ที่มาภาพปก : Image by helen35 from Pixabay
หากลองสอบถามผู้คนตามท้องถนนว่า เมืองหลวงของออสเตรเลียคือเมืองอะไร…คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึง Sydney ด้วยชื่อเสียงและมีภาพจำจากสถานที่ชื่อดังอย่าง Sydney Opera House แท้จริงแล้ว เมืองหลวงของออสเตรเลียอย่างเป็นทางการ นั่นคือ Canberra แม้ว่าจะเป็นเมืองเล็ก ๆ ที่ไม่ได้มีชื่อเสียงและติดชายฝั่งเหมือนเมืองอื่น แต่ที่นี่เป็นเมืองศูนย์กลางของรัฐบาล มีสถานที่ราชการมากมายตั้งอยู่ในเมืองนี้ รวมถึงสถานเอกอัครราชทูตประเทศไทยประจำออสเตรเลีย และมีอีกหลายเหตุผล ที่แคนเบอร์ราเป็นอีกหนึ่งเมืองที่น่าสนใจไม่แพ้เมืองใหญ่ ๆ
ทำไมต้อง “Canberra”
ที่มาภาพ : Design n Print from Pixabay
"Canberra" คำนี้คือคำโบราณของกลุ่มพื้นถิ่น Ngunnawal หรือ Ngambri ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นี้ โดยชาวอาณานิคมอังกฤษในยุคแรกเรียกพวกเขาว่าเผ่า Canberry, Kanberri หรือ Nganbra พื้นที่นี้ถูกค้นพบโดย Joshua John Moore ในปี 1823 เจ้าของที่ดินชาวยุโรปคนแรกในภูมิภาคนี้ ที่ตั้งชื่อที่ดินของเขาว่า "Canberry" ตามชื่อคนเหล่านี้ ต่อมาคำว่า "Canberry Creek" และ "Canberry" ปรากฏครั้งแรกบนแผนที่ภูมิภาคตั้งแต่ปี 1830 ในขณะที่ชื่อที่มาจากคำว่า "Canberra" เริ่มปรากฏขึ้นตั้งแต่ประมาณปี 1857 จนถึงทุกวันนี้
เมืองนี้ตั้งอยู่ในรัฐ Australian Capital Territory (ACT) ตั้งอยู่ทางเหนือบนเทือกเขาแอลป์ออสเตรเลีย ซึ่งเป็นเทือกเขาที่สูงที่สุดในประเทศ ณ เดือนมิถุนายน 2023 ที่ผ่านมา มีประชากรในเมืองประมาณ 460,000 คน ถ้าเทียบกับเมืองใหญ่อย่างซิดนีย์ซึ่งมีผู้คนอาศัยถึง 5 ล้านกว่าคน แคนเบอร์ราถือว่ามีประชากรน้อยพอสมควร
สภาพอากาศแคนเบอร์รา มีภูมิอากาศแบบมหาสมุทร ในเดือนมกราคมเป็นเดือนที่อากาศอบอุ่นที่สุด อุณหภูมิสูงสุดโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 29 °C ในเดือนกรกฎาคมเป็นเดือนที่อากาศหนาวที่สุด อุณหภูมิจะลดลงเหลือประมาณ 12 °C ในแต่ละปี แคนเบอร์ราได้รับผลกระทบจากลมโฟห์น (Foehn Wind) ซึ่งเป็นลมที่ร้อนและแห้ง ไหลผ่านสันเขาลงมายังตัวเมืองอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะในฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งเห็นได้จากอุณหภูมิสูงสุดที่ผิดปกติเมื่อเทียบกับระดับความสูง
ตั้งตัวเป็นเมืองหลวง
ที่มาภาพ : Image by Squirrel_photos from Pixabay
ย้อนกลับไปในสมัยการตั้งถิ่นฐานของชาวยุโรป เมื่อวันที่ 1 มกราคม 1901 ออสเตรเลียได้มีการรวมอาณานิคมเป็นสหพันธ์อย่างเป็นทางการ จึงจำเป็นต้องมีการก่อตั้งเมืองหลวง ทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างซิดนีย์และเมลเบิร์น ที่ต่างต้องการให้เมืองตัวเองได้เป็นเมืองหลวง เพื่อแก้ปัญหานี้จึงมีการประนีประนอมกันและได้ข้อสรุปว่า เมืองหลวงแห่งใหม่นี้ จะสร้างขึ้นในนิวเซาท์เวลส์ ตราบใดที่อยู่ห่างจากซิดนีย์อย่างน้อย 100 ไมล์ (160 กม.) โดยจะสร้างเมืองใหม่ที่เป็นกลาง และออสเตรเลียได้เลือกเมืองแคนเบอร์ราเป็นเมืองหลวงในปี 1913 เมืองนี้มีการออกแบบสภาพแวดล้อมและผังเมืองไว้อย่างปลอดภัยและรัดกุม โดยตั้งอยู่ในแผ่นดินที่สามารถป้องกันตัวเองได้ ทำให้มีความปลอดภัยมากกว่าเมืองอื่น ๆ และยังเป็นเมืองที่มีผังเมืองแปลกตา
