ออสเตรเลีย...ประเทศที่เต็มไปด้วยทิวทัศน์อันน่าทึ่ง ที่ดูเหมือนจะไม่มีวันสิ้นสุด ไม่ว่าแนวชายฝั่งที่เผยให้เห็นความสวยงามของมหาสมุทร หรือจะออกไปเดินเล่นในป่าฝนที่มีอายุเก่าแก่ รวมถึงการขับรถท่องเที่ยว หรือที่เรามักจะเรียกกันติดปากว่า “Road Trip” ออสเตรเลียก็มีทุกสภาพแวดล้อมที่ต้องการ ออกไปซึมซับทิวทัศน์สองข้างทางกับวิวที่เปลี่ยนไปคือวิธีที่ดีที่สุดในการสัมผัสความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ
บทความนี้ได้รวบรวมเส้นทางที่น่าประทับใจทั้งหมด 8 เส้นในออสเตรเลีย โดยแบ่งออกเป็น 2 ตอน เส้นทางเหล่านี้ไม่ใช่แค่เส้นทางจากจุด A ไปยังจุด B เพียงอย่างเดียว แต่ระหว่างทางยังมีความน่าสนใจที่สามารถแวะ เพื่อชมทัศษนียภาพอันน่าทึ่งและวัฒนธรรมอันหลากหลาย อีกทั้งกำลังเข้าสู่ช่วงสิ้นปี เผื่อเป็นไอเดียวางแผนท่องเที่ยวของใครได้หลายคน
- The Great Barrier Reef
- Great Ocean Road
- Grand Pacific Drive
- Great Alpine Road
1. The Great Barrier Reef (Queensland)
ที่มาภาพ : Photo by Manny Moreno on Unsplash
สัมผัสกับความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของควีนส์แลนด์ตอนเหนือ กับเส้น Captain Cook Highway ถนนเลียบชายฝั่งที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของออสเตรเลีย ซึ่งถนนทอดยาวจากเมืองแคนส์ (Cains) ชมทัศนียภาพของทะเลและชายหาดที่เรียงรายไปด้วยต้นปาล์ม ไปจนถึงแหลมทริบิวเลชั่น (Cape Tribulation) เป็นระยะทาง 140 กิโลเมตร ระหว่างทางจะได้พบกับแหล่งมรดกโลกของยูเนสโก 2 แห่ง ได้แก่ แนวปะการังเกรทแบร์ริเออร์ (Great Barrier Reef) และป่าฝนเดนทรี (Daintree Rainforest) ป่าฝนเขตร้อนที่เก่าแก่ที่สุดในโลก
ระหว่างทางสามารถแวะที่เมือง Port Douglas ซึ่งสามารถออกไปดำน้ำตื้น ไปยังแนวปะการังเกรทแบร์ริเออร์ได้ อย่าลืมแวะไปที่หุบเขามอสแมน (Mossman Gorge) ที่ ๆ เราสามารถเดินป่าฝนอันอุดมสมบูรณ์และลงเล่นน้ำในลำธารที่ใสสะอาดและเย็นสบาย และเมื่อเดินทางไปถึงแหลมทริบิวเลชั่น จะพบกับชายหาดที่เงียบสงบ หรือจะเข้าร่วมทัวร์เพื่อเข้าไปศึกษาสัตว์ป่าและพรรณพืช
จุด Highlights เส้นทางนี้
- Palm Cove: เมืองเล็ก ๆ ริมชายหาดที่สวยงาม เหมาะกับการหยุดพักเพื่อพักผ่อนหย่อนใจหรือรับประทานอาหาร
- หาด Ellis: ชายหาดที่เงียบสงบ มีทิวทัศน์ที่สวยงามและมีผู้คนพลุกพล่านน้อยกว่า
- Rex Lookout: จุดแวะถ่ายรูปที่ไม่ควรพลาด ชมทัศนียภาพอันงดงามของแนวชายฝั่งและมหาสมุทร
- Daintree Rainforest: ป่าเขตร้อนที่มีเส้นทางเดินป่ามากมายและต้นไม้ดึกดำบรรพ์
2. Great Ocean Road (Victoria)
ที่มาภาพ : Photo byHugo Kruip on Unsplash
นี่คือเส้นทางขับรถที่ดีที่สุดแถมยังมีชื่อเสียงมากที่สุดเส้นหนึ่งของประเทศ ด้วยความสวยงามแนวชายฝั่งระหว่างทางราวกับภาพวาด ทำให้เส้นทางนี้อาจเป็นเส้นทางในฝันของใครหลายคน อีกทั้งระหว่างทางยังมีจุดแวะที่มีชื่อเสียงอีกด้วย
