แน่นอนว่าทุกคนที่ได้มาเรียนที่ออสเตรเลียนั้น มี 3 สิ่งที่เชื่อว่าทุกคนคิด และตั้งใจจะทำแต่วันแรกที่ก้าวเข้ามาในออสเตรเลีย ก็คงจะเป็นเรื่องการวางแผนการเรียน การได้ไปเที่ยว และอีกสิ่งหนึ่งสำคัญคือการทำงานหาเงิน เพื่อช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพ
..แต่เรายังมีกิจกรรมอื่น ๆ อีก ที่แนะนำให้ควรจะทำเมื่อมีโอกาสได้มาที่ออสเตรเลีย เราไปดูกันว่ามีกิจกรรมอะไรบ้างที่เราแนะนำให้ทำเมื่อได้มาเรียนที่ออสเตรเลีย
เข้าร่วมเทศกาล งานอีเวนท์คอมมูนิตี้ต่าง ๆ
ออสเตรเลียขึ้นชื่อเรื่องความหลากหลายทางเชื้อชาติและศาสนา โดยกว่าครึ่งของประชากรที่อาศัยอยู่นั้นไม่ได้เกิดในออสเตรเลีย หรือมีบิดามารดาที่มาจากประเทศนอกออสเตรเลีย ดังนั้นจึงมีการจัดงงานอีเวนท์และเทศกาลต่าง ๆ อยู่ตลอดทั้งปี การที่ได้มาอยู่ที่ออสเตรเลียนอกจากจะได้เห็นชีวิตความเป็นอยู่ของชาวออสเตรเลียแล้ว ยังเป็นโอกาสที่ดีให้เราได้ร่วมงานของคนชาติอื่น ๆ อีกด้วย นอกจากจะได้ชิมอาหารอร่อย ชมการแสดงพื้นเมืองของแต่ละชาติแล้ว ก็ยังเป็นการได้เรียนรู้วัฒนธรรมของชาตินั้น ๆ ไปในตัวอีกด้วย
โดยที่บริสเบนมีงานที่น่าสนใจ เช่น Paniyiri (Greek Festival), Oktoberfest (German Festival), Le Festival (French Festival), IndOz Festival (Indonesian cultural event) เป็นต้น
ร่วมกิจกรรมจิตอาสา เรียนรู้การทำงาน และฝึกใช้ภาษา
หลากหลายอีเวนท์และเทศกาลในออสเตรเลียได้เปิดรับผู้มีจิตอาสาเข้าไปช่วยงานภายใน การได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการจัดงานนอกจากการจะได้เรียนรู้วิธีการทำงานร่วมกับคนที่นี่แล้ว ยังเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการฝึกใช้ภาษาที่ดี รวมถึงการได้รู้จักกับเพื่อนใหม่ ๆ อีกด้วย
สำหรับช่องทางในการเข้าร่วมกิจกรรมอาสา หรือที่เรียกว่า Volunteer นั้น ได้แก่ตามบอร์ดมหาลัยของตนเอง กลุ่มชุมชนต่าง ๆ ในท้องถิ่น หรือแม้แต่ อีเวนท์ที่ประกาศรับสมัครในเว็บไซต์และโซเชียลมีเดีย เป็นต้น
Ref. World Science Festival Brisbane
ฝึกงานในบริษัทและองค์กรต่าง ๆ เพื่อหาประสบการณ์
ยกระดับจากการได้ทำงานเป็นจิตอาสาจากหัวข้อที่แล้ว มาทำงานแบบจริงจังมากขึ้น โดยการยื่นใบสมัครเข้าไปฝึกงานกับบริษัทที่ตั้งอยู่ในออสเตรเลีย (Internship Program) ซึ่งเป็นอะไรที่แนะนำว่าควรทำเป็นอย่างมาก เมื่อมีโอกาสได้มาถึงที่นี่แล้ว แม้ว่ามันจะไม่ได้เป็นข้อบังคับกับทางมหาลัยในเรื่องการฝึกงานก็ตาม แต่เป็นการสร้างโอกาสให้กับตัวเองเพื่อเรียนรู้การทำงานจริง ๆ ถึงงานที่เราได้รับมอบหมายจะไม่ได้ใหญ่มาก แต่อย่างน้อยก็ทำให้เราได้สัมผัสบรรยากาศและวัฒนธรรมการทำงานของบริษัทในออสเตรเลีย ก็นับว่าเป็นการเปิดมุมมองของเราอยู่ไม่น้อย
และก็เห็นบ่อยครั้งที่มีคนได้งานประจำทำจากบริษัทนั้น ๆ หลังจากฝึกงานเสร็จ เพราะว่าการเทรนฝึกพนักงานในแต่ละครั้งบริษัทก็สูญเสียเวลาและคนต้องมารับผิดชอบดูแลผู้ฝึกงานอยู่ไม่น้อย หากเรามีสกิลการทำงานที่ดี รวมถึงสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ดีด้วยแล้วนั้น ก็เป็นเหมือนใบเบิกทางในการพิจารณารับผู้ฝึกงานเข้าร่วมทำงานต่อกับทางบริษัทอีกด้วย
