รัฐบาลสหพันธรัฐออสเตรเลียกล่าวว่าจะลดรับผู้อพยพลงครึ่งหนึ่งภายในเวลา 2 ปี เพื่อแก้ไขระบบการอพยพที่พังอยู่ โดยตั้งเป้าจะลดจำนวนผู้อพยพเหลือเพียง 250,000 คนต่อปี ซึ่งเป็นจำนวนใกล้เคียงก่อนโควิดระบาด ภายในเดือนมิถุนายน 2025 กฎของวีซ่าสำหรับนักเรียนต่างชาติและแรงงานทักษะต่ำจะถูกเปลี่ยนให้เข้มงวดมากขึ้นตามแผนใหม่
จำนวนผู้อพยพของออสเตรเลียได้พุ่งสูงขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งส่งผลกระทบต่อที่อยู่อาศัยมีไม่พอหรือมีราคาที่สูงเกินไป แต่อย่างไรก็ดีออสเตรเลียยังคงขาดแรงงานในทักษะต่าง ๆ และไม่สามารถดึงคนเหล่านี้เข้ามาในประเทศได้อย่างเพียงพอ
ภายใต้การปรับเปลี่ยนใหม่ หนึ่งในนั้นคือผลระดับการสอบภาษาอังกฤษที่จะถูกปรับให้สูงขึ้น และการตรวจสอบผู้ที่ยื่นขอวีซ่าครั้งที่สองอย่างละเอียดมากขึ้น พวกเขาจะต้องแสดงให้เห็นว่าการศึกษาต่อจะช่วยพัฒนาความรู้ในด้านที่ตนมีความสนใจจริง ๆ หรือมีประโยชน์ต่อหน้าที่การงาน ในขณะนี้ มีนักเรียนต่างชาติในออสเตรเลีย 650,000 คน หลายคนถือวีซ่านักเรียนอันที่สอง
ตั้งแต่ต้นปี 2024 เกณฑ์ระดับภาษาอังกฤษสำหรับวีซ่านักเรียนและวีซ่าบัณฑิตชั่วคราว (temporary graduate visas) จะถูกปรับขึ้น เพื่อเป็นการเพิ่มคุณภาพประสบการณ์ของนักเรียนในออสเตรเลีย และลดการถูกนายจ้างเอาเปรียบ (workplace exploitation) สำหรับวีซ่าบัณฑิต ผล IELTS จะต้องได้ 6.5 ขึ้นไป จากเดิมคือ 6.0 สำหรับผู้ยื่นขอวีซ่านักเรียนจะต้องได้ 6.0 ขึ้นไป เดิมคือ 5.5
รัฐบาลออสเตรเลียกล่าวว่า นักเรียนต่างชาติและบัณฑิตเป็นผู้อพยพที่อยู่ในสภาพ “ผู้อยู่อาศัยชั่วคราวที่อยู่แบบถาวร (permanently temporary)” เป็นจำนวนเยอะที่สุด โดย 108,000 คนอาศัยอยู่ในออสเตรเลียมากกว่า 5 ปี ส่วนใหญ่คนเหล่านี้ไม่ได้เพิ่มความก้าวหน้าในอาชีพการงานที่ตนศึกษา แต่ถูกใช้งานจากผู้ที่เคยเป็นนักเรียนต่างชาติ แทนที่จะทำตามและพบเงื่อนไขข้อกำหนดในการขอเป็นผู้อยู่อาศัยถาวร หรือวีซ่าทักษะอื่น ๆ
นอกจากนี้ ทางรัฐบาลยังกล่าวถึงความกังวลที่มีสถานศึกษาเอกชนที่ไม่น่าเชื่อถือ คอยช่วยคนที่ไม่ได้ต้องการมาเรียนจริง ๆ ในการได้วีซ่านักเรียนเพื่อเข้ามาทำงาน เพื่อเป็นการแก้ปัญหานี้ รัฐบาลได้ออกระบบใหม่คือ “genuine student test” แบบทดสอบสำหรับนักเรียนต่างชาติ ซึ่งจะเป็นที่กระจ่างชัดว่านักเรียนต่างชาติส่วนใหญ่จะกลับประเทศตัวเอง
“Genuine Student Test จะเป็นเครื่องมือในการกีดกันไม่ให้นักเรียนปลอม ที่มีจุดประสงค์หลักเพื่อเข้ามาทำงาน มากกว่าที่จะมาเรียน ไม่สามารถผ่านระบบการศึกษาต่อของนักเรียนต่างชาติได้” รัฐบาลกล่าว
อีกทั้ง การยื่นขอวีซ่านักเรียนจะถูกพิจารณาเรียงลำดับความสำคัญตามระดับความเสี่ยงของสถานศึกษา (risk level of providers) โดยผู้ที่อยู่ในระดับความเสี่ยงสูงจะใช้เวลาในการดำเนินการช้าลง
เนื่องจากผู้ถือวีซ่าบัณฑิตเกินครึ่งทำงานต่ำกว่าระดับความสามารถเยอะ รัฐบาลจึงจะปรับระยะเวลาและสิทธิในการทำงานของวีซ่าประเภทนี้ นอกจากนี้ ผู้ที่ถือวีซ่าบัณฑิตจะไม่สามารถเปลี่ยนวีซ่ากลับไปเป็นวีซ่านักเรียนขณะที่อยู่ในประเทศได้ (onshore)
นอกจากนี้ ยังมีการปรับเส้นทางการขอเป็นผู้อยู่อาศัยถาวรสำหรับผู้อพยพย้ายถิ่นที่มีทักษะ “ผู้เชี่ยวชาญ (specialist)” หรือ “จำเป็น (essential)” เช่น ผู้ทำงานด้านเทคโนโลยีระดับสูง หรือผู้ดูแล (care workers) เพื่อดึงดูดผู้มีความสามารถเข้าประเทศ
ที่มา:
https://www.bbc.com/news/world-australia-67609963
https://www.abc.net.au/news/2023-12-10/migration-review-briefing/103211718