มาคุยและฟังประสบการณ์ ชีวิตนักเรียนภาษาจากสาวร๊อค อารมณ์ดี เจล - สุวรรณกร นาคประสิทธิ์ บอกเลยว่าคนนี้ไม่ธรรมดาแน่นอน เรียน 5 วัน ทำงาน 7 วัน ฝ่าฟันอุปสรรคตั้งแต่วีซ่า จนถึงด้านภาษา ความตั้งใจและรักในสิ่งที่ทำ กลายมาเป็นความภูมิใจในทุกวันนี้
เลือกเรียนภาษาที่บริสเบน
ที่เลือกมาเรียนต่อบริสเบนหลัก ๆ เลย มีพี่สาวอยู่ที่นี่ เป็นลูกพี่ลูกน้อง คุณแม่เลยเลือกให้มาอยู่บริสเบน ส่วนตัวเป็นคนไม่ชอบชีวิตวุ่นวาย หรือเมืองที่มีคนอยู่เยอะ ๆ พอได้มาอยู่บริสเบนแล้วรู้สึกส่วนตัวดี ไม่วุ่นวาย ไม่เปลี่ยนใจแน่นอนค่ะ
เตรียมตัวก่อนมา หาข้อมูลที่เรียนภาษา
เรื่องที่เรียนเอเจนซี่เป็นคนหาให้หมดเลย และที่โรงเรียนภาษาที่เรียนปัจจุบันมีโปรโมชั่นพอดี มีหาข้อมูลเพิ่มเติมเองเกี่ยวกับที่เรียนเล็กน้อยว่าหน้าตาเป็นยังไง ตั้งอยู่ที่ไหน แค่นั้นเองค่ะ
ไม่ได้หาข้อมูลด้านอื่นเพิ่มเติมเลย เพราะคิดว่าถ้าหาข้อมูลเยอะไปที่นั่นอาจมีอะไรที่ทำให้เราไม่สนใจ หรือไม่อยากไปรึเปล่า ก็เลยคิดว่ามาตายเอาดาบหน้า (หัวเราะ) แต่พอได้มาแล้วก็ประทับใจ ไม่ได้อยากกลับบ้าน ไม่มีร้องไห้เลย เพราะเราปรับตัวกับที่บริสเบนได้ด้วย
ปัญหาก่อนเดินทาง ได้วีซ่าช้า
ก่อนเดินทางมีปัญหาเรื่องวีซ่า เหมือนว่าอะไรก็ไม่ผ่าน เอกสารเยอะมากและยืดยาวจนเกือบจะไม่ผ่าน ใช้เวลาเกือบปีกว่าจะได้วีซ่ามา มีปัญหากับทางเอเจนซี่ที่แรกด้วย เลยทำให้เรื่องมันช้า แต่ว่าพอได้เปลี่ยนเอเจนซี่ใหม่ ประมาณ 1-2 เดือนก็ได้วีซ่าเลย
พอได้วีซ่ามา คุณแม่ก็จองตั๋วเครื่องบินให้เลย คือคุณแม่มาบอกตอนเที่ยงว่าต้องขึ้นเครื่องตอน 2 ทุ่ม เพราะที่บ้านอยากให้บินกลับบริสเบนพร้อมพี่สาวเลย ไม่อยากให้นั่งไปคนเดียว ข้าวของเครื่องใช้ก็ไม่ได้เตรียมอะไรเลย
บรรยากาศการเรียนภาษา
เจลเรียน General English เรียนภาษาทั่วไปมาได้ 1 ปีแล้ว ตั้งแต่จันทร์ – ศุกร์ 8.30 – 12.30 น. และตั้งใจจะเรียนภาษาต่อเป็น Certificate English ในห้องเรียนครูสอนเรื่องแกรมม่าและศัพท์ทั่วไป การเรียนภาษาที่นี่แบ่งเป็นระดับไปเริ่มตั้งแต่ Beginning เจลเริ่มตั้งแต่ Pre-Intermediate เกือบ Beginning เหมือนกันนะ (หัวเราะ) ตอนแรกที่มาพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย พี่เจลสอนว่าถ้ามาที่นี่ คิดจะพูดภาษาอังกฤษต้องกล้า กล้าที่จะพูด ไม่งั้นเราก็จะไม่ได้ ไม่อย่างนั้นอยากได้อะไรก็ต้องชี้เอา
