การที่จะถ่ายรูปออกมาให้สวยและดูดีนั้น การเข้าหาแสงธรรมชาติทีเพียงพอ สร้างมุมที่แสงตกกระทบ คือองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ภาพที่ออกมาชัดเจน และเห็นรายละเอียดบนภาพได้อย่างครบถ้วน “แสง” จึงมีความจำเป็นในการถ่ายภาพบุคคล หรือแม้แต่จะเซลฟี่กับวิวทิวทัศน์เบื้องหลัง แต่ผ่านมาในยุคนี้ ยุคที่กล้องโทรศัพท์มือถือหลากหลายแบรนด์ ต่างออกฟีเจอร์การถ่ายภาพประเภท “Night Mode” หรือโหมดกลางคืนออกมาแข่งขันกันให้ช่างภาพ (มือสมัครเล่น) อย่างเรา สามารถค้นพบความสวยงามยามค่ำคืนได้อย่างชัดเจนผ่านเลนส์กล้องมือถือ คราวนี้เอง จึงอยากมาแนะนำจุดถ่ายรูปในบริสเบนยามค่ำคืน ให้เพื่อน ๆ ได้เห็นทั้งแสงสีและเรื่องราวที่ซ่อนอยู่ในยามที่ผู้คนต่างหลับไหล
Fairy Light Tree ต้นไม้เรืองแสงในสวน
instagram : visitbrisbane
ที่มาภาพ : brisbane.qld.gov.au
เมื่อเราเดินไปยัง City Botanic Garden จาก Goodwill Bridge ในยามค่ำคืน เราจะมองเห็นต้นไม้ที่ประดับไปด้วยดวงไฟสีส้มหลายพันดวง ที่พันละหย่อนลงมาสวยงาม ให้ได้ถ่ายรูปยามค่ำคืน จะถ่ายเดี่ยวหรือถ่ายรูปคู่กับหวานใจก็สุดแสนโรแมนติกสุด ๆ เลย และนอกจากนี้ ในสวนต่าง ๆ ในตัวเมืองบางแห่ง ยังมีต้นไม้เรืองแสงแบบนี้ประดับเช่นกัน อาทิเช่น ที่ Mowbray Park ในย่าน East Brisbane หรือจะเป็นที่ Captain Burke Park สวนใต้สะพาน Story Bridge ฝั่ง Kangaroo Point เป็นต้น จูงมือหวานใจไปตามหาต้นไม้เรืองแสงรอบเมืองกันได้
Brisbane Sign
ที่มาภาพ : pixabay.com
แลนด์มาร์คประจำเมืองบริสเบนที่ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้า Queensland Performing Arts Centre ใกล้กับ South Bank Parklands เป็นจุดที่ใครผ่านไปมา ต่างต้องแวะเวียนมาถ่ายรูปกันในตอนกลางวัน หรือปีนป่ายไปยังบนตัวอักษรเพื่อถ่ายรูปอีกมุม แต่ในยามค่ำคืนเอง บริเวณนี้ก็มีความสวยงามที่ให้ความรู้สึกแตกต่างกัน นอกจากจะได้เห็นตัวอักษรของเมืองเบื้องหน้าแล้ว เบื้องหลังจะยังเห็นแสงสีของตึกสูงในย่าน CBD อีกด้วย อีกทั้งถ้าเปิดโหมด Long-Exposure เป็นการเปิดความเร็วชัตเตอร์ค้างไว้เป็นเวลานาน ทำให้มองเห็นไฟรถยนต์ที่วิ่งผ่านไปมาบนสะพาน Victoria หรือเรือ CityCat Ferry บนแม่น้ำบริสเบน เป็นเส้นสาย สวยงามไปอีกแบบ
Wheel of Brisbane
ที่มาภาพ : pixabay.com
เดินผ่าน South Bank Parklands มาเรื่อยๆ คงจะได้พบกับชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่ประจำเมือง ที่เปล่งแสงสว่างตามวงล้อที่หมุนวนไปมา สะกดสายตาให้เราได้มองได้อย่างไม่น่าเบื่อ จะหามุมถ่ายรูปในระยะใกล้ หรือจะถ่ายจากบนสะพาน Victoria Bridge ก็ได้มุมมองของเมืองและอาคารโดยรอบ Wheel of Brisbane นี้เปิดใช้งานเมื่อปี 2008 เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 150 ปีการก่อตั้งรัฐ Queensland นอกจากจะเห็นความสวยงามของชิงช้ายามค่ำคืนแล้ว เราเองยังสามารถนั่งกระเช้า ขึ้นไปชมวิวมุมสูงของเมืองได้ 360 องศา ได้สูงถึง 60 เมตร หรือประมาณตึก 20 ชั้นเลยทีเดียว
Victoria Bridge
ที่มาภาพ : pixabay.com
ดวงไฟ LED กว่า 236 ดวง ที่เปล่งประกายแสงสีสลับไปมา บริเวณขอบใต้สะพาน คือความสวยงามที่ผู้คนที่เดินผ่านไปมาบริเวณทั้งบนถนน หรือที่กำลังสัญจรด้วยเรือเฟอร์รี่ ลอดใต้สะพาน สามารถมองเห็นได้... สะพาน Victoria Bridge แห่งนี้ คือสะพานหลักที่ใช้ในการสัญจรไปมาจากใจกลางเมือง หรือ CBD ไปยัง South Brisbane ซึ่งไม่ได้มีแค่ความสวยงามเพียงมุมเดียว แต่ถ้าเราเดินขึ้นไปยังบนสะพาน จะเป็นจุดถ่ายรูปที่สามารถมองเห็นวิวเมืองทั้งสองฝากฝั่ง ทั้งฝั่งเมืองใหญ่และฝั่ง South Bank Parklands อีกด้วย แนะนำให้ขึ้นมาถ่ายรูปตอนฟ้ากำลังใกล้มืด จะได้เห็นความสวยงามของเมืองในรูปแบบที่น่าสนใจ