Great Ocean Road เส้นนี้ทอดยาวประมาณ 243 กิโลเมตรเลียบชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐวิกตอเรีย สร้างโดยทหารที่กลับมาจากสงครามโลกครั้งที่ 1 เพื่อเป็นการแสดงความอาลัยแด่สหายร่วมรบที่เสียชีวิต สัมผัสกับทัศนียภาพธรรมชาติที่สวยงามและหลากหลาย ผ่านเมืองริมทะเลอันแสนอบอุ่น ผ่านป่าฝนหนาทึบ ผ่านเสาหินปูนรูปร่างแปลกตามากมาย ผ่านหน้าผาสูงชันของมหาสมุทรใต้ ไปจนถึงป่าดิบชื้นอันเขียวชอุ่มของอุทยานแห่งชาติ และแน่นอนว่ามีโอกาสได้พบกับสัตว์ป่าของออสเตรเลีย เช่น โคอาล่าและจิงโจ้ ตลอดเส้นทางอีกด้วย
จุด Highlights เส้นทางนี้
- The Twelve Apostles: เสาหินปูนอันโดดเด่นที่ตั้งตระหง่านอย่างงดงามจากมหาสมุทรใต้ แม้ว่าตอนนี้จะไม่ครบ 12 หลักแล้วก็ตาม จากการกัดเซาะของคลื่นแนวชายฝั่งเป็นเวลานาน
- Loch Ard Gorge: อ่าวที่งดงามพร้อมประวัติศาสตร์เรืออับปางที่น่าสนใจ
- Otway Rainforest: ป่าฝนเขตอบอุ่นที่อุดมสมบูรณ์พร้อมเส้นทางเดินป่าและน้ำตก เช่น Erskine Falls
- Cape Otway Lighthouse : ประภาคารเก่าแก่ที่นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมวิวมุมสูง
- Port Campbell, Apollo Bay: เมืองเล็ก ๆ น่ารัก เหมาะสำหรับการแวะพักค้างคืน
- Torquay, Anglesea : เมืองเล็ก ๆ ที่มีชายหาด เช่น Bells Beach เหมาะสำหรับไปเล่นเซิร์ฟ
- Teddy's Lookout : จุดชมวิวมุมสูงที่ควรค่าแก่การแวะ
3. Grand Pacific Drive (NSW)
ที่มาภาพ : tripadvisor.com.au
ถนนเลียบชายฝั่งที่สวยงาม เป็นอีกเส้นทางชายฝั่งทะเลที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของออสเตรเลีย อีกทั้งการเดินทางไปยัง Grand Pacific Drive ค่อนข้างง่าย มีทิวทัศน์ก็สวยงามตลอดทั้งปี เริ่มต้นจากทางใต้ของซิดนีย์จากอุทยานแห่งชาติ Royal อุทยานฯที่เก่าแก่ที่สุดอันดับสองของโลกอันดับ รองลงมาจาก Yellowstone ในสหรัฐอเมริกา เส้นทางทอดยาวผ่านชายหาดที่สวยงามและเมืองชายฝั่งทางใต้ สองข้างทางเต็มไปด้วยทัศนียภาพอันน่าทึ่ง โดยเฉพาะที่สะพาน Sea Cliff ผลงานทางวิศวกรรม ที่มีทางโค้งออกไปเหนือมหาสมุทรด้วยความยาว 665 เมตร มองเห็นทิวทัศน์อันกว้างใหญ่ของมหาสมุทรแปซิฟิกได้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น
มุ่งตรงไปยังเมือง Wollongong เมืองที่ใหญ่ที่สุดบนชายฝั่งทางใต้ของรัฐนิวเซาท์เวลส์ อย่าลืมแวะ Northbeach ก่อนเพื่อหาของกิน ก่อนเดินไปที่ประภาคารเพื่อชมทิวทัศน์ชายหาดอันงดงาม หรือเดินเล่นไปตามทางเลียบชายฝั่ง ขับต่อไปยังเมือง Kiama เมืองซึ่งเป็นที่ตั้งของ Kiama Blowhole ซึ่งเป็นช่องลมที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่สามารถพ่นน้ำได้สูงถึง 30 เมตร ก่อนสิ้นสุดเส้นทางที่เมือง Nowra รวมระยะทางทั้งหมดประมาณ 140 กิโลเมตร แต่ถ้ายังเหนื่อย แนะนำเดินทางต่อไปยัง Jervis Bay อ่าวที่ขึ้นชื่อในเรื่องชายหาดทรายขาวและน้ำทะเลใส
จุด Highlights เส้นทางนี้
- สะพาน Sea Cliff: จุดดึงดูดสายตาของถนนสายนี้ด้วยทัศนียภาพอันตระการตาของมหาสมุทรแปซิฟิกและหน้าผาสูงชัน
- Stanwell Tops: จุดชมวิวชั้นยอดที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพแบบพาโนรามา มักมีนักเล่นแฮงไกลเดอร์มาเล่นด้วย
- Kiama Blowhole: หนึ่งในช่องลมขนาดใหญ่ที่สุดในโลก พ่นน้ำขึ้นไปในอากาศสูงถึง 30 เมตร
