วันอาทิตย์, 22 ธันวาคม 2567

Booking.com

ใครได้.. ใครเสียผลประโยชน์!? ร่างงบประมาณออสเตรเลีย 2023

เผยแพร่เมื่อ 12 พฤษภาคม 2566 โดย MaBrisbane
Jim Chalmers, Anthony Albanese Jim Chalmers, Anthony Albanese Cr. Jim Chalmers MP page

จิม ชาลเมอร์ส (Jim Chalmers) รัฐมนตรีคลังของออสเตรเลีย ได้ปล่อยแผนงบประมาณกลาง 14.6 พันล้านเหรียญเมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2023 เพื่อช่วยชาวออสเตรเลียที่กำลังเผชิญต่อความยากลำบากจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น โดยอัตราเงินเฟ้อยังคงขึ้นไปสูงที่ 7%

ซึ่งแน่นอนว่าทุกครั้งที่มีการใช้จ่ายงบประมาณครั้งใหม่จะมีทั้งกลุ่มที่ได้ประโยชน์และเสียผลประโยชน์ เรามาดูกันว่าแผนงบประมาณใหม่ของปี 2023 นี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง มีใครที่ได้รับผลประโยชน์เพิ่มขึ้น ใครที่ได้รับผลกระทบ และสิ่งไหนที่ไม่เปลี่ยนแปลง

 

 

Winners, Losers, No Change ของงบประมาณใหม่

ผู้ที่ได้ประโยชน์ - Winners

ค่าใช้จ่ายพลังงาน (เช่น ไฟฟ้า ก๊าซ)
ครัวเรือนกว่า 5 ล้านหลังจะได้รับการช่วยเหลือค่าพลังงานสูงสุด $500 ในปีงบประมาณหน้า โดยจะไม่มีการจ่ายเงินให้ แต่จะเป็นการหักเงินส่วนนี้ออกจากใบเรียกเก็บ สำหรับใครบ้างที่มีสิทธิ์ได้รับเงินช่วยเหลือนี้จะขึ้นอยู่กับแต่ละรัฐและเขตการปกครอง ซึ่งเป็นผู้ร่วมสนับสนุนการร่างกฎหมายนี้

ผู้ป่วยพบแพทย์ทั่วไป หรือ จีพี
รัฐบาลได้จัดงบประมาณกว่า 3.5 พันล้านเหรียญสำหรับใช้ในเวลา 5 ปี ในการทำให้การไปพบแพทย์ง่ายขึ้นและถูกลง โดยเพิ่มแรงจูงใจของ bulk billing สำหรับแพทย์ทั่วไป (GP: General Practitioner) ให้สูงขึ้น ซึ่งผู้ป่วยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเข้าพบ เด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี, ผู้รับบำนาญและผู้ถือ concession card โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในชนบทจะได้รับการช่วยเหลือเพิ่มขึ้น 3 เท่า

ผู้รับเงินสวัสดิการ
เงินสวัสดิการหลายประเภทจ่ายเพิ่มขึ้น $40 ต่อสองสัปดาห์ รวมไปถึง JobSeeker, Austudy และ Youth Allowance แต่ผู้ที่ได้รับผลประโยชน์สูงสุดจากงบประมาณใหม่คือ ชาวออสเตรเลียที่ต้องการความช่วยเหลือที่มีอายุมากกว่า 55 ปี ที่ได้รับสวัสดิการ JobSeeker ต่อเนื่องกันเป็นเวลา 9 เดือนขึ้นไป คนกลุ่มนี้จะได้รับสวัสดิการเพิ่ม ซึ่งปกติจะสงวนไว้ให้ผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี ซึ่งหมายความว่าผู้ที่อายุ 55-59 ปี จะได้รับเงินเพิ่ม $92.10 ต่อสองสัปดาห์

ชาวออสเตรเลียที่ได้รับ Commonwealth Rent Assistance จะได้รับเงินเพิ่มขึ้น อัตราความช่วยเหลือค่าเช่าสูงสุดจะเพิ่มขึ้น 15% คิดเป็นเงินเพิ่มอีกถึง $31 ต่อสองสัปดาห์สำหรับผู้ที่กำลังได้รับเงินช่วยเหลืออยู่

