Happy New Year 2025
ผู้อ่านชาว Mabrisbane ทุกคน ขอให้ปีนี้เป็นปีที่ดีของทุกคนใครตั้งเป้าหมายอะไรในปีนี้ ก็ขอให้ประสบความสำเร็จ และไม่พลาดที่จะติดตามบทความจากพวกเราต่อไปเรื่อย ๆ
บทความนี้มาลุยกันต่อสำหรับการแนะนำ เส้นทาง Road Trip ในออสเตรเลีย ที่สวยงามและน่าจดจำ จากบทความตอนที่แล้วได้แนะนำเส้นทางท่องเที่ยวในฝั่งตะวันออกกันไป (ใครยังไม่ได้อ่าน เข้าไปดูที่นี่) ในครั้งนี้แถมเส้นทางสวย ๆ ในฝั่งตะวันตกและทางตอนใต้ของออสเตรเลีย ที่ทั้งสวยงามและมีธรรมชาติที่แตกต่างกับอีกฝั่งอย่างสิ้นเชิง เปิดประสบการณ์ทางท่องเที่ยวด้วยทิวทัศน์ใหม่ ๆ กัน ด้วยการขับรถในออสเตรเลียกันต่อ
- Gibb River Road
- The Eyre Peninsula
- Indian Ocean Drive
- Savannah Way
5.Gibb River Road (Western Australia)
ที่มาภาพ : australiantraveller.com
ใครสายลุย สายแคมป์ล่ะก็ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องไปสัมผัสกับเส้นทาง Gibb River Road กับการผจญภัยในเขตชนบทห่างไกลที่เลื่องชื่อในเรื่องของความแอดเวนเจอร์ ด้วยเส้นถนน (ส่วนใหญ่) อันแสนขรุขระ ยาวทั้งหมด 660 กิโลเมตร เริ่มต้นจากเมือง Broome จนไปจบที่เมือง Kununurra ช่วงเวลาที่เหมาะสมเริ่มตั้งแต่เดือนเมษายนถึงตุลาคม ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ถ้าอยากเที่ยวให้ครบ สามารถใช้เวลาประมาณ 7-14 วันได้เลย เส้นทางตั้งในภูมิภาค Kimberley หนึ่งในภูมิภาคที่ห่างไกลที่สุดของออสเตรเลียตะวันตก เส้นทางนี้จะพาไปดำดิ่งกับทิวทัศน์อันสวยงาม น้ำตกอันบริสุทธิ์ หุบเขาสุดอลังการ และประสบการณ์ทางวัฒนธรรมที่ไม่เหมือนใคร เนื่องจากพื้นที่นี้มีศิลปะบนหินและประวัติศาสตร์ที่สำคัญ
เริ่มต้นจากเมือง Broom ไปยังเมือง Derby เพื่อชมวิวพระอาทิตย์ตกที่ Derby Jetty ชมเกาะหินกว่า 1,000 เกาะที่น้ำตก Horizontal Waterfalls และไปเรียนรู้วัฒนธรรมชาวพื้นถิ่นที่ Mowanjum Aboriginal Art and Culture Centre จาก Derby ขับรถต่อไปยังอุทยานแห่งชาติ Windjana Gorge เพื่อชมความน่าทึ่งของธรรมชาติและถ้ำ ขับต่อไปยัง Bell Gorge หรือ Manning Gorge จุดที่ใครมาก็ต้องแวะว่ายน้ำท่ามกลางหุบเขาขนาบข้าง ก่อนแวะพักที่ Home Valley Station เมืองปศุสัตว์ที่มีจุดแวะพักแคมป์ รวมถึงมีกิจกรรมพักผ่อนอื่น ๆ อย่างการขี่ม้า ตกปลา และชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามเหนือเทือกเขา Cockburn ตลอดเส้นทางอย่าลืมแวะอุทยานแห่งชาติอีกหลายแห่ง ก่อนจบเส้นทางที่เมือง Kununurra
สิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับเส้นทางนี้ คือรถยนต์ 4WD เพราะตลอดเส้นทางถนนมีความขรุขระและไร้สิ่งอำนวยความสะดวก อย่าลืมเตรียมอาหารเครื่องดื่มและน้ำมันเชื้อเพลิง เพราะการเดินทางไปในแต่ละจุดมีระยะทางค่อนข้างห่างไกล อาจใช้เวลาขับรถนานถึง 5 ชั่วโมง อีกทั้งร้านค้าและปั๊มน้ำมันหาค่อนข้างยาก หลายอุทยานฯมีค่าเข้าชมด้วย อย่าลืมเตรียมความพร้อมและข้อมูก่อนออกเดินทาง
จุด Highlights เส้นทางนี้
- Windjana Gorge : หน้าผาสูงตระหง่านที่เกิดจากแนวปะการัง Devonian โบราณที่มีอายุกว่า 375 ล้านปี สามารถเดินเล่นชมจระเข้อาบแดดอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ
- Bell Gorge : จุดท่องเที่ยวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในคิมเบอร์ลีย์เลยก็ว่าได้ มีน้ำตกไหลลงสู่แอ่งน้ำใส เหมาะสำหรับการลงเล่นน้ำ ใต้หน้าผาสีแดงสูงตระหง่าน และ Manning Gorge ซึ่งมีแอ่งน้ำที่ล้อมรอบด้วยหินรูปร่างใหญ่
- Tunnel Creek : ถ้ำโบราณตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Windjana Gorge ระบบถ้ำที่นี่พิเศษไม่เหมือนที่ไหน เพราะมีหินรูปร่างแปลกตาและในอดีตเคยเป็นแหล่งหลบภัยของ Jandamarra นักต่อสู้เพื่ออิสรภาพชาวพื้นเมือง
- อุทยานแห่งชาติ Mitchell River : แหล่งที่ตั้งของน้ำตกอันตระการตาที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ ได้แก่ น้ำตก Mitchell มีทัวร์เฮลิคอปเตอร์และเดินป่า ชมภาพเขียนบนหินโบราณพร้อมไกด์ชาวอะบอริจิน และว่ายน้ำในสระน้ำที่น้ำตก Little Mertens
- อุทยานแห่งชาติ Purnululu : หนึ่งในภูมิประเทศที่มีลักษณะแปลกประหลาดที่สุดแห่งหนึ่งของโลก กับเทือกเขา Bungle Bungle ที่มีลักษณะคล้ายกับรังผึ้งวางเรียงยาว ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
6. The Eyre Peninsula (South Australia)
ที่มาภาพ : vacationstravel.com
ออกเดินทางต่อไปทางฝั่งตอนใต้ประเทศ บนเส้นถนน Eyre Highway เป็นอีกเส้นหนึ่งที่มีชื่อเสียงของออสเตรเลีย ผ่านที่ราบ Nullarbor ภูมิประเทศที่กว้างใหญ่ไร้ผู้คนระหว่างออสเตรเลียตะวันตกและออสเตรเลียใต้ มีถนนเส้นตรงในตำนานที่ทอดยาวที่สุดในออสเตรเลียกับวิวภูมิประเทศที่เปลี่ยนแปลงตลอดทาง จากที่ราบทะเลทรายอันแห้งแล้ง เป็นหน้าผาชายฝั่ง และหน้าผา Bunda Cliffs อันน่าทึ่งที่ทอดยาวลงสู่ Great Australian Bight เป็นการเดินทางแห่งการผจญภัยและชื่นชมความงามของชนบทห่างไกลของออสเตรเลีย
