ตามล่าอาหาร 9 สัญชาติทั่ว Brisbane แบบจัดเต็ม! (ตอนที่ 2)
หวังว่าจะเริ่มอิ่มท้องนิดนึงแล้ว หลังจาก “ตามล่าอาหาร 9 สัญชาติทั่ว Brisbane แบบจัดเต็ม! (ตอนที่ 1)” ทั้งสไตล์ยุโรป อย่าง Italy, Greece, Spain หรือ สไตล์แอฟริกาและอเมริกาใต้ก็ไม่น้อยหน้า อย่าง Ethiopia และ Mexican วันนี้เราพาข้ามทวีปไปโซนเอเชียกันบ้าง จะพาไปตะลุยที่ไหนกัน เตรียมท้องให้ว่าง แล้วมาทานให้จุกกันเลย
6. Tibetan Food
ประเทศเล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาอันแสนสงบอย่าง “เขตปกครองตนเองทิเบต” พื้นที่ที่ซ่อนมนต์ขลังทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาไว้อย่างยาวนาน แต่เนื่องจากพื้นที่ตั้งอยู่บนที่ราบสูง มักจะตามมาด้วยข้อจำกัดทางด้านวัตถุดิบ จะเห็นได้ว่าหน้าตาอาหารอาจจะไม่ค่อยหวือหวา เมื่อเทียบกับอาหารสัญชาติอื่น ด้วยข้อจำกัดนี่เองกลับเป็นจุดเด่นในการคิดค้นและออกแบบอาหาร นอกเหนือจากอิ่มท้องแล้ว ยังได้คุณค่าทางอาหารด้วย เมนูจานแรกที่เป็นที่นิยมคือ Momo หน้าตาเหมือนเกี๊ยวนึ่งหรือขนมจีบ ที่ดั้งเดิมทานกับเนื้อจามรี แต่ต่อมาได้ปรับรสชาติหลากหลายยิ่งขึ้น อาทิ ไส้เนื้อผสมผัก, ไส้ผักล้วนสำหรับมังสวิรัติ, ไส้มันฝรั่ง ฯลฯ ทานคู่กับน้ำจิ้มหลากหลายแบบ จากจานเบา ๆ เริ่มหนักท้องมากขึ้นด้วย Thukpa ก๋วยเตี๋ยวที่มีรูปแบบเส้นต่าง ๆ ในชามจะใส่เนื้อสัตว์ อย่างเนื้อไก่ และผักเพื่อเพิ่มคุณค่าทางอาหาร ทานง่าย อิ่มท้อง เหมาะกับการทานเป็นมื้อเย็น ส่วนเมนูอื่น ๆ เช่น Chicken Tendoori หรือว่าแกงเนื้อต่าง ๆ จะมีความคล้างคลึงกับอาหารอินเดียซะเป็นส่วนมาก ต่างกันที่ความจัดจ้านของเครื่องเทศที่น้อยกว่านั่นเอง และเครื่องดื่มปิดท้าย แนะนำให้ทานชาเนยที่เรียกว่า Butter Milk Tea อุ่น ๆ สักแก้ว ก็จบมื้อได้อย่างสวยงาม
ถ้าพร้อมแล้ว ตามเราทานอาหารทิเบตร้านแรกแถว Spring Hill กัน กับร้านแรกที่มีชื่อว่า “Tibetan Kitchen” เป็นอีกร้านที่มีโอกาสได้ไปลองทานกับเพื่อน หลังจากที่ตาม Google Map ไปเรื่อย ๆ จนไปหยุดที่หน้าร้านแห่งหนึ่ง ที่ภายนอกร้านดูโดดเด่นสะดุดตาด้วยสีเหลืองฟ้า และพอเข้าไปร้านตามหมุดหมายในแผนที่เมือนย้ายตัวเองไปอยู่ทิเบตยังไงอย่างงั้น จากการตกแต่งด้วยไฟสลัว ๆ ดูมีมนต์คลังจากหุ่นเทพที่วางตกแต่งร้าน บวกกับเพลงแสนเนิบช้าที่เปิด และเมนูอาหารของร้านทำให้เราติดใจก็คือ Namche ko Momo ที่ดูภายนอกเหมือนเกี๊ยวหมูธรรมดาเนี่ยแหละ แต่พอทานพร้อมกับซอส Chutney ที่เตรียมมาให้ จัดว่าเข้ากันได้ดีเลยทีเดียวแหละ ใครอยากอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ดูได้ที่นี่เลย