- Wollongong: เมืองชายฝั่งทะเลที่มีชีวิตชีวา มีร้านกาแฟสุดเจ๋ง ชายหาดที่สวยงาม และประภาคาร Wollongong Head
- Jervis Bay: มีชื่อเสียงในเรื่องชายหาดทรายขาวและน้ำทะเลใสราวกับคริสตัล เหมาะสำหรับการแวะพักระยะยาวหรือแม้กระทั่งค้างคืน
4. Great Alpine Road (Victoria)
ที่มาภาพ : dinnerplainaccommodation.com.au
ถนนสาย Great Alpine มีความยาวถึง 303 กม. คดเคี้ยวผ่านผ่านเทือกเขาแอลป์ในวิกตอเรีย หากใครเป็นมือใหม่ในการขับรถควรใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากถนนสายนี้มีความลาดชันและมีทางโค้งคดเคี้ยวมากมาย แต่ก็ไม่ยากจนเกินไปสำหรับผู้ที่ชื่นชอบโร้ดทริป เส้นทางนี้จะได้สัมผัสประสบการณ์ต่าง ๆ ผ่านธรรมชาติป่าเขา แม่น้ำ ไร่องุ่น และฟาร์มต่าง ๆ หรืออาจจะได้เจอหิมะโดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ร่วง-ฤดูหนาว
เริ่มต้นเส้นทางกันที่เมือง Wangaratta ทางตะวันออกเฉียงเหนือของรัฐวิกตอเรีย ถนนสายนี้ผ่านพื้นที่ไร่องุ่น และหุบเขา จนถึงเมือง Bright จากนั้นถนนจะผ่านพื้นที่ชนบทจนถึงเมือง Harrietville หลังจากนั้นไต่ขึ้นเนินไปยัง Mount Hotham และขับต่อไปอีกเล็กน้อยก็จะถึง Dinner Plain เมืองเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยรีสอร์ทและกิจกรรมมากมายสำหรับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะผู้ที่มาเล่นสกีในช่วงฤดูหนาวต้องแวะเมืองนี้
จากจุดนั้น ถนนจะลาดชันและมีทางโค้งหักศอก เมื่อผ่านถนนที่คดเคี้ยวนี้ไปแล้วจะเดินทางถึงเมือง Omeo เมืองที่ยังมีอาคารประวัติศาสตร์เก่าแก่ทางหลงเหลืออยู่ ขับไปตลอดทางจนถึงเมือง Bairnsdale เมืองเล็ก ๆ ใน East Gippsland อันเป็นจุดสิ้นสุดเส้นทาง
จุด Highlights เส้นทางนี้
- เมือง Bright: เมืองเล็ก ๆ แต่มีชีวิตชีวา มีชื่อเสียงในเรื่องโรงผลิตไวน์ท้องถิ่น และจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามในฤดูใบไม้ร่วง นอกจากนี้ เมืองนี้เป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางต่อไปยังอุทยานแห่งชาติเมาท์บัฟฟาโล (Mount Buffalo), อุทยานแห่งชาติอัลไพน์ (Alpine National Park) รวมถึงเมาท์โฮแธม (Mount Hotham) อีกทั้งยังมีพิพิธภัณฑ์เมืองตั้งอยู่ในสถานีรถไฟเก่าของเมือง เป็นที่ที่รวบรวมประวัติศาสตร์การรถไฟในช่วงตื่นทอง
- อุทยานแห่งชาติ Mount Buffalo: อุทยานที่ตั้งของหน้าผาหินแกรนิตที่สวยงาม น้ำตก รวมถึงเป็นที่ตั้งสกีรีสอร์ทชั้นนำของออสเตรเลีย มีกิจกรรมกีฬาบนหิมะในฤดูหนาว และเส้นทางเดินป่าที่สวยงามในฤดูร้อน
- Omeo: เมืองเล็ก ๆ ที่เคยเป็นเหมืองทองคำในอดีตที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน พร้อมอาคารโบราณอันมีเสน่ห์
- Gippsland Lakes: ทะเลสาบและแม่น้ำที่เหมาะสำหรับการล่องเรือ ตกปลา และชมสัตว์ป่า
ยังคงเหลืออีก 4 เส้นทางมาแนะนำในตอนหน้า ขอบอกเลยว่าแต่ละเส้นทางจะพาไปสัมผัสบรรยากาศที่แตกต่างกันออกไป ทั้งในฝั่งตะวันตกและทางตอนใต้ของออสเตรเลีย จะมีเส้นทางไหนหรือจุดแวะไหนให้เที่ยวต่อกันบ้าง ติดตามตอนต่อไปได้เลย
อ้างอิงข้อมูล :
www.australia.com
ratpacktravel.com
thetrustedtraveller.com
www.dangerousroads.org