ในสภาวะเช่นนี้ เชื่อว่าใครหลายคน (หรือแทบทุกคนเลยก็ว่าได้) ต่างเช็คข่าวสารวิกฤต COVID-19 แทบจะทั้งวันตั้งแต่ตื่นนอน ซึ่งนั่นรวมไปถึงจำนวนตัวเลขต่าง ๆ ที่ถูกรายงานในแต่ละวัน ทั้งยอดผู้ติดเชื้อ, ยอดผู้เสียชีวิต รวมไปถึงจำนวนผู้ที่รักษาหาย ออกจากโรงพยาบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่กำลังอยู่ในช่วงกักตัว 14 วัน อาจจะมีความกังวลมากกว่าคนอื่น เราจึงอยากให้บทความนี้เป็นกำลังใจเพื่อน ๆ ทุกคน ต่อสู้ภาวะนี้ไปด้วยกัน รักษาความสะอาดและสุขภาพ ให้แข็งแรงทั้งกายและใจ ซึ่งการพักจากข่าวสารรอบตัว มาอ่านเนื้อหาน่ารู้น่าสนใจ ก็ช่วยให้ลดความจึงเครียดได้อีกทาง
วันนี้เราเองก็อยากจะมาเล่าเรื่องเกี่ยวกับ “ตัวเลข” เหมือนกัน แต่เป็นตัวเลขที่เกี่ยวข้องกับประเทศออสเตรเลีย มามองประเทศในมุมที่น่าสนใจ ทั้งในด้านประวัติศาสตร์และการท่องเที่ยว ไว้เอาไปชวนคุยกับเพื่อน ๆ แก้เบื่อกัน ก็ดีเหมือนกันนะ
มาเริ่มต้นกันด้วยอันดับขนาดประเทศ และ “6” คืออันดับตัวเลขของประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ออสเตรเลียได้มาครอง รองลงมาจาก ประเทศรัสเซีย, แคนาดา,จีน, สหรัฐอเมริกา และ บราซิล ประเทศหรือทวีปแห่งนี้ มีขนาดพื้นที่ใหญ่ถึง 7,692,024 ตารางกิโลเมตร เป็นประเทศที่มีน้ำทะเลล้อมรอบ จนเป็นเหมือนเกาะขนาดยักษ์ พูดได้ว่าเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลกเลย ภายในประเทศแบ่งการปกครองพื้นที่ออกเป็น 6 รัฐ และ 10 เขตแดน ได้แก่เช่น..
New South Wales (NSW) รัฐที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในประเทศ มีเมืองหลวงที่มีชื่อเสียงอย่าง Sydney หากนึกถึงเมืองแห่งนี้ ทุกคนล้วนจินตนาการถึง Sydney Opera House หนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญของโลก
Victoria (VIC) รัฐขนาดเล็ก (แต่ไม่ได้เล็กที่สุด) ที่โอบล้อมไปด้วยงานศิลปะ ธรรมชาติ และผู้คนที่แสนเป็นกันเอง รวมไปถึงวัฒนธรรมร้านกาแฟที่มีอยู่ทุกหัวมุมถนนของเมืองใหญ่อย่าง Melbourne
Queensland (QLD) รัฐที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี มีเมืองหลวงคือ Brisbane และมีเมืองติดทะเลที่น่าหลงไหลอย่าง Gold Coast เป็นรัฐสวรรค์ของคนที่รักแสงแดด ชายหาด และ การโต้คลื่น
Western Australia (WA) รัฐที่ตั้งอยู่ภูมิภาคฝั่งตะวันตก มีขนาดพื้นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ เมืองหลวงคือ Perth จุดหมายปลายทางของผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติ ป่าเขา และความสวยงามของธรรมชาติอันแปลกตา อย่าง Pink Lake ทะเลสาบสีชมพูขนาดใหญ่ ที่สามารถพบได้ที่รัฐนี้
South Australia (SA) รัฐที่เต็มไปด้วยไร่องุ่นอันกว้างใหญ่ และโรงผลิตไวน์ที่มีชื่อเสียงตั้งอยู่ในภูมิภาคนี้ มีเมืองสุดชิลอย่าง Adelaide และสถานที่มีชื่อเสียงอย่าง Kangaroo Island เกาะที่เราสามารถมองเห็นแสงเหนือ (Aurora) ได้นั่นเอง
Tasmania (TAS) รัฐที่เป็นเกาะทางตอนใต้สุดของผืนแผ่นดินใหญ่ และเป็นรัฐที่เล็กที่สุดของประเทศ หากใครมองหาการใช้ชีวิตเรียบง่าย เต็มด้วยธรรมชาติและเงียบสงบ ที่เมือง Hobart สามารถตอบโจทย์มากเลยทีเดียว