มีอะไรที่ Canberra
ที่มาภาพ : Photo by Green Liu on Unsplash
ทุกวันนี้เมืองหลวงของออสเตรเลีย เป็นศูนย์กลางด้านวิชาการ รัฐบาล และนวัตกรรมทางธุรกิจ โดยมีความเชี่ยวชาญในภาคอุตสาหกรรมที่หลากหลาย เช่น การศึกษาและนวัตกรรม, ความปลอดภัยทางไซเบอร์, เทคโนโลยีด้านอวกาศ, เทคโนโลยีทางการเกษตร ตลอดจนวิทยาศาสตร์สุขภาพและการกีฬา และการป้องกันประเทศ แคนเบอร์รายังเป็นเมืองที่อยู่เบื้องหลังอุตสาหกรรมการวิจัยของออสเตรเลีย และเป็นที่ตั้งของสถาบันวิจัยที่สำคัญระดับประเทศหลายแห่ง รวมถึง Australian Academy of Science และ Commonwealth Scientific and Industrial Research Organisation (CSIRO)
แคนเบอร์ราเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง 5 แห่ง ซึ่งล้วนได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลก ได้แก่ Australian National University, University of Canberra และ Australian Catholic University
เมืองหลวงแห่งนี้ยังเป็นหนึ่งในเมืองหลวงที่มีผลงานโดดเด่นที่สุดในออสเตรเลีย ในด้านนวัตกรรม และยังเป็นที่ตั้งของ Canberra Innovation Network (CBRIN) ซึ่งรวบรวมนักวิจัย ผู้ประกอบการ และสตาร์ทอัพ นักลงทุนระดับโลกที่สนับสนุนนวัตกรรม
ด้วยเครือข่ายธุรกิจด้านการป้องกันประเทศที่ได้รับการยอมรับ แคนเบอร์ราจึงเป็นศูนย์รวมด้านโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล ที่นี่สามารถจะพบกับแรงงานทักษะสูง ซึ่งพัฒนาเทคโนโลยีล้ำสมัยในทุกสาขา รวมทั้งข่าวกรอง การเฝ้าระวังและการลาดตระเวน ความปลอดภัยทางไซเบอร์ และวิทยาศาสตร์อวกาศและอวกาศ เรียกได้ว่าแคนเบอร์ราคือเมืองแห่งความมั่นคงของประเทศและนวัตกรรมระดับโลกเลยก็ว่าได้
เที่ยวไหนดีที่ Canberra
Australia War Memorial
ที่มาภาพ : Photo by Raelle Gann-Owens on Unsplash
แคนเบอร์รามีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย โดยเฉพาะมิวเซียมและอาคารสวย ๆ อย่างเช่น
- National Gallery of Australia - หอศิลป์แห่งชาติออสเตรเลีย จัดแสดงผลงานศิลปะของออสเตรเลีย, ชาวอะบอริจิน และนานาชาติที่น่าประทับใจ ไฮไลท์ได้แก่ ผลงานของ แจ็คสัน พอลล็อคศิลปินระดับโลก และสวนประติมากรรมกลางแจ้งอันสวยงาม
- National Museum of Australia - นิทรรศการและการจัดแสดงที่พาเราไปค้นพบประวัติศาสตร์สังคมของออสเตรเลีย รวมถึงวัฒนธรรมที่หลากหลายและภูมิประเทศอันเป็นเอกลักษณ์
- National Library of Australia - ห้องสมุดที่รวบรวมหนังสือและบันทึกทางประวัติศาสตร์ไว้มากมาย เช่นห้อง “Treasures Gallery” ที่จัดแสดงต้นฉบับ แผนที่ และเอกสารหายากเกี่ยวกับข้อมูลเชิงลึกของออสเตรเลีย
- Telstra Tower - หอคอยเทลสตรา หอคอยอันยิ่งใหญ่นี้ มีความสูงถึง 195 เมตรสามารถมองเห็นได้จากตัวเมือง อีกทั้งหอคอยนี้ ยังสามารถมองเห็นเมืองแคนเบอร์ราได้ทั้ง 360 องศเลย
