สวัสดีค่ะสมาชิกและเพื่อน ๆ MaBrisbane ทุกท่าน หายหน้าหายตากันไปนาน ครั้งนี้ พี่รี่แห่ง MaBrisbane มาพร้อมกับบทความที่พี่รี่คิดว่ามีประโยชน์มาก ๆ กับน้อ งๆ และเพิ่มแรงบันดาลใจให้กับวัยรุ่นสมัยนี้ได้ไม่มากก็น้อย เรามาดูการสัมภาษณ์กับวงสุนทรีย์ ซึ่งมีสมาชิกไม่ใช่ใครที่ไหน เค้าคืออดีตนักเรียนไทยในบริสเบนและทีมงานของ MaBrisbane น้องบาสกิ้นนั่นเอง
ไม่นานมานี้ พี่รี่ได้มีโอกาสกลับเมืองไทยและได้นัดเจอกับน้องบาส เพราะทราบมาว่า หลังจากน้องบาสของเรากลับไทยได้เพียงหนึ่งเดือน ก็ได้เข้าประกวดเล่นดนตรีของ โตโยต้า และเข้าไปถึงรอบ 16 วง สุดท้ายจากผู้เข้าประกวดทั้งหมด 400 วง โดยที่ทั้งบาสและวงสุนทรีย์ มีเวลาซ้อมเพื่อเตรียมตัวกันเพียงแค่เดือนเดียวเท่านั้น
"วงสุนทรีย์" มีสมาชิก 4 คนประกอบด้วย อาร์ม หรือ ธีมา ปรีดาวรรณ (ร้องนำและกีตาร์), จิตติภัทร ลาภเจิรญวงศ์ หรือ ภัทร (กีตาร์), นนทพัทธ์ พรเจริญวิวัฒน์ หรือไนท์ (มือกลอง) และสหรัฐ ปรีดาวรรณ หรือ บาสกิ้น (มือเบส)
วงสุนทรีย์เริ่มต้นมาจากอาร์มกับภัทร์ที่เริ่มเล่นดนตรีกันมาตั้งแต่ ม.3 โดยหัดเล่นกีตาร์กันเอง ดูตามยูทูปบ้าง หนังสือบ้าง บาสกิ้นแอบเล่าให้ฟังว่าตั้งแต่สมัยมือภัทรยังหงิกเป็นกุ้งอยู่เลยครับ(หัวเราะ) จากนั้นก็เปลี่ยนตัวนักดนตรีมาเรื่อยๆ จนมีไนท์และบาสกิ้นมารวมตัวกันเป็น “วงสุนทรีย์” มีโอกาสลองประกวดดนตรี ตอนที่บาสเพิ่งกลับมาจากบริสเบน และสมาชิกในวงปิดเทอมพอดีมีเวลาซ้อมดนตรีที่บ้านของอาร์ม ก็เลยลองสมัครในโครงการของของโตโยต้าดู ซึ่ง ปรากฎว่าจาก 400วง ก้อเข้าเริ่มจนถึง 16 วง สุดท้าย ซึ่งเราก็ดีใจมากครับ อาร์มกล่าว
มือกลองอย่างไนท์ แอบบอกพี่รี่ว่า จริง ๆ แล้วตัวไนท์เองอยากร้องนำ แต่พอดีทางวงขาดมือกลอง เลยจำเป็นต้องมาเล่นตำแหน่งนี้ (หัวเราะ) ตอนนี้ไนท์กำลังเรียนเอกดนตรีสากล คือกลองชุด ในอนาคตอยากเปิดโรงเรียนสอนเรียนดนตรี
จิตติภัทร หรือ ภัทร ตำแหน่งกีตาร์ เริ่มเล่นกีตาร์ตอนม.3 โดยการเปิดดูคอร์ดในเวป ซ้อมกับธีมา อยู่กันสองคน หลังจากนั้นเริ่มเล่นกันมาเรื่อย ๆ จนถึงขั้นพอใช้ได้ในระดับหนึ่ง ภัทรเลยไปลงเรียนกีตาร์ตอนม.5 ปัจจุบันภัทรเรียนที่มหาวิทยาลัยหอการค้า คณะวิทยาการคอมพิวเตอร์ ปี3 สาขา คอมพิวเตอร์แอนิเมชั่น ถึงแม้จะไม่ได้เกี่ยวกับทางสายดนตรีก็ตาม
อาร์ม ตำแหน่งร้องนำและกีตาร์ มีชื่อจริงคือ ธีมา เนื่องมาจาก เดิมทีคุณพ่ออยากให้ใช้ชื่อจริงว่า อาร์มครับ แต่ทางที่จดทะเบียนบอกใช้ไม่ได้ คุณป้าจึงบอกให้ใช้ชื่อ ”ธีมา” แทนเพราะแปลกดี มีความหมายว่า ”นักปราชญ์ผู้มีปัญญา” ตอนเด็ก ๆอาร์มเองไม่ชอบชื่อนี้เลย จนมีอยู่วันหนึ่งได้ยินชื่อศิลปินแรฟคนหนึ่งชื่อ “ทีมิว” เลยเริ่มชอบชื่อ ธีมา ขึ้นมาทันที ปัจจุบันอาร์มเรียนที่มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ สาขาวิทยุและโทรทัศน์ เพราะชอบทางด้านนี้อยู่แล้ว ซึ่งก็ถือว่าเป็นสายตรงเลยครับ