Northern Territory (NT) เขตแดนขนาดใหญ่กินพื้นที่จากใจกลางประเทศไปทางตอนเหนืออันแสนร้อนระอุใกล้เขตศูนย์สูตร เป็นที่ตั้งของ Uluru ก้อนหินขนาดใหญ่ใจกลางประเทศออสเตรเลียและยังเป็นมรดกโลกที่มีชื่อเสียงอีกด้วย มี Darwin เป็นเมืองหลวง
Australian Capital Territory (ACT) เขตเมืองหลวง ซึ่งเป็นที่ตั้งของ Canberra เมืองหลวงประเทศออสเตรเลีย เขตแดนแห่งนี้เป็นที่ตั้งสำนักงานสำคัญของทั้งรัฐบาลออสเตรเลียและจากหลายประเทศ มีสถานทูตกว่า 80 ประเทศตั้งอยู่ในพื้นที่
“1788” คือปีที่เรือของสหราชอาณาจักรฯ ได้เทียบท่าลงแผ่นดินประเทศนี้เป็นครั้งแรก นั่นคือจุด Port Jackson ซึ่งในปัจจุบัน Sydney Opera House สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิต ได้ตั้งอยู่บริเวณอ่าวนี้นั่นเอง ซึ่งเป็นปีที่สำคัญมาก นับเป็นก้าวแรกของประวัติศาสตร์โลก ที่ได้มีการค้นพบดินแดนแห่งใหม่ ในช่วงแรก Great Britain ได้ยึดครองซีกตะวันออกส่วนหนึ่งของประเทศไป ซึ่งในปัจจุบันก็คือรัฐ New South Wales ในครั้งโบราณกาล ทหารอังกฤษใช้พื้นที่อันกว้างขวางนี้ ในการขนส่งนักโทษ หรือผู้ที่กระทำความผิดต่อกฏหมายในสหราชอาณาจักรฯ ซึ่งวันที่ชาวยุโรปต่างถิ่นยกพลขึ้นนั่นคือ 26 มกราคม 1788 จึงทำให้วันนั้นเองได้ถูกยกให้เป็นวันชาติ Australia Day ให้ชาวออสซี่ได้เฉลิมฉลองกันในทุกปี เพราะเป็นวันสำคัญที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ ซึ่งรู้หรือไม่ว่า ทวีปนี้ไม่ได้ถูกเรียกว่า “Australia” ในตั้งแต่ครั้งแรก แต่กลับถูกตั้งชื่อว่า “New Holland” เพราะต่อมาได้กลายเป็นดินแดนที่ชาวยุโรป ต่างเข้ามาจับจองพื้นที่ต่าง ๆ ซึ่งต่างเดินทางมาทางเรือเช่นเดียวกัน ปัจจุบันเราจะสามารถเห็นฃศิลปะ และสถาปัตยกรรมยุโรปที่หลงเหลืออยู่ในประเทศอีกด้วยนะ
“35,800” คือตัวเลขกิโลเมตรโดยประมาณ ของระยะทางแนวชายฝั่งแผ่นดินใหญ่ประเทศออสเตรเลียรวมถึงภูมิภาค Tasmania นึกภาพเหมือนเราเอาถนนที่ติดแนวชายฝั่ง มากางออกมาเป็นเส้นตรง เริ่มและจบที่จุดเดียวกันนั่นเอง ตัวเลขเยอะขนาดนี้ ถ้าจะให้เห็นภาพชัดอีก ก็เหมือนระยะทางจาก Brisbane ไปยัง Perth เมืองฝั่งตะวันตกแบบเดินทางไปกลับถึง 4 รอบเลยทีเดียว
ด้วยความกว้างใหญ่นี้ ทำให้ออสเตรเลียเป็นทั้งชื่อประเทศ และชื่อทวีปในคราวเดียว อีกทั้งความที่น้ำทะเลล้อมรอบทั้งประเทศแบบไม่มีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านใด ๆ ทำให้มีพื้นที่ทางเศรษฐกิจ (Exclusive Economic Zone) ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก ที่นอกจากพื้นบนผืนแผ่นดินแล้ว ยังขยายไปยังพื้นที่ทางทะเลและพื้นที่ส่วนหนึ่งในขั้วโลกใต้ Antarctic อีกด้วยนะ
“4,000” คือระยะทางความยาวกิโลเมตรโดยประมาณ จากฝั่งตะวันตกไปจนถึงตะวันออกของประเทศออสเตรเลียแผ่นดินใหญ่ (ไม่นับรวมเกาะด้านนอก) หากขับรถจากเมืองขวาดสุดที่ Melbourne ไปซ้ายสุดที่ Perth แบบไม่หยุดพัก อาจต้องใช้เวลาถึง 3 วันเลยทีเดียว ถ้าให้นึกภาพง่าย ๆ เกือบจะเท่ากับระยะทางไปกลับจากเหนือสุดลงมาใต้สุดของประเทศไทย
