1 วันไปไหน...ไป (ดูคน) ตกปลา มองฟ้ายามเย็นที่ Shorncliffe Pier
กิจวัตรประจำในวันว่างของเรา...แน่นอน ก็คือการมองหาที่เดินเล่นที่ใหม่ ๆ ครั้งนี้อยากจะออกไปเห็นท้องฟ้าริมทะเลซะหน่อย ถ้าเป็นช่วงพระอาทิตย์ขึ้น เกรงว่าคงต้องตื่นตั้งแต่ตี 3...ไม่น่าไหว หรือจะวิวพระอาทิตย์ตกริมทะเลก็จะไม่น่าเป็นไปได้ (ก็แหงล่ะ ทิศตะวันออกสุดขอบประเทศแบบนี้) เมื่อเลื่อนรูปภาพไปเรื่อย ๆ แล้วเราก็ไปพบกับภาพนี้...
คุณพระ! นี่คือท้องฟ้ายามเย็นที่ตามหา สีส้มอมชมพูสุดลูกหูลูกตา พร้อมกับวิวสะพานที่ทอดไปยังทะเลเบื้องหน้า...บ้าจริง ชั้นต้องไปที่นี่ให้ได้ และเมื่อได้ตามลายแทง Google Maps ไป ค้นพบว่าไม่ได้ไกลจากตัวเมืองแถมนั่งรถไฟไปได้ ที่นั่นก็คือ... “Shroncliffe Pier” ท่าเทียบเรือที่ยืนออกไปทะเล ปัจจุบันกลายเป็นพื้นที่สำหรับนักตกปลาให้มาเพลิดเพลินและประลองทักษะตัวเองทั้งมือใหม่ และมืออาชีพ น่าสนใจล่ะซิว่าบรรยากาศเป็นอย่างไร เดินทางตามมาเลย...
จุดเริ่มต้นการเดินทางครั้งนี้ เราสามารถขึ้นรถไฟได้จากสถานี Central Station ได้เลย แต่เราเลือกที่จะขึ้นจากสถานี South Brisbane หนึ่งในสถานีเก่าแก่ ที่ยังคงไว้ซึ่งโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมสุดคลาสสิค เค้าโครงดั้งเดิมที่เห็นได้ชัดคือด้านหน้าทางเข้าอาคาร ที่ก่อสร้างด้วยอิฐสีน้ำตาล และมีซุ้มทางเค้าแบบโค้ง ที่พบเห็นได้ไม่มากในเมืองบริสเบน
หลังจากนั่งรถไฟไปยาว ๆ เกือบชั่วโมง มุ่งขึ้นไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และลงที่สถานีสุดท้าย Shorncliffe Station หากใครไปถึงตอนเย็น ๆ ใกล้มืด ไม่ต้องห่วงว่าจะกลับเข้าเมืองทันหรือเปล่า เพราะรอบรถไฟมีถึงดึก ๆ 5 ทุ่ม เที่ยงคืนเลย (แต่จะอยู่ยาวให้ยุงกัดทำไมล่ะเนอะ)
เพียงออกจากสถานี ก็สัมผัสได้ถึงลมเย็น ๆ ที่ปะทะเข้ามาให้เราได้สูดเข้าไปเต็มปอด พร้อมกับบรรยากาศอันร่มรื่นจากต้นไม้สูงใหญ่รายล้อมโดยรอบ เดินเล่น ฟังเพลง ช้า ๆ สบาย ๆ เป็นการพักผ่อนจิตใจและความเหนื่อยได้ดีเลยแหละ
ระหว่างมุ่งหน้าตามหาทะเล ก็เดินผ่านบ้านหลังน้อยใหญ่แสนน่ารัก หน้าบ้านมีการตกแต่งต้นไม้ ดอกไม้สวยงาม บางบ้านเหมือนเพิ่งจัดงานฉลองวันเกิดให้กับเด็ก ๆ รวมถึงรถคันน้อย คันใหญ่ หรือรถเก่าสุดวินเทจ จอดคู่หน้าบ้านอย่างดูดี
เมื่อใกล้ถึงทะเลและสะพานที่เราตามหา จะพบกับสวนหย่อมเล็ก ๆ ระหว่างที่เดินไป ถ่ายรูปไป ก็พบกับคุณลุงคนนึงทำอะไรไม่รู้ตรงต้นไม้ แถมได้ยินเสียงนกเจี๊ยวจ๊าว เลยเข้าไปมองดู ก็พบคุณลุงกำลังป้อนอาหารให้นกทีละคำ ๆ หยุดป้อนปุ๊ป นกก็ร้องปั๊ป คุณลุงบอกว่าเค้าอยู่แถวนี้ ออกมาเดินเล่นตอนเย็น ๆ จะเห็นนกตัวนี้เกาะ เลยมาให้อาหารอยู่เรื่อย ๆ น่ารักดีจังเลย