สำหรับผู้อาวุโสสุด คือ บาสกิ้น กล่าวว่า นอกจากจะเป็นมือเบสแล้ว ยังเป็น “ผู้เตือนสติในวง” ด้วย เพราะอายุเยอะสุด (หัวเราะ) บาสกิ้นบอกพี่รี่ด้วยอารมณ์ขันว่า เริ่มเล่นดนตรีเพราะเพื่อความเท่ห์ หลักๆ คือ เหล่หญิง (หัวเราะ) ส่วนการประกวดเพื่ออยากถ่ายรูปลงเฟสเหล่สาวครับ555 สิ่งเหล่านี้เป็นผลพลอยได้ แต่จริง ๆ แล้วมีความตั้งใจอยากทำงานดนตรีที่เรารักในแบบฉบับของวงสุนทรีย์ ตัวบาสกิ้นจบที่มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ คณะนิเทศศาสตร์ โฆษณาและการสื่อสารการตลาด พอเรียนจบแล้วได้มีโอกาสทำงานที่ไทยทางด้านกราฟฟิค และเรียนต่อภาษาที่บริสเบน จึงได้มีโอกาสช่วยทีมงาน MaBrisbane และทำให้ได้รู้จักพี่ๆ
กลับมาถึงด้านงานเพลงกันบ้าง... อาร์มกับภัทรได้แต่งเพลงไว้แล้วมี 12 เพลง แต่งโดยอาศัยจากชีวิตจริงเช่น เพลงแนวรัก ก็จะเป็นสไตล์การโหยหาความรัก หรือความรักที่หายไปแล้ว อะไรประมาณนี้ (หัวเราะ) แนวเพลงที่เล่น อาร์มเล่าให้ฟังว่าเป็นแนวพวกเขาคิดกันเองครับคือแนวลูกผสม เป็นแนว “อิมเมจ” คือมาจาก”อิมเมจิ้น” ซึ่งมาจากจินตนาการและเป็นแนวของพวกเราเอง ส่วนชื่อวง ก็มาจากชื่อของคุณแม่ของอาร์มกับบาสกิ้นครับ นั่นก็คือ “สุนทรีย์”
ผลตอบรับหลังจากประกวดเป็นอย่างไรบ้าง... อาร์มบอกว่า มีแฟนคลับมากันเยอะมากโดยเฉพาะ จิตติภัทร เค้าจะมีแฟนคลับเป็นเด็ก ม.ต้นมากรี๊ดซะส่วนใหญ่ ส่วนไนท์ก็สไตล์สาวมหาลัย ส่วนพี่บาสจะเป็นแนวผู้ชายแนวสีม่วงนิดๆและก็ผู้หญิงมีอายุออกแนวอวบๆหน่อย (หัวเราะ)
อนาคตเรียนจบมีแผนชีวิตกันอย่างไรบ้าง... ตัวไนท์เองอยากทำงานทางสายดนตรีเลย เป็นอาจารย์ หรือเป็นนักดนตรี โดยมีไอดอลในดวงใจคือ พี่ใหญ่ โลโซ เพราะประทับใจในเทคนิคเฉพาะตัว แนวดนตรีเมื่อก่อนวงสุนทรีย์จะเน้นเป็นสายร๊อค เฮฟวี่เมทัล จนเปลี่ยนสายไปทางป๊อป แต่ตอนนี้ก็เป็นแนวของตัวเองและขอตั้งใจทำงานเพลงที่มีคุณภาพกันต่อไป
โดยส่วนตัวภัทรแล้ว มีความชื่นชอบฟุตบอล ดนตรีและผู้หญิงครับ(ฮา) อยากจะเปิดสนามบอลและเก็บค่าเช่าสนาม เพราะชอบเตะฟุตบอล และก็รู้ว่าสนามค่อนข้างแพงและสนามไม่ค่อยว่าง ก็เลยคิดว่า อยากทำงานแล้วเก็บเงินซักก้อนหนึ่ง แล้วมาเปิดสนามเตะฟุตบอลให้คนเช่าเล่นดีกว่า ทำอะไรที่เรารักน่าจะดีกว่า แต่ก็ไม่ทิ้งงานดนตรีอย่างแน่นอน
หนุ่มอาร์มที่กำลังเรียนเรื่องวิทยุและโทรทัศน์ คือเป็นแนวทางสายดนตรีโดยตรง บอกว่าอยากมาทางนิเทศน์ แต่ทีสำคัญคือ “ผมต้องเลี้ยงพ่อแม่ให้ได้ครับ” ... ปรบมือให้เลยจ้า
พี่ใหญ่อย่างบาสกิ้นอยากเป็นศิลปิน (จริงใจมาก) และเป็นความตั้งใจมาตลอด บาสกิ้นคิดว่าถ้าตั้งใจทำได้ดี ก็จะได้ทั้งชื่อเสียง เงินทอง และทำในสิ่งที่เรารัก ที่สำคัญเราต้องทำด้วยใจนะครับ ส่วนเรื่องหญิงนั้นคงปล่อยให้เป็นไปตามแนวเพลง (หัวเราะ)
”วงสุนทรีย์” ถึงจะเป็นเด็กใหม่ และไม่ได้เป็นมืออาชีพอะไรมากนัก แต่ด้วยความรักและตั้งใจในการทำงานของพวกเขา พร้อมกับมุมมองที่ว่า “โอกาสเปิดให้กับผู้ที่ไม่เคยท้อถอยเสมอ” ถึงแม้ว่าปัจจุบันวงสุนทรีย์เองจะไม่ได้ทำงานเพลงกับค่ายยักษ์ใหญ่อะไรก็ตาม แต่พวกเขากลับมองว่าในยุคสมัยนี้โลกโซเชียลสามารถส่งผ่านสื่ออะไรได้หลาย ๆ อย่าง ยังไงก็ฝากวงสุนทรีย์ ไว้ให้เพื่อน ๆ พี่ ๆ ติดตามได้ทางช่องยูทูปนะคะ