การสอบวัดระดับภาษา
สอบทุกอาทิตย์ ทุกวันศุกร์ ครูสอนเรื่องนี้มาทั้งอาทิตย์ แล้วพอวันศุกร์ครูจะเอาเรื่องที่สอนมาสอบเพื่อวัดระดับของแต่ละคน ว่าจะขึ้นไปได้รึยัง สอบเขียนอย่างเดียว ทดสอบแกรมม่า และมีสอบใหญ่ทั้ง ฟัง พูด อ่าน เขียนเวลาจะเปลี่ยนครูสอน
กิจกรรมกับเพื่อน ๆ
เจลมีเพื่อนสนิทเป็นคนฮ่องกง ห้องนึงมีประมาณ 20 คน ส่วนใหญ่เป็นเวียดนามกับจีน มีฮ่องกง โคลัมเบีย ญี่ปุ่น เกาหลี คนไทยก็มีเยอะมาก เพราะฉะนั้นเวลาเรียนภาษาอังกฤษ เราเลือกที่จะไปกับเพื่อนต่างชาติมากกว่าเพราะเราจะได้ฝึกภาษาด้วย
กิจกรรมช่วงเรียนภาษา ที่โรงเรียนจะพาไป Art Gallery บ้าง หรือ South Bank เดือนนึงมีออกไปข้างนอกทุกเดือน ออกไปทำกิจกรรม บางทีก็เอานักเรียนภาษาจากหลาย ๆ ห้องมารวมกันแล้วออกไปปิคนิคกันทั้งหมด
ฝึกภาษาอังกฤษ แค่ในห้องเรียนไม่พอ
การเรียนภาษามาถ้าเราตั้งใจเรียนจริง ๆ ก็ได้เยอะนะ โดยเฉพาะด้านสังคม เราได้เห็นวัฒณธรรมหลาย ๆ ชาติ จากเพื่อน ๆ ที่มาอยู่รวมกัน ช่วยเหลือกัน เรียนแค่ในห้องไม่พอ ต้องมาหาข้างนอกด้วย เพื่อนก็ช่วยเหลือกัน เจลชอบดูหนังเป็นภาษาอังกฤษนอกเวลาเรียน อันนี้ช่วยเราเรื่องการพูดได้เยอะมาก ๆ
1 ปีกับพัฒนาการด้านภาษา
เกี่ยวกับการสะกดคำยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เราพูดได้แต่ว่าพอมาเจอข้อสอบเขียนจะยากมาก เพราะมันเป็นการเรียน ส่วนใหญ่จะถามเรื่องบริสเบนเป็นยังไง การใช้ชีวิตในบริสเบนเป็นยังไงบ้าง ถ้าจัดลำดับที่เราถนัดคือ พูด ฟัง อ่าน เขียน
ทำงาน Part-time 2 แห่ง ช่วงหลังเลิกเรียน
เจลทำงานเสริฟ์ในร้านอาหารเป็นหลัก อีกงานคือ ร้องเพลง ตอนนี้ทำงานอยู่ 2 ร้าน คือ จันทร์ – อาทิตย์ทำที่ร้าน Fullmoon และ ศุกร์ – เสาร์ ทำที่ร้าน Golden Buddha บางทีเราทำงาน 4 ทุ่ม ก็ต้องรีบกลับบ้านไปแต่งตัวมาร้องเพลงต่อตอนเที่ยงคืน