ส่วนระยะความกว้างของประเทศ จะสั้นกว่าเท่าตัวนึง หากวัดจาก Cape York Peninsula ทางตอนเหนือ ลงมาจนถึง Wilsons Promontory ทางตอนใต้รัฐ Victoria มีความยาวถึง 2,000 กิโลเมตรเลย ซึ่งตัวเลขความกว้างและความยาวที่น่าสนใจนี้เอง ทำให้มนุษย์อย่างเรา อยากออกไปท้าทายสภาพภูมิประเทศอันกว้างใหญ่ จนกลายเป็นเส้นทาง Road Trip ‘The Big Lap’ เส้นทางที่เราสามารถออกเดินทางรอบประเทศด้วยรถยนต์ บนถนน National Highway 1 ถนนไฮเวย์ที่ยาวที่สุดในโลก! ยาวกว่าเส้น Trans-Siverian Highway อีกต่างหาก ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นเส้นทางยอดนิยมของนักเดินทางสายลุย โดยเฉพาะวัยรุ่นที่มีเวลาและชอบความท้าทาย ด้วยระยะทางถึง 15,097 กิโลเมตร ที่ผ่านทุกเมืองใหญ่ในประเทศ ต้องใช้เวลาถึงครึ่งเดือนกันเลยทีเดียว กว่าจะขับจบเส้นทางเป็นวงกลม แบบไม่แวะเที่ยวเลยนะ
จากเมื่อสักครู่ได้พูดถึงการเดินทางภายในประเทศด้วยรถยนต์ “48” คือจำนวนผู้กล้าที่สามารถ”เดินเท้า”ข้ามซีกประเทศออสเตรเลียได้สำเร็จ ทั้งเส้นทางจากฝั่งเหนือ-ใต้ หรือ จากซีกตะวันออก-ตะวันตก ที่การเดินทางที่ก้าวผ่านทั้งอุปสรรคทางภูมิประเทศและสภาพอากาศ ทั้งที่หนาวยะเยือก และร้อนระอุ ด้วยร่างกายและสองเท้าของมนุษย์หนึ่งคน บุคคลแรกที่สามารถทำภารกิจได้สำเร็จและปลอดภัย คือ Robert Burke ทหารสัญชาติไอร์แลนด์ที่ต้องการสำรวจประเทศออสเตรเลียด้วยสองเท้าของเค้าเอง ได้เริ่มต้นเดินตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม 1860 จากเมือง Melbourne ไปยังจุดหมายที่ Karumba ที่อยู่ทางตอนเหนือของรัฐ Queensland ซึ่งการเดินทางทริปนี้ ถือเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ในยุคที่ไม่มีเทคโนโลยีล้ำสมัยและความสะดวกสบายเท่าทุกวันนี้ ความสำเร็จนี้เอง ได้ถูกยกย่องให้เป็นชื่อทริป “Burke and Wills Expedition” ด้วยระยะทางทั้งหมด 3,250 กิโลเมตร !
อีกหนึ่งบุคคลที่มีเรื่องราวการพิชิตเส้นทางที่น่าสนใจ จนถูกบันทึกใน Guinness Book of World Records ด้วยการเดินอันแสนยาวนานถึง 3 ปี กับ Bob Hanley บุคคลที่มีความมุ่งมั่นแรงกล้า การเริ่มต้นออกเดินทางครั้งนี้ จุดประกายจากสภาพร่างกายที่เค้าที่ไม่สมบูรณ์ แพทย์วินิจฉัยว่าเค้าจะไม่สามารถเดินเท้าได้ในไม่ช้า เนื่องจากโรคกระดูกสันหลังอักเสบ ด้วยความที่ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา จึงตัดสินใจออกเดินทางจาก Sydney วันที่ 24 เมษายน 1975 และเดินกลับมาจบที่ Sydney อีกครั้งเมื่อ 6 พฤษภาคม 1978 ด้วยอุปกรณ์ช่วยพยุง จน Guinness Book of World Records ต้องจารึกให้เป็นผู้พิชิตที่เดินทางด้วยเท้าและใช้อุปกรณ์ช่วยพยุงได้ยาวนานและไกลที่สุดในโลก ด้วยระยะทางถึง 14,500 กิโลเมตร ! แม้ว่าตัวเลขจะมากมาย ระยะทางแสนยาวไกล แต่หากเรามีความเชื่อ ความมุ่งมั่นทั้งร่างกายและจิตใจ สักวันความสำเร็จก็อยู่ตรงหน้า
