ข่าวล่าสุด:
กลับมาต่อกับ ตอนที่2 บทสัมภาษณ์ "พี่กบ ไมโคร" และเรื่องราวของทั้งสองโครงการ “กี่ต้าร์ฮีโร่ & เพลงเพื่อน้อง”
พี่รี่ - กลับมาถึงโครงการสำคัญของพี่กบ หรือ “อากบ” ของน้องๆนักเรียนใน “โครงการกีตาร์ฮีโร่” มีความเป็นมายังไงบ้างคะ
พี่กบ - ความเป็นมาอาจจะยาวนิดนึงนะครับ เริ่มจากเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว อาจารย์ที่อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ มาชวนพี่ไปทำเวิร์คช๊อปที่นั้น ซึ่งใช้เวลาแค่หนึ่งชั่วโมงครึ่ง ในการคุยเรื่องดนตรีให้เด็กๆฟัง เล่นกีตาร์ เพราะเขาบอกว่า วิธีรณรงค์ต้านยาเสพติดแบบเดิม “ไม่แรงพอ” ถ้าพี่ไปร่วมจะทำให้เด็กเห็นคุณค่าของตัวเอง รักดีและรักอนาคต ซึ่งหลังจากพี่กลับมาพี่ก็ไม่ได้คิดอะไรอยู่เป็นปี จนอาจารย์ส่งข่าวมาว่า “เด็กกลุ่มที่ร่วมเวิรค์ช๊อปครั้งแรกนั้นตั้งวงเล่นดนตรีกันจริงจัง” พี่เลยมาทบทวนดูว่าพี่สามารถทำอะไรได้บ้าง เป้าหมายจากเล็กสุดถึงใหญ่สุดและมีอะไรที่เป็นไปได้บ้าง พี่ก็เลยเริ่มเขียนโปรเจคส่งไปหลายๆที่ เพื่อขอการสนับสนุน ก็มีบริษัท “น้ำดื่มสิงห์” เจ้าเดียวเท่านั้นที่ขอเชิญคุยและยังผลักดันให้มีโครงการนี้ โดยยังไม่รู้ว่าเวิร์คช๊อปดนตรีในแบบที่พี่ทำคืออะไร หลังจากนั้นพี่ก็เลยได้ทำซีซั่นแรกสิบจังหวัดในเดือนมกราคมปี 58 ซึ่งในตอนที่จบซีซันแรกในเดือนกุมภาพันธ์ พี่ก็ไม่ได้คิดว่าทางน้ำดื่มสิงห์จะสนับสนุนต่อ แต่ในเดือนมิถุนายนปี58 ทางน้ำดื่มสิงห์ก็แจ้งมาว่ายินดีให้การสนับสนุนต่อไป การให้เด็กได้อยู่กับดนตรีนั้น มีเป้าหมายหลายอย่าง ถ้าเพียงเพื่อเล่นแบบสนุกสนานพี่ก็บอกเค้าไปว่า “ไม่ยากเลยที่จะหัดเล่น” ขอแค่น้องๆใช้เวลากับดนตรีวันละครึ่งชั่วโมงเท่านั้น เด็กก็จะมีเวลาทำกิจกรรมเพื่อให้ห่างไกลจากยาเสพติด สัปดาห์ละสามชั่วโมงครึ่ง ทำให้เด็กๆอยู่กับสิ่งนี้ไปให้ถึงระดับมหาวิทยาลัยและข้ามผ่านวัยที่จะเสียอนาคตเพียงแค่ชั่ววินาทีเดียวได้บ้าง พอน้องๆได้เรียนในระดับมหาวิทยาลัย ปัญหาวัยรุ่นก็จะเปลี่ยนรูปแบบไป เด็กๆก็จะใช้สติมากขึ้น ไม่ใช่ปัญหาในแบบมัธยม พี่ก็เลยพยายามออกเดินทางไปให้ไกลที่สุดครับ เพื่อให้เด็กถิ่นไกลความเจริญได้รู้เนื้อหาที่แม้แต่เด็กในเมืองหลวงก็ไม่เคยรู้มาก่อน เพื่อจะบอกเค้าว่า “พวกเธอมีความสำคัญ มีคุณค่าในตัวเอง อย่าคิดว่าอยู่ไกลความเจริญแล้วโอกาสเราจะมีน้อยกว่าเขา อย่าใช้ชีวิตแบบไม่รู้คุณค่าตัวเอง”
พี่รี่ - หลายๆคนไม่คิดอย่างพี่กบนะคะ พี่กบไม่ใช่แค่คิดไกลแต่พี่ยังเดินทางไปไกลอีกต่างหาก
พี่กบ - พี่เป็นคนที่เดินทางตลอด เรียกว่าเป็นชีวิตของพี่ไปแล้ว เพราะต้องเดินทางไปเล่นดนตรีตั้งแต่สมัยหนุ่มๆ แต่พี่ชอบนะครับ เพราะเราได้เรียนรู้ ได้เห็นธรรมชาติ และวิถีชีวิตของคนที่แตกต่างกัน สนุกดีครับ กลับมาในเรื่องของดนตรี ถ้าเด็กคนไหนที่ตั้งใจเล่นดนตรีแบบจริงจัง พี่ก็จะให้น้องๆจากมหาวิทยาลัยไปบอกว่า “พวกพี่ก็เคยเล่นดนตรีกันเละเทะเหมือนพวกเธอ แต่เพราะไม่หยุดยั้งพวกพี่ๆก็ขึ้นมหาวิทยาลัยในภาควิชาดนตรีสำเร็จ” และอีกอย่างที่พี่อยากจะบอกก็คือ ถ้าถึงในระดับมหาวิทยาลัยแล้วพวกเธอไม่หยุดยั้งตัวเอง วันหนึ่งพวกเธอก็จะมายืนแทนที่อากบ สัญญาที่พี่ขอจากเด็กๆทุกที่คือ “ดูแลตัวเองให้ดี ไปให้ถึงมหาวิทยาลัย เติบใหญ่แข็งแรงแล้ว จงมารับช่วงทำเพื่อเยาวชนที่ด้อยโอกาสในรุ่นต่อๆไป” 
พี่รี่ - แล้วมีเพื่อนๆพี่ๆน้องๆในวงการมาเข้าร่วมโครงการกับพี่ไหมคะ
พี่กบ - มีคนมาขอร่วมงานเยอะเลยครับ แต่ส่วนใหญ่ต้องการเล่นเพื่อเผยแพร่ตัวเอง คือโครงการกีตาร์ฮีโร่ ไม่ใช่โครงการแคมปัสทัวร์หาความนิยมกับโรงเรียน พี่ต้องชัดเจนกับผู้มาร่วมทำกิจกรรมนี้ เพราะเราต้องเกี่ยวข้องอยู่กับเด็กและเยาวชน ในฐานะวิทยากรหรือผู้ให้ความรู้เราต้องใช้หลักความอดทนและมีวินัยค่อนข้างสูง ซึ่งนักดนตรีหลายๆคนถ้ายังไม่มีวุฒิภาวะที่โตและหนักแน่นพอ ก็จะห่ามๆยิ่งเก่งก็จะยิ่งกร่าง และถ้ามีอะไรที่ผิดหลักการหรือจุดประสงค์ของเรา มันก็จะมีผลกระทบอย่างรุนแรงกับโครงการนี้ ซึ่งอาจทำให้โครงการกีตาร์ฮีโร่ ต้องหยุดไป แต่สำหรับน้องๆในทีมที่ไปกับพี่จะเป็นน้องๆที่น่ารัก ปฎิบัติตัวตามกฏ และเข้าใจจุดประสงค์ของงานดีโดยไม่ค้องอธิบาย
พี่รี่ - จากโครงการ “กีตาร์ฮีโร่” ก็มีอีกโครงการหนึ่งคือ “โครงการเพลงเพื่อน้อง”
พี่กบ - สำหรับโครงการนี้เป็นโครงการพิเศษที่พี่จัดทำขึ้นเพื่อหาเครื่องดนตรีให้กับโรงเรียนบางเสด็จวิทยาคม ซึ่งเป็นโรงเรียนที่อ่างทอง โครงการเริ่มขึ้นเพราะวันหนึ่งพี่ได้ไปทำกิจกรรมกับพวกเค้า แล้วก็พูดกับเด็กๆว่า “น่าแปลกนะ ไปมาจนถึงแม่สาย เชียงราย โรงเรียนที่นั่นยังมีเครื่องดนตรีเล่น แต่ที่นี่แค่อ่างทองกลับไม่มีเครื่องใช้งาน” ก็มีเด็กนักเรียนถามว่า “อากบให้เครื่องดนตรีกับพวกเราได้มั๊ยคะ” พี่ก็ตอบว่า “อากบไม่สามารถให้เครื่องดนตรีได้หรอกนะ มันเกินกำลังของอา แต่อาจะลองประกาศขอรับบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธาให้” ซึ่งพี่ก็ได้จัดการประกาศทางหน้าเฟสบุคของพี่เพื่อขอรับการบริจาคทั้งตัวเงินและเครื่องดนตรีและตอนนี้ก็ได้เงินมาเกือบจะครบแล้ว พี่ตั้งใจจะส่งมอบให้ทันภายในวันเด็กนี้ครับ ซึ่งหลังจากที่พี่ลงประกาศทางเฟสบุคไป ตอนนี้ก็มีสถาบันศึกษาอื่นที่ต้องการเครื่องดนตรีเหมือนกันติดต่อพี่มา ทำให้ “โครงการเพลงเพื่อน้อง” เป็นอีกโครงการหนึ่งที่พี่มีโอกาสได้ทำไปโดยปริยาย
พี่รี่ - ขอขอบคุณพี่กบมากๆนะคะ ที่สละเวลาในการให้สัมภาษณ์กับทาง เว็บไซต์ Mabrisbane ซึ่งเป็นสื่อของคนไทยที่อยู่ในประเทศออสเตรเลีย และหวังว่าแฟนคลับพี่กบและวงไมโคร จะได้มีโอกาสต้อนรับพี่ๆมาเยี่ยมเยือนออสเตรเลียบ้างนะคะ