7. Indian Food
“กลิ่นเครื่องแกง” “ความเข้มข้น” และ “รสชาติที่เผ็ดร้อน” คาแรกเตอร์รสชาติที่ปฏิเสธไม่ได้ สำหรับอาหารอินเดีย ชนชาติที่มีวัฒนธรรมด้านอาหารที่มากมายและน่าค้นหา แน่นอนสิ่งที่ขาดมือไม่ได้เลยเมื่อทานอาหารอินเดีย นั่นคือแผ่นแป้ง หรือที่เราเรียกว่า Naan เปรียบเสมือนช้อนส้อมในมื้ออาหาร ใช้ทั้งจิ้ม ปาด และตักแกงตรงหน้าไม่ให้ขาดมือ สำหรับมือใหม่ที่อยากเริ่มลิ้มลองรสชาติอาหารอินเดีย แนะนำให้เริ่มต้นด้วย Butter Chicken หรือแกงไก่กะทิเนี่ยแหละ ซึ่งแต่ละร้านเค้าก็มีสูตรแตกต่างกัน ร้านนี้แกงมัน ร้านนั้นแกงเผ็ดร้อน ใครเทิร์นโปรฯแล้ว ยังมีแกงแพะ,แกงถั่ว และแกงหลากหลายชนิดให้ลองสั่งกัน หากอยากทานเนื้อสัตว์เน้น ๆ Chicken Tendoori ไก่หมักกับเครื่องเทศ, ผง Masala และนมเปรี้ยว ย่างให้สุกน่าทาน อย่าลืมเพิ่มรสชาติด้วยการบีบมะนาวราดก่อนทานด้วยนะ หรือใครอยากจะทานนิด ๆ หน่อย ๆ ไม่อิ่มมาก แนะนำ Samosa ของทอดรูปสามเหลี่ยม ข้างในมีทั้งไส้ผัก, ไส้กะหรี่ไก่, ไส้หมู ฯลฯ โดยรวมแล้ว อาหารอินเดียเหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบการทานอาหารรสชาติชัดเจน มีกลิ่นแรงชัดเจน แรงขนาดที่ใครเดินผ่านไปมาก็รู้แน่นอน ว่าไปทานอะไรมา
ขยับออกจากตัวเมืองเล็กน้อย เพื่อมาลิ้มลองอาหารอินเดียร้านแรกกัน ซึ่งติดกับสถานีรถไฟ Geebung กับร้านที่มีชื่อว่า “Indus Cafe Express - Essence of India and Nepal” เมื่อเข้าไปจะพบกับเมนูอาหารที่พร้อมเสิร์ฟแบบ Full Course เรียกว่าแต่ละจานพร้อมจัดเต็มเลยทีเดียว เมนูยอดนิยมร้าน มีตั้งแต่ Amritsar Tandoori Chicken ไก่เครื่องเทศจัดจ้าน, Butter Chicken แกงเข้มข้นที่สั่งระดับความเผ็ดได้ และ Onion Bhaji หัวหอมชุบแป้งทอดกรุบ ๆ หรือถ้าไม่สะดวกเดินทาง ร้านเค้าก็มีบริการ Delivery ด้วยนะจ๊ะ
กลับเข้ามาในเมืองหน่อยในย่าน Paddington กับร้าน “Paddington Curry House” แค่ชื่อก็เชื้อชวนให้เราทานแกงแน่นอน กับแกงที่สามารถเลือกส่วนผสมได้ด้วยตัวเอง กับเมนู Paddo Designer Curries สามารถเลือกได้ทั้งเนื้อ, รสชาติซอส และ ระดับความเผ็ดที่ต้องการ ทานกับข้าวสวยร้อน ๆ อิ่มสบายท้อง
8. Turkish Food
