ข่าวล่าสุด:
ทุกครัวเรือนทั่วออสเตรเลียเตรียมตัวรับมือค่าไฟที่สูงขึ้นในปีงบประมาณใหม่ 2023-24 (เริ่มวันที่ 1 ก.ค. 2023) ในแต่ละพื้นที่มีการปรับขึ้นราคาไม่เท่ากัน เพราะตลาดพลังงานที่ต่างกัน บางพื้นที่ต้องจ่ายมากกว่าที่อื่น ๆ ถึงสิบเท่า นอกจากเรื่องราคาที่ต่างกันแล้ว นโยบายการคืนเงินเพื่อช่วยเหลือประชาชน (rebate) ในแต่ละรัฐก็ต่างกัน มาดูกันว่าแต่ละพื้นที่มีการปรับราคาและได้รับความช่วยเหลือจากรัฐอย่างไรบ้าง
New South Wales (NSW), South-East Queensland (SEQ) และ South Australia (SA)
ทั้งสามพื้นที่นี้ได้รับผลจากการตัดสินใจของ Australian Energy Regulator (AER) เมื่อเดือนที่แล้วในเรื่องของราคาสูงสุดที่ผู้ขายปลีกไฟฟ้าสามารถเรียกเก็บผู้บริโภคได้ (default market offer (DMO)) ใน NSW ราคาค่าไฟจะขึ้นระหว่าง 19-25% ขึ้นอยู่กับเครือข่ายใดในแต่ละพื้นที่
NSW มีงบช่วยเหลือผู้อยู่อาศัยเกี่ยวกับค่าพลังงานหลายอย่าง แต่เนื่องจากงบประมาณยังไม่ถึงกำหนดส่งมอบที่จะมีขึ้นในเดือนกันยายน เพราะการเลือกตั้งเมื่อต้นปี การบรรเทาค่าครองชีพของปีจึงยังไม่ได้ถูกประกาศจากรัฐบาลใหม่ (Labor government)
SA ก็คล้ายกัน ค่าไฟขึ้นประมาณ 23%
อย่างไรก็ตาม ผู้อยู่อาศัยบางส่วนจะได้รับเงินชดเชยซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงบประมาณ ทางรัฐประกาศว่าประมาณ 420,000 ครัวเรือนมีสิทธิ์ได้รับส่วนลดค่าไฟถึง $500 ในปี 2023-24
SEQ ค่าไฟเพิ่มขึ้นประมาณ 21%
ชาวควีนส์แลนด์จะได้รับการช่วยเหลือเรื่องค่าครองชีพจากงบประมาณของรัฐ ทุกครัวเรือนได้รับเงินชดเชย $550 สำหรับบางคนจะได้ $700 ซึ่งเงินส่วนนี้เป็นเงินที่ได้รับเพิ่มจาก $372 ภายใต้โครงการคืนเงินค่าไฟในควีนส์แลนด์
Regional Queensland
พื้นที่อื่น ๆ ในรัฐควีนส์แลนด์ไม่อยู่ภายใต้การตัดสินใจเรื่องค่าไฟของ AER โดยมีหน่วยงาน Queensland Competition Authority เป็นผู้รับผิดชอบควบคุมราคาการขายไฟฟ้าปลีก ซึ่งได้ประกาศเมื่อต้นเดือนว่าราคาจะขึ้นถึง 28.7%
ผู้อาศัยจะได้รับเงินชดเชย $550 และผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษจะได้รับเงินชดเชยโดยรวม $1,072
Victoria (Vic)
เหมือนกับ NSW, QLD และ SA ที่เป็นส่วนหนึ่งของ National Energy Market (NEM) แต่ว่าราคาเริ่มต้นไฟฟ้าถูกกำหนดโดยหน่วยงานของรัฐ Essential Services Commission โดยเฉลี่ย ราคาทั่วทั้งรัฐจะขึ้นไปถึง 25% ซึ่งขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการ
Vic ก็มีงบช่วยเหลือ ชาววิกตอเรียที่ใช้เว็บไซต์ Energy Compare ของรัฐในการหาผู้ให้บริการที่ถูกที่สุด มีสิทธิ์ได้รับ Power Saving Bonus $250
Western Australia (WA)
WA ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ NEM รัฐเข้ามาควบคุมดูแลอย่างสมบูรณ์ นั่นหมายความว่าราคาค่าไฟถูกกำหนดโดยรัฐ ในปีงบประมาณ 2023-24 รัฐได้ประกาศภาษีค่าไฟสำหรับผู้อยู่อาศัยจะขึ้น 2.5% ซึ่งจะทำให้ค่าไฟแพงขึ้น $44 โดยเฉลี่ย นอกจากนี้ รัฐยังได้ประกาศส่วนลดค่าไฟอีก $400 สำหรับทุกครัวเรือน ซึ่งจะอยู่ในรูปแบบการให้เครดิต $200 สองครั้ง สำหรับช่วงเดือนเรียกเก็บค่าไฟ ก.ค.-ส.ค. และ พ.ย.-ธ.ค.
Tasmania (Tas)
อีกหนึ่งรัฐที่อยู่ใน NEM. Tas ไม่ควบคุมการแข่งขันในตลาดพลังงาน แต่ควบคุมเรื่องราคา หน่วยงานควบคุมเศรษฐกิจของรัฐประกาศราคาค่าไฟจะขึ้นโดยเฉลี่ย 9.51% ประมาณ $200
รัฐบาล Tas ประกาศว่า 140,000 ครัวเรือนมีสิทธิ์ได้รับเงินช่วยเหลือค่าพลังงาน $250 ไปอีกสองปีข้างหน้า
Australian Capital Territory (ACT)
เช่นเดียวกับ Tas, ACT ควบคุมราคาพลังงานทั้ง ๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งของ NEM เมื่อต้นเดือน มิ.ย. Independent Competition and Regulatory Commission ประกาศว่าภาษีค่าไฟจะขึ้นโดยเฉลี่ย 4.15% สำหรับปี 2023-24 คิดเป็น $75 เพิ่มขึ้นต่อปี
Northern Territory (NT)
เหมือนกับ WA ไม่ได้อยู่ใน NEM รัฐควบคุมราคาทุกปี นับเป็นปีที่สองติดที่ NT ขึ้นภาษีค่าใช้จ่ายในบ้านอีก 2.7%
เปรียบเทียบค่าไฟขึ้นและเงินช่วยเหลือในแต่ละพื้นที่
อ้างอิงและที่มา:
