ข่าวล่าสุด:
ตลอดช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาควีนส์แลนด์และออสเตรเลียมีการปรับกฎ มาตรการ การให้คำแนะนำหลายเรื่องพอสมควร เรานำเอาข้อมูลที่ทางรัฐบาลแจ้งไว้(ข้อมูลถึงวันที่ 3 มกราคม) มาสรุปและทำความเข้าใจไปพร้อมกันโดยจะเน้นของรัฐควีนส์แลนด์เป็นหลัก ไปดูกันว่ามีเรื่องอะไรบ้าง..
มาตรการบังคับใส่หน้ากากอนามัย (face mask)
ควีนส์แลนด์ได้ปรับมาตรการเรื่องใส่หน้ากากอนามัยอีกครั้ง โดยตั้งแต่เวลา 01.00 น. วันที่ 2 มกราคม 2022 เป็นต้นไป ให้ประชาชนสวมใส่หน้ากากทุกครั้งที่เข้าในอาคาร หรืออยู่ในสถานที่เสี่ยง
ซึ่งได้แก่เช่น..
- สถานที่ทำงานในร่ม
- ขนส่งสาธารณะ และ ขนส่งแบบ rideshare
- ซุปเปอร์มาร์เก็ต และ ร้านค้า
- ร้านอาหาร คาเฟ่ ผับ คลับ
- โรงภาพยนตร์ โรงละคร
- สนามกีฬาในร่ม
- ยิม และ กิจกรรมกีฬาต่างๆ
- โรงพยาบาล ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ
- โรงเรียน ศูนย์ดูแลเด็ก และสถานศึกษาอื่น ๆ
- สนามบิน และบนเครื่องบิน
สำหรับสถานที่กลางแจ้ง หากสามารถรักษาระยะห่างจากผู้อื่น 1.5 ม. ได้ก็ไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากาก
ข้อมูลเพิ่มเติม:
คำนิยามใหม่ "ผู้สัมผัสใกล้ชิด" (close contacts)
ทางรัฐบาลออสเตรเลียโดย นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน ได้มีการให้คำจำกัดความหรือคำนิยามของ Close contact "ผู้สัมผัสใกล้ชิด(ผู้ติดเชื้อ)" ขึ้นมาใหม่ให้กับแต่ละรัฐและทณฑลในออสเตรเลียใช้ โดยใจความสำคัญก็คือได้ลดกรอบให้แคบลง เหลือเพียงผู้สัมผัสผู้ติดเชื้อที่อาศัยในครัวเรือนเดียวกัน หรือใช้เวลาร่วมกันระยะเวลาตั้งแต่ 4 ชั่วโมงขึ้นไปเท่านั้น
หากเข้าเกณฑ์การเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิด จำเป็นจะต้องตรวจหาเชื้อโควิดด้วยชุดตรวจแบบ Rapid test แม้จะไม่มีอาการป่วยก็ตาม หากได้ผลเป็นลบต้องกักตัวเองในบ้านพักระยะเวลา 7 วัน โดยให้ตรวจหาเชื้ออีกครั้งในวันที่ 6 ของการกักตัว หากได้ผลเป็นบวกให้เดินทางไปเข้ารับการตรวจด้วย PCR test เพื่อคอนเฟิร์มการเป็นผู้ติดเชื้อ
ทางรัฐควีนส์แลนด์ได้เห็นพ้องกับคำนิยามดังกล่าวของทางรัฐบาลออสเตรเลียและให้มีผลเริ่มใช้ตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 30 ธันวาคม 2021 เป็นต้นไป
สาเหตุหลักของการให้คำนิยามใหม่ของ Close contact เป็นผลสืบเนื่องจากการมีผู้ขอเข้ารับการตรวจ PCR test จำนวนมากจากการขยายวงกว้างการติดเชื้อโควิดในหลายรัฐ และเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนที่ติดต่อกันได้อย่างรวดเร็ว ประกอบกับการขาดแรงงานและปิดกิจการชั่วคราวจำนวนมากจากการต้องถูกกักตัว
ข้อมูลเพิ่มเติม:
การยกเลิกให้ข้อมูลรายชื่อสถานที่เสี่ยง Contact tracing (exposure sites) ของควีนส์แลนด์
เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิดในชุมชนของควีนส์แลนด์ได้ขยายเป็นวงกว้าง ทางรัฐบาลควีนส์แลนด์จึงได้หยุดที่จะรายงานรายชื่อสถานที่เสี่ยง จะเหลือเพียงการแพร่ระบาดใหญ่เท่านั้น
(ความเห็น) เรื่องนี้เป็นประเด็นใหญ่พอสมควรทั้งของควีนส์แลนด์เองและรัฐอื่นของออสเตรเลีย ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจก่อนว่าตอนนี้อัตราการฉีดวัคซีนโควิดครบโดสของออสเตรเลียทุกรัฐเกิน 80% แล้ว (NSW และ VIC มากกว่า 90%) ตอนนี้สิ่งที่ทั้งควีนส์แลนด์และออสเตรเลียกำลังทำคือการใช้ชีวิตร่วมกับโควิด การแพร่ระบาดในลักษณะที่นี้ถือเป็นเรื่องปกติคล้ายกับประเทศอื่น ๆ ที่เลือกแนวทางการใช้ชีวิตร่วมกับโควิดเช่น สหรัฐอเมริกา หรือ อังกฤษ ดังนั้นการฉีดวัคซีนจึงเป็นสิ่งคัญที่จะช่วยลดการติดเชื้อและการป่วยหนักเข้าโรงพยาบาล และหากถึงกำหนดสามารถฉีดบูสเตอร์โดสได้แล้วก็ควรจะไปฉีดเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน ร่วมกับการรักษาระยะห่างและปฏิบัติตามมาตรการด้านโคโรนาไวรัสอื่น ๆ ที่ทางรัฐบาลแนะนำเพื่อลดการแพร่ระบาด
ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.qld.gov.au/health/conditions/health-alerts/coronavirus-covid-19/current-status/contact-tracing
การเกิดขึ้นของกลุ่มในโซเชียลเพื่อแชร์ข้อมูลสถานที่เสี่ยงในรัฐควีนส์แลนด์
ไม่นานหลังจากที่ทางรัฐบาลควีนส์แลนด์ประกาศยกเลิกการรายงานสถานที่เสี่ยงภายในรัฐ ได้มีผู้ก่อตั้งกลุ่ม "South East Queensland Covid Exposure Sites" ขึ้นผ่านทางโซเชียลแพลทฟอร์ม Facebook (ลิงก์กลุ่ม https://www.facebook.com/groups/444802003880344) โดยภายในกลุ่มจะมีผู้ที่ติดเชื้อหรือเจ้าของสถานที่ซึ่งมีผู้ติดเชื้อเข้ามาแชร์ไทม์ไลน์ของตัวเอง เพื่อเป็นการรับรู้ถึงความเสี่ยงของตนเองหากเคยเดินทางไปยังสถานที่ดังกล่าว ซึ่ง ณ เวลานี้มีผู้เข้าร่วมกลุ่มมากกว่า 141,700 คนแล้ว
โดยนอกจากการแชร์ไทม์ไลน์แล้ว ทางผู้ดูแลยังมีการตั้งกลุ่มย่อยขึ้นมาอีกกลุ่มหนึ่ง "How’s the testing line?" (ลิงก์กลุ่ม https://www.facebook.com/groups/600831167859587/) เพื่อช่วยกันแชร์ประสบการณ์จุดตรวจโควิดภายในบริสเบน ว่าแต่ละแห่งต้องรอนานเท่าไหร่ หากชาวบริสเบนสนใจอยากร่วมแชร์ข้อมูลหรือติดตามก็กดสมัครเข้าไปยังกลุ่มดังกล่าวได้
การตรวจโควิดสำหรับเดินทางเข้ารัฐควีนส์แลนด์