เริ่มต้นการผจญภัยที่เมือง Port Lincoln ซึ่งรู้จักกันในนาม "เมืองหลวงอาหารทะเล" ชิมวัตถุดิบสด ๆ จากท้องถิ่น สนุกสนานกับการดำน้ำในกรงกับฉลามขาว หรือว่ายน้ำกับสิงโตทะเล ขับรถต่อไปทางเหนือสู่ Coffin Bay เมืองซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องน้ำที่บริสุทธิ์ และหอยนางรมที่มีชื่อเสียงระดับโลก เดินทางต่อไปตามชายฝั่งตะวันตก เยี่ยมชมทิวทัศน์หน้าผาที่เมือง Elliston หลังจากนั้นเปลี่ยนทิศมุ่งไปทางตะวันออก สำรวจอุทยานแห่งชาติ Gawler Ranges สวรรค์ของหินรูปร่างแปลกตาและสัตว์ป่าพื้นเมือง แวะผ่านไปชายฝั่งตะวันออกที่ Whyalla เพื่อดำน้ำตื้นหรือดำน้ำลึกที่ Point Lowly ก่อนจะสิ้นสุดการเดินทางที่เมือง Port Augusta จากจุดนั้นเอง สามารถขับลงทางใต้บนเส้นทาง A1 เพื่อมุ่งหน้าสู่เมืองหลวงทางตอนใต้ที่เมืองแอดิเลด (Adelaide)
จุด Highlights เส้นทางนี้
- Port Lincoln : เมืองที่เต็มไปด้วยกิจกรรมอันน่าตื่นเต้น อย่างเช่นดำน้ำในกรงกับฉลามขาว หรือจะว่ายน้ำกับสิงโตทะเล อย่าลืมลิ้มรสอาหารทะเลสด ๆ กับเมืองที่ขึ้นชื่อด้านอาหารทะเล
- อุทยานแห่งชาติ Coffin Bay : อ่าวและแนวชายฝั่งรอบอุทยานแห่งชาติแห่งนี้ ขึ้นชื่อในเรื่องทัศนียภาพอันน่าทึ่ง ด้วยหน้าผาสูงที่ถูกลมพัดแรงและเนินทรายขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับการพายเรือ ตกปลา แล่นเรือใบ ดำน้ำ และเล่นวินด์เซิร์ฟ
- Elliston : เมืองเล็ก ๆ ที่น่าแวะไปชมความลึกลับของถ้ำ Talia และถ้ำ Woolshed อีกทั้งอ่าว Baird Bay สิ่งที่ไม่ควรพลาดที่นี่คือการว่ายน้ำกับสิงโตทะเลและโลมา
- Australian Arid Lands Botanic Garden : สวนพฤกษศาสตร์ในเมือง Port Augusta พื้นที่ 250 เฮกตาร์ เปิดทำการตั้งแต่ปี 1996 ที่มีพืชพันธุ์ธรรมชาติหลากหลาย เส้นทางเดินป่ามากมาย สามารถใช้เวลาร่วมกับครอบครัวได้เต็มวัน
7. Indian Ocean Drive (Western Australia)
ที่มาภาพ : big4.com.au
Indian Ocean Drive เส้นทางขับรถเลียบชายฝั่งชมทัศนียภาพงดงามในออสเตรเลียฝั่งตะวันตกริมมหาสมุทรอินเดีย ทอดยาวประมาณ 270 กิโลเมตร เริ่มจากเมืองหลวงฝั่งตะวันตกที่เมืองเพิร์ธ จบที่เมือง Geraldton สามารถท่องเที่ยว 3-5 วันได้อย่างสบาย ๆ ช่วงฤดูกาลที่เหมาะกับการเที่ยวเส้นทางนี้ อยู่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ (สิงหาคม-ตุลาคม) เพราะจะได้ชมความสวยงามของดอกไม้ป่าที่บานสะพรั่ง ส่วนนักขับมือใหม่มั่นใจได้ เพราะเส้นทางที่เพิ่งเปิดให้ใช้งานเมื่อปี 2010 ถนนปลอดภัยสะดวกสบาย รถประเภทไหนก็ขับได้ นอกจากจะมีวิวมหาสมุทรสุดลูกหูลูกตา ยังมีชายหาดอันและสถานที่สำคัญทางธรรมชาติอันมีเสน่ห์ ให้กับนักเดินทางได้แวะจอด