เข้าสาระกันบ้างดีกว่า ที่ “Shorncliffe Pier” สะพานท่าเรือไม้ที่ใหญ่ที่สุดในบริสเบน ก่อสร้างเมื่อปี 1883-1884 เพื่อเป็นจุดจอดเรือขนส่งสินค้า แต่ก่อนหน้านั้นก็มีความพยายามที่จะก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 1865 แล้ว แต่ก็ถูกล้มเลิกไป เพราะเกิดการล๊อบบี้กันในรัฐบาลยุคนั้น หลังจากเปิดใช้เป็นท่าเรือส่งสินค้าเป็นเวลา 66 ปี จนมาถึง 1950 ก็ได้ยุติการใช้งานอย่างเป็นทางการ แต่ท่าเรือนี้ก็ไม่ได้ถูกปล่อยให้รกร้างว่างเปล่า ในเดือนเมษายนของทุกปี จุดนี้คือจุดสตาร์ทเรือใบในงาน Brisbane to Gladstone Yacht Race งานแล่นเรือใบประจำปีที่จัดขึ้นมาอย่างยาวนาน
แต่ด้วยเวลาที่ผ่านไป ความสวยงามของสะพานก็ลดลง รวมถึงโครงสร้างความปลอดภัยที่ต้องคำนึง ทำให้มีการรีโนเวทสะพานครั้งใหญ่ ที่คงดีไซน์ดั้งเดิมเหมือนในอดีต ซึ่งสิ่งที่เพิ่มเติมคือโครงสร้างที่แข็งแรง ปลอดภัยยิ่งขึ้น จนเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2006 ที่ผ่านมา ได้เปิดตัวท่าเรือโฉมใหม่อย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นจุดพักผ่อนหย่อนใจสำหรับชาวบริสเบน รวมไปถึงนักตกปลาทั้งมือใหม่หรือนักตกปลาขั้นเทพ จนถึงทุกวันนี้ ว่าแล้ว ก็มองเห็นสะพานอยู่ด้านหน้า เดินไปดูกันเถอะ ก่อนฟ้าจะมืด
ที่นี่ต้อนรับนักตกปลามากแค่ไหน จะเห็นว่ามีจุดพักของ ก๊อกน้ำ จุดอำนวยความสะดวก รวมไปถึงป้ายข้อมูลชนิดของปลาที่พบได้บริเวณนี้ จะเห็นว่ามีมากันทั้งครอบครัว หรือพี่ชายพาน้อง ๆ มาเรียนรู้การตกปลากันที่นี่ โดยเฉพาะตอนเย็นแดดร่มลมตกในวันหยุด จะคึกคักเป็นพิเศษ เอาซะไม่มีที่ให้เรานั่งหลบแดดกันเลย
เนื่องจากเป็นพื้นที่ตกปลาแล้ว เลียบเส้นทางริมชายฝั่งจะเป็นเส้นทางออกกำลังกาย โดยมีชื่อว่า “Sandgate Forshore Walk” ให้ได้ยืดเส้นยืดสาย หรือปั่นจักรยานก็ได้
เมื่อพระอาทิตย์เริ่มหลบลง ก่อนฟ้ามืดลง ก็คงต้องขอตัวกลับบ้านก่อน ยิ่งมืด ยุงน่าจะเยอะ เผื่อเวลาหลงทางอีก ระหว่างรอรถไฟที่สถานี เลยได้จ้องมองพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าอย่างเงียบ ๆ ช่างเป็นเวลาที่สงบภายในใจเหลือเกิน
หากใครมีเวลาทั้งวัน สามารถมาได้ตั้งแต่เช้า ชวนเพื่อน ๆ มาปิกนิค หรือจะบาร์บีคิวกับเตาสาธารณะที่ตั้งไว้ในสวนหย่อมใกล้ ๆ นั่งเล่นริมทะเล ลองตกปลา จนถึงพระอาทิตย์ตกก็ดีไปอีกแบบ
สิ่งที่เราได้กลับมา ไม่ใช่แค่ความสวยงาม หรือวิวสวย ๆ ในภาพเท่านั้นที่ได้ แต่ประสบการณ์ที่ได้พบเห็นผู้คนที่หลากหลาย และเสพบรรยากาศอันแสนสดชื่น ที่จะหาที่ไหนไม่ได้เลย หากไม่ออกเดินทางด้วยตัวเราเอง...
สัปดาห์หน้าจะพาไปไหน หรือจะมีเรื่องอะไรมาเล่าให้อ่านกันอีก ติดตามกันต่อได้เลยจ้า