ตอนนี้ควีนส์แลนด์ได้ยอมรับการใช้ผลตรวจโควิดแบบทราบผลเร็ว (Rapid Antigen Test; RAT) ในการเดินทางเข้ารัฐแล้ว เริ่มใช้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2022 ที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ที่จะเดินทางเข้ารัฐควีนส์แลนด์จากพื้นที่ซึ่งมีการแพร่ระบาดของโควิด-19(hotspot) จำเป็นจะต้องมีผลตรวจแบบ PCR test เท่านั้นร่วมกับหนังสือการขออนุญาตเข้ารัฐ แต่หลังจากวันดังกล่าวผู้เดินทางสามารถเลือกใช้ผลตรวจโควิดจากทั้งสองชนิด โดยจะต้องมีผลตรวจเป็นลบก่อนเดินทางเข้ารัฐควีนส์แลนด์ภายในระยะ 72 ชั่วโมง สำหรับชุดตรวจ RAT สามารถหาซื้อได้จากร้านขายยาทั่วไป
รวมทั้งทางควีนส์แลนด์ได้ยกเลิกการบังคับตรวจโควิดหลังจากเดินทางเข้ารัฐควีนส์แลนด์ในวันที่ 5 ของทริปการเดินทาง อย่างไรก็ดีหากผู้เดินทางมีอาการป่วยคล้ายอาการของผู้ติดเชื้อโควิดหรือเป็นผู้ใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ จะยังคงต้องทำการตรวจหาเชื้อโควิดอีกครั้ง
ข้อมูลเพิ่มเติม:
การร่นระยะเวลาฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 เข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกัน (Booster dose)
ก่อนหน้านี้ทางเราเคยลงบทความเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์ไปแล้ว (https://www.mabrisbane.com/city-information/nice-living/covid-19-booster-dose) ล่าสุดทางควีนส์แลนด์จะมีการปรับนโยบายการฉีดเข็มบูสเตอร์ใหม่สอดคล้องกับทางรัฐบาลออสเตรเลียกำหนด โดยจะลดระยะเวลาหลังจากฉีดเข็มสองลงอีก
ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2022 เป็นต้นไป ควีนส์แลนด์กำหนดให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบสองเข็มระยะเวลาตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไปสามารถขอรับการฉีดเข็มบูสเตอร์ได้ โดยเป็นไปตามคำแนะนำของกลุ่มที่ปรึกษาด้านเทคนิคเกี่ยวกับการสร้างภูมิคุ้มกันโรคแห่งออสเตรเลีย(ATAGI) ที่ผู้ฉีดเข็มบูสเตอร์ระหว่าง 3 ถึง 4 เดือนจะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันสำหรับเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน
และในวันที่ 31 มกราคม 2022 มีความเป็นไปได้ว่าจะมีการร่นเวลาหลังจากฉีดครบสองเข็มลงอีกให้เหลือเพียง 3 เดือน
ลิงก์และข้อมูลสำคัญอื่น ๆ
ข้อมูลเกี่ยวกับโควิด-19 ของรัฐควีนส์แลนด์
https://www.health.qld.gov.au/coronavirus
หาคลินิกสำหรับการจองฉีดวัคซีน
https://covid-vaccine.healthdirect.gov.au/eligibility?lang=en
หาจุดวอร์คอินสำหรับฉีดวัคซีน
https://www.qld.gov.au/health/conditions/health-alerts/coronavirus-covid-19/protect-yourself-others/covid-19-vaccine/book/vaccination-locations#walkins
จองตรวจโควิดแบบ PCR test
https://www.hotdoc.com.au/ (หรือ https://www.qld.gov.au/health/conditions/health-alerts/coronavirus-covid-19/stay-informed/testing-and-fever-clinics#testing-centre-map)