ครอบครัวที่มีลูก, พ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว, childcare
ตั้งแต่เดือน ก.ค. 2023 กว่า 1.2 ล้านครอบครัวจะเริ่มได้รับสิทธิ์ childcare ที่ถูกลง และหากคุณเป็นพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว (single parent) จะได้รับเงินสวัสดิการเพิ่มขึ้น

ภายใต้นโยบายปัจจุบัน ผู้ที่มีสิทธิ์ได้รับเงินสวัสดิการ Parenting Payment (single) จะได้รับเงินจนลูกอายุครบ 8 ปี ซึ่งนโยบายใหม่จะยืดเวลาจ่ายสวัสดิการไปจนกว่าลูกคนเล็กจะอายุ 14 ปี คิดเป็นเงินที่ได้รับเพิ่มขึ้น $176.90 ต่อสองสัปดาห์ เทียบกับเงิน JobSeeker ณ ปัจจุบัน

สรุปก็คือ มันเป็นข่าวดีสำหรับครอบครัวที่มีลูกใน childcare และมีรายได้ของครอบครัวต่ำกว่า $530,000

ครอบครัวที่มีรายได้ต่ำกว่า $80,000 จะได้รับสวัสดิการของลูกคนแรกเพิ่มขึ้นถึง 90% โดยครอบครัวที่มีรายได้มากกว่า $80,000 ก็จะได้รับสวัสดิการลดทอนลงมาตามรายได้

คนดูแลผู้สูงอายุ (Aged care workers)
คนดูแลผู้สูงอายุกว่า 250,000 คนในออสเตรเลีย ซึ่งรวมไปถึง registered nurses และ home care professionals จะได้รับค่าจ้างเพิ่ม 15% ภายใต้แพคเกจงบประมาณ 11.3 พันล้านเหรียญ สำหรับบางคน นี่เป็นการได้รับค่าจ้างเพิ่มขึ้นทันที $10,000 ต่อปี เมื่อเริ่มปีการเงินใหม่ในเดือน ก.ค.

เจ้าของบ้าน (Home owners)
เจ้าของบ้านที่ต้องการปรับปรุงเรื่องประสิทธิภาพการใช้พลังงานสามารถขอกู้เงินแบบดอกเบี้ยต่ำได้ โดยมีเงินกู้ให้กว่า 110,000 ก้อน เพื่อใช้ในการปรับปรุงบ้าน เช่น ทำหน้าต่างสองชั้น (double-glazing windows) หรือติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์

ธุรกิจขนาดเล็ก
ส่วนลดภาษีเพื่อช่วยธุรกิจขนาดเล็กที่มีผลประกอบการต่อปี (annual turnover) น้อยกว่า 50 ล้านเหรียญ ในการใช้พลังงาน ธุรกิจขนาดเล็กสามารถขอลดหย่อนภาษีคิดเป็น 20% ของค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงการใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการทำความร้อนหรือเย็นด้วยไฟฟ้า (electrified heating and cooling), ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงานเพิ่ม, เตาไฟฟ้า, ติดตั้งแบตเตอรี่และปั๊มความร้อน

โดยสามารถเคลมได้สูงสุด $20,000 หมายความว่า ค่าใช้จ่ายสูงสุดคือ $100,000

ส่วนลดภาษีนี้จะถูกตัดให้ทันทีและจะดำเนินไปถึงกลางปีหน้า ซึ่งธุรกิจสามารถหักค่าใช้จ่ายได้เมื่อเครื่องใช้ได้ถูกติดตั้งหรือพร้อมใช้ก่อนวันนั้น

Superannuation
ตั้งแต่เดือน ก.ค. 2026 นายจ้างจะต้องจ่ายเงินซูเปอร์ในวันจ่ายเงินเดือนแทนที่จะจ่ายแบบไตรมาส เพื่อให้ผู้ทำงานได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจากดอกเบี้ยทบต้น และทำให้ธุรกิจเลี่ยงไม่จ่ายซูเปอร์ได้ยากขึ้น รัฐบาลกลางประเมินว่าผู้ที่มีอายุ 25 ปี รับรายได้เฉลี่ย จะมีเงินซูเปอร์เพิ่มขึ้นประมาณ $6,000 เมื่อเกษียณ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2025 ผู้ที่มีเงินซูเปอร์เกิน 3 ล้านเหรียญ จะต้องเสียภาษีสองเท่า คือ 30%

 

 