ตุรกี...หนึ่งในประเทศบนโลก ที่มีพื้นที่คาบเกี่ยวกันสองทวีป คือเอเชียและยุโรป และเป็นประเทศที่มีชายแดนเชื่อมต่อถึง 8 ประเทศด้วยกัน ทำให้ตุรกีเป็นประเทศที่ผสมผสานวัฒนธรรมหลากหลาย หลอมรวมจนกลายเป็นอัตลักษณ์เฉพาะของประเทศ และอาหารตุรกีนั้น ไม่ได้มีดีแค่ Kebub อาหารยอดฮิตที่พบได้ตามเมืองใหญ่ๆทั่วโลก แต่ยังมี Lahmacun พิซซ่าตุรกี แป้งบางกรอบ ท็อปปิ้งด้วยเนื้อบด ผัก สมุนไพร และซอส หรือจะเป็น Mantiบางร้านเรียกว่า Manty, Mantu หรือ Manta แต่เหมือนกันคือหน้าตาคล้ายกับอาหารอิตาลีอะไรทำนองนั้น แท้จริงแล้วมันคือเกี๊ยวไส้เนื้อวัวหรือเนื้อแกะ ราดด้วยโยเกิร์ตซอส และเครื่องเทศรสชาติเผ็ดเบา ๆ ที่ชื่อว่า Aleppo
หรือลิ้มลองเมนูอื่น ๆ ที่น่าสนใจ ที่ร้าน “Sahara Eats Turkish Food” ร้านเล็ก ๆ ที่ตั้งในงานEat Street Northshore ร้านนี้เหมาะสำหรับคนเบี้ยน้อยหอยน้อยอย่างเรา ที่ริอยากลองทานอาหารสัญชาติตุรกีสักครั้ง เมนูที่ร้านก็จะเป็นแนว Street Food ทานง่าย สะดวก อีกทั้งราคาจับต้องได้ อย่าง Gozleme เมนูท้องถิ่น เป็นแผ่นแป้งอบเตาถ่านสอดไส้ชีสและผักโขม สามารถเพิ่มรสชาติด้วยท็อปปิ้งหลายอย่าง อาทิ ไก่,เนื้อ,เห็ด ฯลฯ เลือกในร้านได้ตามใจชอบ ราคาเริ่มต้นเบา ๆ ที่ $12 เท่านั้น
ขยับมานั่งร้านบรรยากาศดี ๆ ในย่าน South Brisbane กันซะหน่อย อย่างร้าน “Mado Cafe & Restaurant” เมื่อเดินเข้าไปภายในร้าน ก็เหมือนหลุดไปในตุรกียังไงอย่างงั้น หากใครเข้าไปแล้วไม่รู้จะเริ่มจากอะไรก่อนดีและยังไม่ค่อยหิวมาก แนะนำ Mixed Dip Platter ที่มาพร้อมกับแป้งอบเตาถ่านให้เราดิปกับซอส 4 รสชาติในสไตล์ตุรกี เอาทิ Hummus, Cacik, Eggplant และ Carrot & Beetroo หรือหากอยากจัดหนัก ที่นี่จะแนะนำ Turkish Pide พิซซ่าที่อบสไตล์เฉพาะของร้าน มีตัวเลือกหลากหลายหน้าอย่าง มังสวิรัส, ชีส, เนื้อสับ, ไก่ หรือ ผักโขม หรือจะเป็นอีกเมนูจัดเต็มอย่าง Mixed Grill Platter จานมาพร้อมกับเนื้อหลากหลาย ทั้งไก่ย่างและแกะอบเตาถ่านสูตรท้องถิ่น รับประทานพร้อมกับข้าวสวยร้อน ๆ และขนมปังอบตุรกี หรืออยากจะทานเบา ๆ นั่งรับลมริมแม่น้ำ Brisbane ที่อยู่ด้านหน้าร้าน ก็ทานของหวานอย่าง Krem Karamel ก็ได้ฟิลลิ่งตุรกีเหมือนกัน แนะนำว่าให้พาเพื่อนมาด้วย เพราะแต่ละจานให้เยอะมาก! หรืออยากอ่านเมนูและรายละเอียดต่าง ๆ ในร้าน เข้ามาในนี้ได้เลย
9. Brazilian Food
ปิดท้ายด้วยประเทศที่มีวัฒนธรรมและผู้คนที่สดใส สนุกสนาน นั่นคือ ประเทศบราซิล ที่นี่ไม่ได้มีดีแค่นักฟุตบอลสกิลเทพเท่านั้น เรื่องอาหารก็ไม่น้อยหน้าเหมือนกัน เมนูขึ้นชื่อที่เรียกว่าใครไปเยือนต้องได้ทาน นั่นคือ Churrasco บาบีคิวสไตล์บราซิล ที่ผู้คนมักทานกันในวันหยุดสุดสัปดาห์พร้อมหน้าพร้อมตาครอบครัวและเพื่อนฝูง เมนูประจำชาติต่อมา Feijoada (อ่านว่า เฟชูวาด้า) เป็นสตูว์สูตรเข้มข้นที่ทำมาจากถั่วดำ และเนื้อสัตว์ต่าง ๆ บางสูตรอาจมีใส่ผักหรือมันฝรั่งเพื่อเพิ่มรสชาติ