เริ่มสตาร์ทรถออกจากเมืองเพิร์ธ แวะอุทยานแห่งชาติ Nambung เป็นที่แรก ชมความน่าทึ่งของ Pinnacles ดินแดนยุคก่อนประวัติศาสตร์ ก่อนเดินทางต่อไปยัง Jurien Bay เมืองซึ่งมีดอกไม้ป่าจัดแสดงแบบยิ่งใหญ่ ตั้งแต่เดือนกันยายนถึงพฤศจิกายนในอุทยานเแห่งชาติ Lesueur เข้าพักผ่อนที่เมือง Dongara ตกปลาที่ท่าเทียบเรือหรือเพลิดเพลินกับกุ้งมังกรสด ๆ ที่หาทานได้ยาก จุดหมายต่อไป Geraldton สวรรค์สำหรับชาวประมงและเป็นสวรรค์สำหรับคนรักอาหารทะเล ก่อนจะกลับไปที่เพิร์ธ ขับรถขึ้นไปทางเหนือมุ่งสู่อุทยานฯ Kalbarri จุดที่ชายฝั่งชนบทห่างไกลและป่าธรรมชาติมาบรรจบกัน มีทั้งเส้นเดินป่า ปีนหน้าผา ตกปลา พายเรือคายัค หรือล่องเรือในน่านน้ำ ใครมีโดรนบินเหนือผืนน้ำสีชมพูอมม่วงที่งดงามของทะเลสาบ Hutt Lagoon ก่อนจบทริป
จุด Highlights เส้นทางนี้
- ทะเลทราย Pinnacles : ลานกว้างที่เต็มไปด้วยยอดเขาหินปูนรูปร่างคล้ายดวงจันทร์ ก่อตัวขึ้นบนผืนทรายของอุทยานแห่งชาติ Nambung หนึ่งในภูมิประเทศทางธรรมชาติที่แปลกตาและน่าหลงใหลที่สุดแห่งหนึ่ง อย่าลืมเยี่ยมชม Pinnacles Desert Discovery Centre ที่อยู่ใกล้กัน เพื่อชมเรื่องราวของยอดเขาหินปูนที่จัดแสดงไว้เป็นข้อมูลอ้างอิง รวมถึงข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพืชและสัตว์ที่อาศัยอยู่ในที่นี่
- Lake Thetis Stromatolites : เพลิดเพลินกับการเดินเล่นรอบทะเลสาบยาว 1.2 กิโลเมตร พร้อมพบกับ “Stromatolites” สิ่งมีชีวิตฟอสซิลที่เก่าแก่ซึ่งเชื่อกันว่ามีอายุมากกว่า 3,000 ปี หากเยี่ยมชมในช่วงฤดูดอกไม้ป่า จะได้พบกับสีสันอันน่าทึ่งตลอดเส้นทางเดิน
- Jurien Bay : จุดพักตากอากาศที่มีชายหาดที่สวยงามและสิ่งอำนวยความสะดวก ตั้งห่างจากเมืองเพิร์ธไปทางเหนือเพียง 2.5 ชั่วโมง เมืองนี้เป็นจุดตกปลายอดนิยม อีกทั้งยังมีจุดดำน้ำตื้นและน้ำลึกที่ยอดเยี่ยม หากโชคดีจะได้พบปะกับสิงโตทะเลหายากด้วยเช่นกัน
- อุทยานแห่งชาติ Lesueur : ผู้ชื่นชอบดอกไม้ป่าและนักพฤกษศาสตร์ไม่ควรพลาด ภายในอุทยานมีพันธุ์ไม้มากกว่า 900 สายพันธุ์หลายชนิดที่ไม่สามารถพบได้ที่อื่นในโลก มีเส้นทางเดินป่าให้เลือกอีกด้วย