ผู้ที่เสียประโยชน์ - Losers

นักเรียนต่างชาติ
กฎของนักเรียนต่างชาติถูกปรับให้เข้มขึ้น ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. ผู้ถือวีซ่านักเรียนจะถูกจำกัดชั่วโมงทำงานสูงสุดที่ 48 ชั่วโมงต่อสองสัปดาห์ เปลี่ยนหลังจากที่ได้มีการยกเลิกขีดจำกัดชั่วโมงทำงานออกไปในช่วงโควิดระบาด นักเรียนที่ทำงานเกี่ยวกับการดูแลผู้สูงอายุจะได้รับการยกเว้นกฎใหม่นี้ไปจนถึงสิ้นปี

กฎสำหรับผู้ที่จะได้รับอนุญาตให้ศึกษาด้วยวีซ่านักเรียนก็จะถูกเปลี่ยนด้วย เนื่องจากรัฐมนตรีกระทรวงกิจการภายในประเทศ (Home Affairs) Clare O’Neil กล่าวว่ามีคนจำนวนมากที่ใช้วีซ่านักเรียนเป็นเส้นทางสู่การเป็นผู้อยู่อาศัยถาวร (permanent residency) แทนที่จะมาเพื่อการศึกษา

เมื่อต้นเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ประกาศเพิ่มเกณฑ์การจ่ายเงินขั้นต่ำสำหรับวีซ่าแรงงาน (permanent skilled worker visa) ซึ่งหมายความว่าจะมีจำนวนผู้ที่มีคุณสมบัติสำหรับโปรแกรมนี้น้อยลง หลังจากที่โปรแกรมนี้ถูกหยุดชั่วคราวมาเป็นเวลา 10 ปี

อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีกล่าวว่า “เส้นทางที่ง่ายและเร็วขึ้น” จะถูกเสนอเพื่อดึงดูดนักเรียนที่ต้องการเรียนทักษะที่ประเทศออสเตรเลียต้องการ และนักศึกษาจบใหม่จะได้รับสิทธิ์ในการทำงานหลังเรียนจบเพิ่มอีก 2 ปีในบางระดับและสาขาการศึกษา

ผู้ย้ายถิ่นฐานใหม่ (New migrants)
ค่าสมัครวีซ่าเพิ่มขึ้นอีก 6% โดยเงินที่เพิ่มมานี้จะถูกใช้ในการปรับปรุงการดำเนินเรื่องวีซ่าให้เร็วชึ้นและลดงานค้าง (immigration backlogs) สำหรับ temporary และ permanent residencies ที่ราคาแพงอยู่แล้วก็ยิ่งสูงขึ้นอีก

ค่าสมัครของ working holiday visas และ short-stay visas เพิ่มสูงขึ้นไปอีก 21%

นักท่องเที่ยว
ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. ผู้ที่เดินทางออกจากออสเตรเลียโดยเครื่องบินหรือเรือสำราญจะต้องเสียค่า ‘Passenger Movement Charge’ เพิ่มจากปัจจุบัน $60 เป็น $70 

บุหรี่ไฟฟ้า (Recreational vaping)
บุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้งจะถูกแบน ส่วนประเภทอื่น ๆ จะถูกควบคุมอย่างเข้มงวดและสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาพร้อมต้องมีใบสั่งยาด้วยเท่านั้น

 

 

ไม่มีการเปลี่ยนแปลง - No Change

ผู้เสียภาษี
ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแผนลดภาษี third tranche ซึ่งจะมีผลปีหน้า

การลดภาษีขั้นที่ 3 จะยกเลิกช่วงภาษี 37%, ลดช่วงภาษี 32.5% เป็น 30% และเพิ่มเกณฑ์ภาษีสูงสุดจาก $180,001 เป็น $200,001

เนื่องจากภาษีรายได้ไม่ได้ถูกปรับตามอัตราเงินเฟ้อ จึงมีคนจำนวนมากที่ถูกเลื่อนไปจ่ายภาษีที่สูงขึ้น (higher tax brackets) เมื่อได้รับเงินเดือนเพิ่ม

 

 

ที่มาและอ้างอิง:

budget.gov.au - "Budget 2023-24 - Department of the Treasury"
abc.net.au - "Federal budget 2023: Winners and Losers"
anthonyalbanese.com.au - Budget 2023 - Anthony Albanese

ปรับปรุงล่าสุดเมื่อ 12 พ.ค. 2566
MaBrisbane

MaBrisbane

Welcome to The Sunshine State