เป็นอีกตัวเลขที่มีความสำคัญของโลก “20” นั่นคือจำนวนแหล่ง/ สถานที่ท่องเที่ยว/ สถาปัตยกรรมและโบราณสถาน ที่ถูกบันทึกลงใน The World Heritage (UNESCO) ซึ่งต้องเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญ เก่าแก่ ทั้งในแง่ของธรรมชาติที่หากยาก และวัฒนธรรมเก่าแก่โบราณ หรือที่เราต่างเรียกว่า ”มรดกโลก” นั่นเอง สามารถเข้าไปอ่านลิสต์รายชื่อทั้งหมดได้ที่นี่เลย สถานที่หนึ่งที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ เพราะเรียกได้ว่าเป็นภาพ Landmark สำคัญของประเทศออสเตรเลียและของโลกเลย นั่นคือ "Uluru-Kata Tjuta National Park" หรือที่เรามักเรียกชื่อสั้น ๆ ว่า “อูลูรู” ที่นี่ไม่ได้เป็นแค่เพียงภูเขาหินทรายขนาดใหญ่ภายนอก แต่ภายในยังแฝงถึงมรดกทางธรรมชาติ, วัฒนธรรม, ความเชื่อ มาตั้งแต่โบราณกาล และถูกสืบทอดมาอย่างยาวนานจนถึงทุกวันนี้ ที่นี่เป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อดั้งเดิมของชาวพื้นเมืองอย่างชาวอะบิริจินอีกด้วย แม้ว่าในอดีตจะเป็นพื้นที่ปิด แต่ทุกวันนี้ทาง UNESCO อนุญาตนักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้บางส่วน ซึ่งพื้นที่ถูกจำกัดไว้อย่างรัดกุม เพื่อคงไว้ซึ่งความสมบูรณ์และเป็นการแสดงความเคารพพื้นที่ อีกหนึ่งกิจกรรมไฮไลท์ของที่นี่ คือการชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก โดยมีภูเขาทรายแห่งนี้อยู่เบื้องหน้า เราสามารถมองเห็นสีสันของภูเขาทั้งสีส้ม, สีแดง และสีม่วงที่เปลี่ยนไปตามกาลเวลา แสนจะโรแมนติกสุด ๆ ไปเลย
“223” คือจำนวนอุทยานแห่งชาติ (Nation Parks) ทั้งหมดเฉพาะในเขตรัฐ Queensland ซึ่งถือว่าเป็นรัฐที่มีแหล่งอุทยานแห่งชาติ จำนวนมากที่สุดในประเทศเลยเลยทีเดียวเชียว คราวนี้เราอยากจะมาแนะนำอุทยานฯแห่งหนึ่ง ชื่อว่า "Bunya Mountains National Park" เพราะเป็นสถานที่ที่ถูกขึ้นทะเบียนมาอย่างยาวนานกว่าร้อยปี ตั้งแต่ปี 1908 ภายในเป็นเขตป่าร้อนชื้นตั้งอยู่ทางตอนใต้ของรัฐ ซึ่งเต็มไปด้วยป่าสน Bunya Pines ที่หลงเหลือมากที่สุด นอกจากจะมีพื้นที่ภายในอุทยานให้เราได้ Camping ท่ามกลางแมกไม้ อีกทั้งยังมีเส้นทางเดินป่า ให้เหล่านักเดินป่า ได้ออกเดินเท้าเข้ามาสัมผัสความสวยงามตามจุดชมวิวระหว่างทาง ด้วยความยิ่งใหญ่อลังการของพืชพันธุ์และสิ่งมีชีวิตหลากหลาย ที่นี่จึงถูกขึ้นทะเบียนกับ International Union for Conservation of Nature and Natural Resources (IUCN) องค์กรระดับโลก ที่มีส่วนช่วยเหลือและคุ้มครองความสมบูรณ์ทางธรรมชาติอีกด้วย และยังมีอีก 222 อุทยานแห่งชาติในรัฐ Queensland รอให้เราได้ออกไปสัมผัสความอลังการ หมดโควิตนี้แล้ว อย่าลืมลิสอุทยานแห่งชาติเหล่านี้ ให้เป็น Destination ต่อไปของเราด้วยล่ะ
น่าสนใจเลยใช่มั้ยล่ะ กับข้อมูลเรานำมาฝากใครครั้งนี้ เชื่อว่าเพื่อน ๆ ได้อ่านแล้ว อาจจะมีแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ประเทศนี้เพิ่มเติมมากขึ้น อีกทั้งได้เจอเรื่องราวน่าสนใจใหม่ ๆ อีกด้านหนึ่งของประเทศออสเตรเลียด้วยเหมือนกัน
ตอนต่อไปเราจะมาเล่าเรื่องอะไรกันต่อ อย่าลืมติดตามกันด้วยนะ