับได้นิ่มมาก ๆ แทบจะไม่รู้สึกเลยว่าอยู่บนเฮลิคอปเตอร์ มองเห็นปะการังสีเขียวตัดกับทะเลสีน้ำเงินเข้มเป็นแนวยาว มันเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์สุดจะบรรยาย ไม่น่าเชื่อว่าธรรมชาติจะสร้างสรรค์สิ่งที่สวยงามได้ขนาดนี้ และปิดท้ายโดยการบินวนที่ Heart reef แบบ 360 องศา เป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่าจริง ๆ

1712-whitsunday3-pontoon
“Pontoon”
1712-whitsunday3-heli
1712-whitsunday3-heli-scenics
“Scenic Helicopter Flights, Heart Reef”

ชมวิวบนฟ้าเสร็จแล้ว เราจึงไปชมใต้ผิวน้ำกันบ้างกับ sub-marine อเมซิ่งยกสอง ปะการังเยอะมากจริง ๆ ลักษณะคล้ายเป็นกำแพงสูงตั้งฉากกับผิวน้ำ มองเห็นปลากับปะการังชัดเจน แต่ก็เห็นได้ถึงการถูกทำลายทางธรรมชาติ โดยสีของปะการังที่ไม่ค่อยสดใส กับซากของปะการังที่แตกหักลงไปบ้าง ตามข่าวที่มีมาก่อนหน้านี้ เป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่ภาวะโลกร้อนอาจจะทำให้สิ่งสวยงามแบบนี้สูญหายไป ดังนั้นจึงแนะนำให้เพื่อน ๆ รีบมาดูกัน และอย่าลืมช่วยกันรักษาความสะอาดด้วยนะคะ ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นได้ว่า ทั้งโบรชัวร์ แผ่นพับ หรือตั๋วโดยสารจากทัวร์ เขาจะมีข้อความเน้นย้ำสิ่งนี้มาก

1712-whitsunday3-semisub
“Semi-submersible Submarine”

กลับมาที่ทริปของเราต่อ หลังจากขึ้นมาจากเรือดำน้ำ ก็ได้เวลาทานอาหารเที่ยงกันพอดี ซึ่งเสริฟระหว่างเวลา 12pm - 2pm โดยเป็นบุฟเฟ่ กุ้งตัวใหญ่ ๆ ไก่บาร์บีคิว สโม้คแฮม สลัด และขนมปัง เติมได้ไม่อั้น แต่เราก็กินกันไม่เยอะเพราะเดี๋ยวจะต้องลงน้ำกันต่อ ไม่งั้นจะกลายเป็นให้อาหารปลาแทน

1712-whitsunday3-lunch

เติมพลังกันเสร็จแล้ว ก็ถึงเวลาไปผจญภัยชมปะการังแบบใกล้ชิดกันบ้าง หลังจากชมจากมุมสูงและหลังกระจกกันมาแล้ว ไปสน๊อกเกิ้ลลิ่งกันดีกว่า โดยต้องไปไล่หยิบอุปกรณ์ทีละชิ้น เริ่มตั้งแต่ 1.) เลือกชุด wetsuit ขนาดพอดีตัว เลือกดูดี ๆ หน่อยเพราะบางตัวก็ขาดบ้างมีรูบ้าง หญิงไทยเริ่มที่ไซส์ 12 กำลังดี ชุดมีทั้งที่มีแบบคลุมหัวกับไม่มี ชอบแบบไหนก็เลือกเองได้เลย 2.) เลือกตีนกบขนาดพอดีเท้า 3.) หน้ากากสน็อกเกิ้ล(Mask) ท่อหายใจ(Tube/Barrel) กับที่อุดปาก(Mouthpiece)จากจุดที่ฆ่าเชื้อแล้ว หยิบผิดแล้วจะได้จูบทางอ้อมนะ และอุปกรณ์เสริม 4.) เสื้อชูชีพเพื่อความสบายใจ 5.) อุปกรณ์พยุงตัว บอร์ดหรือหนวดปลาหมึก หนวดปลาหมึกดีนะคนนึงจับคนนึงลาก >.< หรือใครจะเตรียมชุดและอุปกรณ์มาเองก็นำมาได้เช่นกัน พร้อมแล้วก็ป๋อมแป๋มหน้าจุ่มน้ำชื่นชมน้องปลาและปะการังอินเป็น Little Mermaid ใครขายาวระวังเหยียบเตะทำลายปะการังสวย ๆ นะ

1712-whitsunday3-swimming
“Snorkeling, Diving”