- Pink Lake (Hutt Lagoon) : ทะเลสาบสีชมพูที่สวยงาม ที่เกิดจากปรากฏาการณ์ทางธรรมชาติอันเนื่องมาจากสาหร่ายใต้น้ำ
- อุทยานแห่งชาติ Kalbarri : ด้วยพื้นที่กว่า 183,000 เฮกตาร์ เต็มไปด้วยการผจญภัยในหุบเขาตระการตา ท่ามกลางดอกไม้ป่าอันสวยงาม ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งของออสเตรเลียตะวันตก
8. Savannah Way (QLD, NT, WA)
ที่มาภาพ : queensland.com, advancecairns.com
จบกันด้วยเส้นทางแสนห่างไกล Savannah Way เส้นทางผจญภัยข้ามประเทศที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเส้นหนึ่ง ด้วยระยะทางมากถึง 3,700 กิโลเมตร เชื่อมระหว่างเมืองแคนส์ในควีนส์แลนด์ฝั่งตะวันออก กับเมืองบรูมในออสเตรเลียตะวันตก ถ้าจะขับให้สุดทางอาจใช้เวลาขับรถประมาณ 10 ถึง 14 วันโดยไม่พักนาน ถ้าต้องสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวให้ครบถ้วนและเพลิดเพลินกับการเดินทาง ทริปอาจยาวนานถึง 3-4 สัปดาห์เลยก็ได้เช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามเราสามารถแยกทริปให้สั้นลง เพื่อความสนุกและไม่เหนื่อยจนเกินไป
ที่มาภาพ : savannahway.com.au
การเดินทางบนเส้นทางอันยิ่งใหญ่ จะผ่านทุ่งหญ้าสะวันนาในเขตร้อน ผ่านภูมิประเทศที่ห่างไกล และสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่น่าตื่นตาตื่นใจในออสเตรเลียตอนเหนือ ในขณะที่เดินทางผ่านสามรัฐและดินแดน จะได้พบเห็นภูมิประเทศที่หลากหลายตั้งแต่ป่าฝนอันอุดมสมบูรณ์และพื้นที่ชุ่มน้ำ ไปจนถึงที่ราบแห้งแล้งและหน้าผาสูงชัน ระหว่างทางยัง ได้ดื่มด่ำกับวัฒนธรรมพื้นเมืองในท้องถิ่น
จุด Highlights เส้นทางนี้
- เมือง Cairns (QLD) : จุดหมายปลายทางยอดนิยมที่ควรใช้เวลาสักสองสามวัน เพื่อสำรวจเมือง ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องการออกดำน้ำที่แนวปะการังเกรทแบร์ริเออร์ ล่องเรือไปยังเกาะเขตร้อน สำรวจป่าฝนอายุกว่าล้านปี และสัมผัสกับวัฒนธรรมผ่านชาวพื้นเมืองที่อาศัยอยู่บนผืนแผ่นดินนี้มานานกว่า 40,000 ปี
- เมือง Kuranda (QLD) : หมู่บ้านบนภูเขาที่อยู่ห่างจากเมืองแคนส์ไม่ไกลนัก เมืองพักผ่อนที่เต็มไปด้วยทัศนียภาพอันสวยงาม กิจกรรมผจญภัย และวัฒนธรรม ที่สามารถนั่งรถไฟชมวิว Kuranda ชมทัศนียภาพจากมุมสูงด้วยกระเช้าลอยฟ้า Skyrail Rainforest Cableway สำรวจอุทยานแห่งชาติ Barron Gorge เยี่ยมชมอุทยานธรรมชาติ Rainforestation หรือช้อปปิ้งสินค้าท้องถิ่นที่ตลาดในหมู่บ้าน Kuranda