การหาบริษัทเพื่อเข้าฝึกงานนั้น นอกจากจะหาเองแล้ว ยังสามารถสอบถามกับทางมหาวิทยาลัยที่กำลังศึกษาอยู่ได้ โดยทุกมหาวิทยาลัยจะมีโปรแกรมฝึกงาน หรือ Internship Program อยู่ และหากเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงก็จะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับบริษัทดัง ๆ ในออสเตรเลีย ให้การสนับสนุนรับนักศึกษาเข้าฝึกงาน ซึ่งมีทั้งแบบที่เราได้เงินค่าจ้าง และเสียเงินค่าฝึกงาน
เปลี่ยนงาน เพิ่มทักษะการทำงาน สร้างเครือข่ายเพิ่มเติม
สิทธิในการทำงานตามเงื่อนไขของวีซ่านักเรียน 40 ชั่วโมงต่อสองสัปดาห์นั้น นอกจากจะเป็นช่องทางหนึ่งในการหารายได้เพื่อแบ่งเบาภาระในการดำรงชีพของนักเรียนที่มาเรียนที่ออสเตรเลียแล้วนั้น ยังเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการพัฒนาทักษะในการทำงานของเรา และหาเพื่อนใหม่ ๆ ได้อีกด้วย โดยไม่อยากให้ปิดกั้นตัวเองด้วยการทำงานกับที่ใดที่หนึ่งนานจนเกินไป พยายามเปลี่ยนสถานที่ทำงาน หรือเปลี่ยนสายงานใหม่ ๆ ทำบ้าง โดยพยายามเลือกธุรกิจที่มีชาวออสเตรเลียหรือเพื่อนร่วมงานชาวต่างชาติ เพื่อช่วยให้เราได้ฝึกใช้ภาษา
โดยส่วนใหญ่แล้วนักเรียนไทยที่มาเรียนที่ออสเตรเลีย จะมองหางานร้านอาหารไทยเป็นหลักเนื่องจากสามารถหางานได้ง่าย และสื่อสารกันได้เข้าใจกว่า ซึ่งก็เป็นข้อดีที่เราได้พูดคุยกับคนชาติเดียวกันเมื่อต้องจากเมืองไทยมาจะได้ไม่เหงา แต่ก็ควรแบ่งชั่วโมงการทำงานไปทำงานกับชาวต่างชาติด้วยเช่นกัน
ปิดตำราพักสายตา ท่องเที่ยวในดินแดน Down Under
เรียนและทำงานแล้ว ก็อย่าลืมพักให้เวลากับตัวเองบ้าง ออกไปสูดอากาศนอกเมือง หาสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อผ่อนคลาย ออสเตรเลียมีสถานที่อันสวยงามรอคอยให้เราได้ไปเยือนอยู่มากมาย ทุกเมืองในออสเตรเลียมีเอกลักษณ์อันโดดเด่นของตัวเองอยู่ ถ้ามีโอกาสก็อยากให้ไปชมซักครั้ง
ที่ “ซิดนีย์” มีสถานที่ชื่อดังอย่างอาคาร Opera House ชายหาดชื่อดัง Bondi Beach และ มรดกโลกอย่างเทือกเขาบลูเมาท์เทนส์ (Blue Mountains)
ติด ๆ กันเมือง “เมลเบิร์น” เมืองใหญ่อันดับสองของออสเตรเลีย ก็ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของอาคาร ร้านค้าร้านอาหาร งานศิลปะ ออกไปนอกเมืองก็มีไร่ไวน์ เกาะที่มีเพนกวิน Phillip Island และถนนเรียบริมทะเลอันเลื่องชื่อ Great Ocean Road และจุดชมวิวชื่อดัง The Twelve Apostles
สำหรับที่รัฐควีนส์แลนด์ ดินแดนแห่งแสงแดดและท้องฟ้าอันสดใส ก็มีเมืองดังอย่าง “บริสเบน” “โกลด์โคสต์” “ซันไชน์โคสต์” และ “แคนส์” ที่มีอากาศและไลฟ์สไตล์ที่เหมาะกับการพักผ่อนรีแลกซ์ ในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส แสงยามเย็นและพระอาทิตย์ตกที่รัฐนี้สวยงามแบบสุด ๆ