พอถึงเวลา 2.45pm ก็ได้ฤกษ์ขึ้นจากน้ำกลับขึ้นเรือเตรียมตัวเดินทางกลับ อาบน้ำจืด เช็ดตัวให้แห้งก่อนขึ้นเรือไปจิบชาอุ่น ๆ นั่งตากลมให้หัวแห้ง ทริปขากลับผ่านกระแสน้ำมหาสมุทรสุดมันส์ 45 นาที หุหุ แม้เรือลำค่อนข้างใหญ่แต่ก็ทำเอาของบนโต๊ะกระจัดกระจายทีเดียว ไอว่าไอแน่แล้วต้องขอออกไปสูดอากาศชั้น 3 เพราะฝรั่งห้องข้างล่างดันมาเดี้ยงอยู่ใกล้ ๆ ให้ได้กลิ่นทำมายยย ระหว่างทางก็แวะที่ Hamilton Island Marina เพื่อส่งกลุ่มที่ขึ้นมากับเราเมื่อตอนแรก ช่วงเวลายามเย็นที่เกาะแห่งนี้สวยงามจริง ๆ ไม่แปลกใจว่าทำไมถึงได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ครั้งหน้าเดี๋ยวเราขอมาพักที่นี่บ้างละกัน ชมวิวทะเลจนเพลินและเราก็มาถึงที่หมายอย่างปลอดภัยเวลา 6.10pm กลับมาพร้อมความทรงจำดี ๆ และสีผิวที่เปลี่ยนไป สาว ๆ อาจได้เปลี่ยนเฉดสีรองพื้นและแป้งกัน 4 เฉดเลยทีเดียว หนึ่งวันเต็มกับประสบการณ์ Great Barrier Reef ในราคา $225 (และค่าขึ้นเฮลิคอปเตอร์อีก $135-250 ถ้าใครอยากชมวิวข้างบน) ถือว่าคุ้มค่าจริง ๆ

1712-whitsunday3-hamilton
“Hamilton Island Marina”

Whitsunday วันที่สี่ - Coral Sea Resort, Back to Brisbane

วันนี้เราต้องเดินทางกลับแล้ว จึงขออำลา Airlie Beach ด้วยการชิลทานอาหารเช้าสายนิดนึงที่ Coral Sea Resort ซึ่งอยู่ติดกับทะเล ทานไปชมวิวไปด้วย อิ่มแล้วก็ถ่ายภาพบรรยากาศเอาไว้เป็นความทรงจำสักหน่อย ที่รีสอร์ทแห่งนี้นี่ถือเป็นสถานที่ยอดฮิตในการจัดงานแต่งงาน โดยการบอกเล่าของคนในพื้นที่ ว่ากันว่าอาจจะต้องจองกันข้ามปีเลยทีเดียว พอได้เวลา 2pm เราก็ต้องเตรียมตัวเดินทางออกจาก Airlie Beach มุ่งหน้าสู่สนามบิน Whitsuday Coast เพื่อกลับสู่บริสเบน เที่ยวขากลับเราบินกับทาง Virgin รอบ 3.50pm ถึงสนามบินบริสเบนประมาณ 5.20pm

1712-whitsunday4-coralsea
“Coral Sea Resort, Whitsunday Coast Airport”

เป็นไงกันบ้างกับการมาเที่ยว Whitsundays ทริปนี้.. จริง ๆ แล้วยังมีกิจกรรมและทัวร์อีกมากมาย ให้เราได้ดื่มด่ำกับ “สวรรค์ของคนรักทะเล” แห่งนี้ แต่เนื่องจากเราไม่อยากจัดตารางกิจกรรมแน่นจนเกินไป เพราะเราตั้งใจกันไว้ว่าจะมาพักผ่อนแบบรีแลกซ์ หากเพื่อน ๆ อยากดูกิจกรรมทั้งหมดสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ tourismwhitsundays.com.au เว็บการท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการของ Whitsundays ใครไปเที่ยวมาแล้วหรือมีข้อแนะนำยังไงคอมเม้นท์กันมาได้ข้างล่างนี้เลย :)

 

ข้อมูลเพิ่มเติม:
tourismwhitsundays.com.au - "Official website of Whitsundays"
cruisewhitsundays.com - "Cruise Whitsundays"

ปรับปรุงล่าสุดเมื่อ 04 เม.ย. 2566

Media

ปีศาจน้อย

ปีศาจน้อย

นักเขียนมือสมัครเล่น อ่านง่าย เข้าใจยาก แต่ความตั้งใจเกินร้อยนะฮ้าฟฟฟ