กีตาร์ฮีโร่ “พี่กบ ไมโคร” ความคิดที่ยาวไกล กับระยะทางที่ต้องเดินทางไกล ๆ ..
โด่งดังมากับเพลง “รักปอนปอน” และก็มีชื่อเสียงไม่แพ้นักร้องนำ พี่หนุ่ย อำพล ลำพูน นั้นคือ “พี่กบ ไมโคร หรือ ไกรภพ จันทร์ดี” ซึ่งอยู่ในตำนานมือกีตาร์วงร๊อคระดับแนวหน้าของเมืองไทย “ไมโคร” ได้สร้างชื่อมาตั้งแต่ในยุค90’s เรียกได้ว่า น้อยคนนักในยุคนั้นที่จะไม่รู้จักวงนี้ ในปัจจุบันนอกเหนือจากงานดนตรีที่ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่องแล้ว พี่กบได้เป็นผู้ริเริ่มโครงการดนตรีเพื่อเยาวชนที่รู้จักกันในชื่อโครงการ “กีตาร์ฮีโร่” ซึ่งเป็นการออกทัวร์ไปตามโรงเรียนต่างๆ เพื่อให้ความรู้ทางด้านดนตรีกับนักเรียนนักศึกษาอย่างใกล้ชิด และด้วยความที่ต้องเดินทางไปในสถานต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ห่างไกลความเจริญ ทำให้ได้เห็นว่าหลายๆโรงเรียนยังขาดแคลนอุปกรณ์ทางด้านดนตรี พี่กบจึงได้จัดทำอีกหนึ่งโครงการพิเศษคือ “โครงการเพลงเพื่อน้อง” ซึ่งเป็นโครงการจัดหาเครื่องดนตรีให้กับสถานศึกษาที่ขาดอุปกรณ์ด้านดนตรี
พี่รี่ - สวัสดีค่ะพี่กบ จากผลงานที่ผ่านมาและหลายๆโครงการที่เป็นประโยช์ต่อเยาวชน เลยอยากให้เล่าประวัติความเป็นมาของพี่กบหน่อยค่ะ
พี่กบ - พี่เป็นคนที่โยกย้ายที่อยู่ตลอดเวลาตั้งแต่เด็กๆ เหตุเพราะด้วยหน้าที่การงานของคุณพ่อ ซึ่งตอนพี่เกิด คุณพ่อทำงานอยู่ที่ฐานทัพอากาศ อเมริกัน ที่อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ ในตำแหน่งเจ้าหน้าที่ดูแลคลังระเบิด ตอนนั้นเป็นช่วงที่มีสงครามเวียดนามพอดี ทำให้พี่ไปเกิดที่นครสวรรค์ แต่มาโตที่กรุงเทพครับ
พี่รี่ - พี่กบมีพี่น้องกี่คนคะ
พี่กบ - พี่มีพี่น้อง 6 คน เป็นผู้ชาย4คน หญิง 2คน แต่ที่ทำงานสายนักดนตรีอาชีพแบบจริงจังมี2 คน พี่เรียนจบที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ซึ่งเป็นรุ่นแรกในขณะนั้น ช่วงนั้นก็เป็นช่วงชีวิตวัยรุ่นและเริ่มเข้าสู่งานดนตรีบ้างแล้ว พอหลังจากเรียนจบม.6 พี่ก็เริ่มเข้ามาในวงการเพลงแบบจริงจัง
พี่รี่ - พี่กบเริ่มเล่นกีตาร์มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ
พี่กบ - พี่เริ่มจับกีตาร์เล่นเองมาตั้งแต่ ป.2 ก็หัดเล่นเองฝึกเอง พี่ไม่ได้มีโอกาสไปเรียนกีตาร์เป็นจริงเป็นจัง เพราะในสมัยก่อนเรายังไม่มีโรงเรียนดนตรีเยอะแยะมากมายเหมือนในสมัยนี้ ซึ่งตรงนี้ทำให้ “พี่อ่านโน๊ตดนตรีไม่เป็นนะครับ” (หัวเราะ)