- จุดชมวิวเมืองจากมุมสูง Mount Ainslie - ขับรถหรือเดินป่าไปยังจุดชมวิวนี้ เพื่อชมทัศนียภาพอันน่าทึ่งของเมืองแคนเบอร์ราและสถานที่สำคัญอันเป็นสัญลักษณ์
- Australia War Memorial - อนุสรณ์สถานแห่งนี้เป็นทั้งพิพิธภัณฑ์ ศาลเจ้า และห้องเก็บเอกสารขนาดใหญ่ ที่รวบรวมประวัติศาสตร์การทหารของออสเตรเลียไว้ เป็นการยกย่องประวัติศาสตร์อันน่าประทับใจ อย่าพลาดพิธี Last Post เพื่อแสดงความเคารพต่อทหารผู้สละชีวิตเพื่อชาติ โดยจัดขึ้นทุกวันตอนพระอาทิตย์ตก
ที่มาภาพ : thinkcatering.com.au
ระหว่างปียังมีเทศกาลพิเศษ ที่ทำให้เมืองนี้มีสีสัน
- Floriade Festival - เทศกาลเฉลิมฉลองฤดูใบไม้ผลิที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย จัดขึ้นทุกปีตั้งแต่เดือนกันยายนถึงตุลาคม สามารถดึงดูดผู้คนหลายแสนคนทั้งในเมืองและต่างเมือง มารวมกันที่ Commonwealth Park ซึ่งเป็นสถานที่จัดงาน
- Enlighten Illuminations - เปลี่ยนทั้งเมืองให้เต็มไปด้วยแสงสีตระการตา โดยใช้พื้นที่ด้านหน้าอาคารให้เป็นเหมือนผืนผ้าใบ สำหรับการฉายแสงสีเสียงอันน่าทึ่ง สัมผัสเมืองในรูปแบบใหม่ที่สว่างไสว อีกทั้งยังมีงาน Canberra Balloon Spectacular ที่เกิดขึ้นในเทศกาลนี้ เป็นงานแสดงบอลลูนจากทั่วออสเตรเลีย โดยมีการปล่อยบอลลูนจาก Parliamentary Triangle ทุกวัน เราสามารถจองเที่ยวบินบอลลูน เพื่อชมทัศนียภาพของเมืองแคนเบอร์ราได้อีกด้วย
- ปิดท้ายด้วย The National Multicultural Festival - เทศกาลพหุวัฒนธรรมแห่งชาติ จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในเดือนกุมภาพันธ์ ตลอดสามวันนี้เมืองจะเต็มไปด้วยสีสันและแสงสีเสียง ในหลากหลายเชื้อชาติ ภายในงานมีการแสดงทางวัฒนธรรม เวิร์กช็อป และแผงขายอาหารจากชุมชนมากถึงกว่า 170 ร้านค้า นอกจากความสนุกที่เกิดขึ้นภายในงานแล้ว ยังได้เรียนรู้เกี่ยวกับประเพณีทั่วโลกที่รวมไว้ในงาน และเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศที่แสนมีชีวิตชีวาจากความหลากหลาย
ก่อนจากกันไป เรามาสรุป 5 จุดเด่น ว่าทำไม Canberra ถึงเป็นเมืองที่น่ามาอยู่หรือมาเยือน
1. เมืองคุณภาพชีวิตดี : เมืองแคนเบอร์ราได้รับการจัดอันดับเป็นเมืองที่โดดเด่นในด้านความเป็น เกิดขึ้นจากระบบสาธารณสุข การศึกษา และโครงสร้างพื้นฐานที่ยอดเยี่ยม
2. เมืองสีเขียว : เมืองนี้มีชื่อเสียงในด้านสวนสาธารณะ เขตอนุรักษ์ธรรมชาติ และเส้นทางปั่นจักรยานมากมาย
3. ผังเมืองที่วางแผนมาอย่างดี : การออกแบบเมืองแคนเบอร์รา ทำให้การเดินทางสะดวก มีเครือข่ายถนนและพื้นที่สาธารณะที่จัดระบบอย่างดี
4. ศูนย์กลางทางวัฒนธรรม : การเกิดขึ้นของพิพิธภัณฑ์และหอศิลป์แห่งชาติ ทำให้แคนเบอร์ราเป็นศูนย์กลางของผู้ที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์และศิลปะ
5. ปลอดภัยและสะอาด : แคนเบอร์ราเป็นหนึ่งเมืองที่ปลอดภัยและสะอาดในออสเตรเลีย ด้วยข้อดีเหล่านี้ ทำให้ดึงดูดคนที่อยากมาสร้างครอบครัว รวมถึงคนที่อยากเกษียณตัวเองในเมืองอันแสนสงบ
อ้างอิงข้อมูล :
https://insiderguides.com.au
https://businessevents.australia.com
https://en.wikipedia.org/wiki/Canberra