- อุทยานแห่งชาติภูเขาไฟ Undara (QLD): ค้นพบระบบถ้ำลาวาที่ยาวที่สุดแห่งหนึ่งในโลก พร้อมทัวร์นำเที่ยว ที่จะพาดำดิ่งสู่ความมหัศจรรย์ของธรรมชาติราบลาวาไปจนถึงปล่องภูเขาไฟที่เคยปะทุเมื่อกว่า 190,000 ปีก่อน
- Cobbold Gorge (QLD): โอเอซิสดึกดำบรรพ์ที่มีอายุเกือบ 135 ล้านปี คืออัญมณีที่ซ่อนอยู่ประกอบด้วยหุบเขาแคบ ๆ ที่มีหน้าผาสูงตระหง่านถึง 30 เมตร มีทัวร์ที่จะพาเราไปเรียนรู้เกี่ยวกับธรณีวิทยาและหินทรายรูปร่างแปลกตา ไม่ว่าจะด้วยการเดิน, เรือ, แพดเดิ้ลบอร์ด หรือเฮลิคอปเตอร์เพื่อชมทิวทัศน์อันน่าทึ่ง
- อุทยานแห่งชาติ Keep River (NT): อุทยานแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้ชายแดน Western Australia มีหินทรายรูปร่างแปลกตาและประวัติศาสตร์อันยาวนานของชนพื้นเมือง
- เมือง Katherine (NT) : ชุมชนที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ในเขตนี้ จุดแวะพักที่สามารถเดินทางไปอุทยานแห่งชาติ Nitmiluk ที่มีหุบเขาหินทรายรูปทรงแปลกตามากถึง 13 แห่ง พร้อมเส้นทางเดินป่าพร้อมน้ำตก
- ทะเลสาบ Argyle (WA) : อ่างเก็บน้ำน้ำจืดที่มนุษย์สร้างขึ้นใหญ่เป็นอันดับ 2 ของออสเตรเลียมีกิจกรรมล่องเรือและล่องเรือชมพระอาทิตย์ตก และสามารถพักค้างคืนที่ Lake Argyle Caravan Park ได้
- Bungle Bungles (WA) : คือโดมหินทรายรูปรังผึ้งหนึ่งในภูมิประเทศที่เป็นเอกลักษณ์แห่งหนึ่งของประเทศ ตั้งในอุทยานแห่งชาติ Purnululu
- เมือง Broome : เมืองตากอากาศที่มีชายหาด Cable Beach ที่ยาวถึง 22 กิโลเมตร มีชื่อเสียงเรื่องการขี่อูฐบนหาดเลียบแนวชายฝั่งชมพระอาทิตย์ตกดินเป็นฉากหลัง ที่จุด Gantheaume Point ใกล้ ๆ นี้ ยังมีรอยเท้าไดโนเสาร์ปรากฏให้เห็นบนโขดหินสีแดงในช่วงน้ำลง
ยังมีเส้นทางขับรถเที่ยวชมความสวยงามอีกมากในออสเตรเลีย ตอนนี้มีข้อมูลพอสมควรเกี่ยวกับทริปท่องเที่ยวแล้ว อย่าลืมเตรียมสิ่งของจำเป็น เช่น ของว่าง เพลย์ลิสต์ดี ๆ และกล้องถ่ายรูปเพื่อบันทึกช่วงเวลาที่น่าประทับใจ ที่สำคัญตรวจสอบสภาพถนนและวางแผนแวะพักล่วงหน้า เพื่อให้การเดินทางครั้งนี้คุ้มค่าที่สุด
ถึงเวลาเตรียมกระเป๋าให้พร้อม และชวนเพื่อน ๆ รัดเข็มขัดให้แน่น แล้วออกเดินทางผจญภัยที่น่าประทับใจผ่านทิวทัศน์ที่สวยงามตระการตาของออสเตรเลียแบบไม่รู้ลืม
อ้างอิง
australia.com
westernaustralia.com
northernterritory.com