Kangaroo Point Cliffs วิวมุมสูง
ที่มาภาพ : getnofilter.com
เปลี่ยนจากการถ่ายแสงไฟสีสันสดใส มาชมวิวมุมสูงที่เดินได้จากในตัวเมือง สามารถเดินขึ้นมาจากทางเดินเท้าริมแม่น้ำบนเส้นทาง Kangaroo Point Cliffs Park เดินขึ้นบันไดมายังด้านบนขอบหน้าผา ซึ่งเป็นจุดชมวิว ที่สามารถมองเห็นแสงไฟตามตึกสูงจากฝั่ง CBD ได้อย่างชัดเจน โดยมีแสงไฟจากเรือเฟอร์รี่บนแม่น้ำบริสเบนด้านล่าง เป็นจุดชมวิวที่สวยงามทั้งกลางวันและกลางคืน เหมาะมาตั้งแต่พระอาทิตย์ตกจนถึงฟ้ามืด
Story Bridge
ที่มาภาพ : pixabay.com
เมื่อพระอาทิตย์พ้นขอบฟ้า ดวงไฟน้อยใหญ่ที่ติดเรียงตามโครงสร้างสะพาน Story ก็ได้ถูกเปิดขึ้น หากต้องถ่ายรูปในระยะไกลเห็นสะพานทั้งหมด เราสามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากบริเวณ Wilson's Outlook จุดชมวิวย่าน New Farm หรือจะเป็นภาพระยะใกล้ สามารถเดินลงไปยังบริเวณใต้สะพาน เลียบแม่น้ำบนเส้นทาง New Farm Riverwalk มายัง Howard Smith Wharves ย่านที่เต็มไปด้วยแสงสี ร้านนั่งกินดื่ม ถ่ายรูปสะพานในระยะใกล้ได้สวยงามยิ่งขึ้น อีกมุมหนึ่งของสะพานที่อยากท้าทายให้ทุกคนได้ลอง คือการไต่สะพาน ขึ้นไปยังด้านบน เพื่อชมวิวทิวทัศน์มุมสูงของเมืองกับ Story Bridge Adventure Climb
ที่มาภาพ : storybridgeadventureclimb.com.au
Brisbane City Hall
ที่มาภาพ : pixabay.com
อาคารที่เป็นศาลาว่าการและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังประจำเมือง ที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปชมอาคารภายในได้ในช่วงกลางวัน และในตอนกลางคืนเองก็มีการเปิดไฟ โชว์ความสวยงามของอาคารภายนอกโดยเฉพาะหอนาฬิกาที่ตั้งตระหง่าน ซึ่งนำไปใช้เป็นสัญลักษณ์ประจำบริสเบนที่พบเห็นได้ทั่วไป มีความโดดเด่นท่ามกลางผู้คนที่สัญจรไปมา... Brisbane City Hall เปิดใช้งานมาตั้งแต่ปี 1930 นอกจากจะเป็นสถานที่ราชการแล้ว ภายในอาคารยังถูกใช้งานต่าง ๆ ทั้งงานคอนเสิร์ต, งานประกวด อีกทั้งเป็นสถานที่ไว้ต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองอีกด้วย
ที่มาภาพ : wikimedia.org
นอกจากการเปิดไฟโชว์ความสวยงามของอาคารในวันธรรมดาแล้ว ที่นี่มีความพิเศษโดยเฉพาะช่วงเทศกาลใหญ่อย่างช่วงคริสต์มาส ที่มีโชว์แสงสีเสียงบนด้านหน้าอาคาร ให้ผู้คนที่เดินผ่านไปมา โดยเฉพาะเด็ก ๆ ต่างเฝ้ารอชมการแสดงที่จะหมุนเวียนมาให้ดูตามเวลา
Mount Coot-Tha Summit Lookout
ที่มาภาพ : arrivalguides.com
จุดสุดท้ายที่เป็นจุดยอดนิยมของชาวเมืองหรือนักท่องเที่ยว ที่ต้องการชมวิวเมืองบริสเบนในมุมสูงในจุดที่ดีที่สุด ทั้งในตอนเช้าพระอาทิตย์ขึ้น หรือจะเป็นช่วงกลางคืนฟ้ามืดมองเห็นดวงดาวยามค่ำคืนกับ จุดชมวิวด้านบน Mount Coot-Tha ขับรถไม่ไกล ประมาณ 6 กิโลเมตรจากตัวเมือง ผ่านเส้นทางชัน ขึ้นเขามาด้านบน จะพบกับจุดชมวิวที่สูงถึง 226 เมตร ที่สามารถเห็นแสงสีของเมืองที่อยู่ไม่ห่างไกลมาก และถ้ามาในคืนที่ฟ้าเปิด จะมองเห็นดวงดาวบนฟ้าได้อย่างชัดเจนอีกด้วย จะจูงมือมากับคนรักชมวิวยามค่ำคืน สุดแสนจะโรแมนติกเลยทีเดียว
ในทุก ๆ วันระหว่างที่เราต้องเดินทางสัญจรกลับบ้านในยามค่ำคืน ลองเดินให้ช้าลง สังเกตสองข้างทางที่ผ่านไป เราจะค้นพบความสวยงามรายละเอียดต่าง ๆ ภายในเมือง ก็มีเสน่ห์ไม่แพ้กลางวันเลย
ข้อมูลอ้างอิง: brisbane.qld.gov.au