เรียนเสร็จเที่ยงครึ่ง ทำงานอีกทีคือ 5 โมง เราก็ยังพอมีเวลาพักผ่อนบ้างก่อนไปทำงาน ไม่เคยมีประสบการณ์ทำร้านอาหารมาก่อน แต่เจลเรียนจบการโรงแรม เลยรู้วีธีการเสิรฟ์เป็นยังไงและบริการลูกค้าเป็นยังไง
ความสุขกับการร้องเพลง
ตั้งแต่อยู่ไทยก็ชอบร้องเพลงกับคุณแม่ ชอบเล่นเป็นวงมากกว่านักร้องเดี่ยว ส่วนตัวเจลชอบเพลงร๊อค อย่าง Body Slam ขึ้นเวที Fullmoon ครั้งแรกตื่นเต้นมาก ตื่นเต้นแบบว่านอนไม่หลับ ตอนนี้ถ้าให้เลิกร้องเพลงก็คิดอยู่นะว่าคงเลิกทำไม่ได้ เพราะการร้องเพลงมันก็คืองานที่เป็นความสุขของเราด้วย
ชีวิตแบบอิสระ สบาย ๆ ที่บริสเบน
ก่อนมาบริสเบนคิดว่าบริสเบนคงเหมือนเมืองนอกที่อื่น คือฝรั่งไฮโซมาก หน้าหนาว ขนมิ้ง ขนเฟอร์มาเลย แต่พออยู่ที่นี่มันก็หนาวนะ แต่มันไม่ถึงกับเฟอร์ และคิดว่ามาที่นี่มันต้องลำบากมากแน่ ๆ พูดภาษาอังกฤษก็ไม่เป็น ตอนแรกก็กังวลมากว่าจะอยู่ได้ไหม เพราะตอนที่อยู่ไทยได้ยินมาว่าฝรั่งไม่ช่วยเหลือ แต่พอมาอยู่แล้วก็ไม่จริง ทุกอย่างสะดวก ในตัวเมืองก็เดินง่าย ไม่ งง เจลชอบไปเที่ยวในเมืองและ South Bank ส่วนมากจะไปเดินเล่นชิลกับเพื่อน
ฝรั่งที่นี่จะทำอะไรแบบเปิดเผยมากกว่า แต่คนไทยจะไม่แสดงออกมาก อย่างเช่น นอนอาบแดด หรือเรื่องการแต่งตัวที่มีหลายแบบมาก ทุกอย่างเป็นอิสระ
ภาษาอังกฤษไม่ใช่อุปสรรคอีกต่อไป และได้ทำงานที่ตรงกับความสามารถของตัวเอง
ตอนแรกพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย จนทุกวันนนี้ยังอึ้งในสิ่งที่ตัวเองผ่านมาก่อน นี่เคยพูดไม่ได้ขนาดนี้เลยเหรอ เราได้เห็นความเปลี่ยนแปลงในด้านภาษาของตัวเองชัดมาก เรื่องการทำงานก็แฮปปี้ คือการได้เป็นนักร้อง ได้ทำในสิ่งที่เราชอบ เด็กที่มาเรียนด้วยแล้วหางานด้วย มันยากที่จะหางานที่ตรงกับความสามารถของเรา
อยากมาเมืองนอก อย่ากลัวที่จะพูดภาษาอังกฤษ
นักเรียนส่วนใหญ่จะกลัวเรื่องภาษา พูดภาษาอังกฤษไม่เป็นเลย แล้วจะอยู่ยังไง เพื่อนก็ไม่มี ใครก็ไม่รู้จัก แต่อยากบอกว่ามาที่นี่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีคนไทยที่ไม่คอยช่วยเหลือเลย แล้วก็เรื่องภาษาเจลมั่นใจว่ายังไงก็ปรับตัวได้ ถ้ามายังไงก็ไม่ต้องกลัวเรื่องภาษา พูดได้แน่นอน เรื่องงานอาจจะไม่เร็ว ไม่ช้า แต่ได้งานแน่นอน, ขอบคุณค่ะ