หรือของหวานชื่อคุ้นหูอย่าง Churros หนึ่งในขนมหวานชื่อดังของสเปน แต่ก็ได้รับความนิยมในบราซิลเช่นกัน หน้าตาเป็นเส้นแป้งทอดสีทอง สอดไส้รสชาติช๊อคโกแลต หรือแยมอร่อย ๆ ด้านใน หรือจะดิปเอาก็อร่อย โรยด้วยไอซิ่งหรือคลุกน้ำตาลภายนอกเพื่อเพิ่มความหวาน
หากกำลังมองหาร้านบรรยากาศเยี่ยม และอาหารที่มีสไตล์ แนะนำมาร้านนี้เลย “Navala Churrascaria” ที่ตั้งอยู่ที่ The Riverside Centre บริเวณ Eagle Street Pier ในเมืองนี่เอง สำหรับใครที่เป็น Meat Lover ล่ะก็ ขอแสดงความยินดีด้วย เพราะร้านนี้ขึ้นชื่อว่าเป็น Brazilian BBQ ที่แท้ทรู ของเด่นของดีนั่นคือ Churrasco เมนูปิ้งย่างจัดเต็ม ที่พนักงานเดินมาพร้อมกับไม้เสียบเนื้อ BBQ ขนาดใหญ่ สไลด์เนื้อให้คุณได้ทานตรงหน้าเลย นั่งทานไปด้วย พร้อมกับ จิบเครื่องดื่มไปด้วย ท่ามกลางวิวริมแม่น้ำบริสเบนยามค่ำคืน อื้อหือ ชีวิตจะต้องการอะไรอีก ของดีแบบนี้มีหรือที่ทีมงานเราจะไม่ลิ้มลอง อยากรู้ว่าพวกเราทานอะไรกันบ้าง อ่านต่อได้ที่นี่เลย
เปลี่ยนจากมื้อหนัก มาเป็นมื้อสบาย ๆ ในสไตล์บราซิล กับ “O Brasileiro” ร้านที่พร้อมเสิร์ฟทั้งเมนูมื้อเช้า และมื้อกลางวัน ตั้งอยู่ใจกลางเมืองบนถนน Adelaide นั่นเอง ภายในร้านตกแต่งอย่างสบายตาและผ่อนคลาย ไปกับต้นไม้และสีเขียวอ่อน ๆ เหมาะกับการมานั่งชิล ๆ ในวันหยุดสุดสัปดาห์
(หน้าตาเมนู Coxinha)
หากตื่นเช้ามาที่ร้าน แนะนำให้ทานนี่เลย Acai Bowls มื้อเช้าสำหรับคนรักสุขภาพ ที่อัดแน่นด้วยอาซาอีเบอร์รี (Acai Berry), Granola และผลไม้หลากชนิด หรือจะเป็นกาแฟร้อน ๆ สักแก้ว ที่ทางร้านคัดเมล็ดกาแฟสูตรพิเศษโดยเฉพาะ หากอยากจะตื่นสายซะหน่อย แวะตอนเที่ยงมาทาน Feijoada สตูว์เนื้อและถั่วดำ ทานพร้อมกับข้าวสวย หรือหากไม่อยากทานหนัก Coxinha ชิ้นมันฝรั่งชุบแป้งทอดก้อนโต ๆ สอดไส้ไก่สับและครีมชีส กัดทีกรอบนอกนุ่มใน และปิดท้ายมื้อด้วย Guaraná Antarctica เครื่องดื่มเย็น ๆ ซ่า ๆ กลิ่นเมล็ดกัวรานา ซึ่งเป็นพืชที่ปลูกได้ในบราซิล ดื่มแล้วสดชื่นกระปี้กระเปร่ามากยิ่งขึ้น
จัดเต็มกันไป กับเมนูอาหารและร้านอาหารที่แนะนำทั้ง 9 สัญชาติทั่วบริสเบน
หวังว่าเพื่อน ๆ จะได้ร้านใหม่ ๆ สำหรับมื้อพิเศษ หรือไอเดียในการทดลองทำเมนู อร่อยแค่ไหนกันบ้าง อย่างลืมแชร์ให้เราอ่านด้วยนะ :)