พี่รี่ - แล้วเวลาเล่นดนตรี พี่มีเทคนิคยังไงบ้างคะ แล้วมีอะไรที่เป็นปัญหาและอุปสรรคกับหน้าที่การงานไหมคะ
พี่กบ - คือจริงๆแล้วคนในวงการส่วนใหญ่ก็จะทราบว่าพี่อ่านโน๊ตไม่ได้ แต่ก็ไม่เป็นปัญหาครับ เพราะเราก็ยังรู้คอร์ดกีตาร์ต่างๆ เพราะนอกเหนือจากที่พี่เล่นให้กับวงไมโคร พี่ก็ยังเป็น “มือปืนรับจ้าง” ในห้องบันทึกเสียง อัดเสียงกีตาร์ให้กับศิลปินหลายๆท่าน เช่น บิลลี่ หนุ่ย พี่แหวนฐิติมา ในยุคนั้นทำงานให้หลายคนเหมือนกัน ส่วนที่ถามว่าอุปสรรค “มีไหม?” ในส่วนตัวของพี่ๆพยายามเรียนรู้จากโพรดิวเซอร์ทุกคนเพื่อให้สามารถทำงานได้ตรงตามที่โพรดิวเซอร์บอก ส่วนงานดนตรีแบบนี้พี่พอไปได้ แต่ถ้าจะให้พี่ไปเป็นครูสอนดนตรีแบบเต็มตัวเลย พี่คงไม่สามารถทำได้ เพราะพี่เรียนรู้มาตามแบบของพี่ครับ ทั้งค้นหาเอาเอง ครูพักลักจำและขับเคี่ยวมากับงานห้องอัด เอาแบบของเราไปสอนคนอื่นไม่ได้ครับ
พี่รี่ - ตอนที่พี่มีชื่อเสียงตอนนั้นอายุประมาณเท่าไหร่คะ และพี่คิดว่ามีข้อดี-ข้อเสียอย่างไรบ้าง
พี่กบ - ตอนที่ไมโครดังพี่อายุประมาณ 17 ครับ ช่วงนั้นก็ได้แสดงหนังด้วยเรื่อง “วัยระเริง” ที่พี่หนุ่ย อำพล เป็นนักแสดงนำ และก็มีงาน ถ่ายแบบหนังสือบ้าง เรียกว่าตอนนั้นฮอทมาก ตอนนั้นได้รับทั้งชื่อเสียงและเงินทอง ซึ่งพอเรามีชื่อเสียงเร็วในขณะที่วัยของเรายังเป็นวัยรุ่นอยู่ เรื่องของ อัตตา อีโก้ หลงตัวเอง ยอมหักไม่ยอมงอ ก็มีมาตามวัย ซึ่งพี่คิดว่าช่วงนั้นเป็นช่วงวัยแห่งการเรียนรู้และลองถูกลองผิดของเรา แต่มันก็มีข้อดีของมันอยู่ในตัวก็คือ เราได้เรียนรู้ประสบการณ์ตรง ได้เรียนรู้ถึงข้อผิดพลาด ได้เห็นความจริงอะไรหลายๆอย่าง ซึ่งเราสามารถนำมาใช้ได้กับเหตุการณ์ในปัจจุบันนี้
พี่รี่ - ในปัจจุบัน พี่กบมีความคิดที่แตกต่างจากเมื่อก่อนอย่างไรบ้างคะ
พี่กบ - มันมีจุดหักเหนะครับ ก็คือโลกของอินเทอร์เนต ซึ่งมันเปลี่ยนความคิดอะไรของพี่หลายๆอย่าง เราก็ได้อ่าน ได้เห็น ได้ศึกษาดูหลายๆแง่คิด เหตุการณ์ของโลกที่มันเปลี่ยนไป เราจะมาตั้งตนเป็นจุดศุนย์กลางของโลกก็ไม่ได้ คนมีการยอมรับ การแสดงออก ในหลายๆด้านมากขึ้น ทำให้พี่คิดว่า จะทำอะไรเดี๋ยวนี้เราต้องคิดให้ดีก่อน คิดให้รอบคอบ ทั้งในเชิงด้านธรรมะและวิทยาศาตร์ต้องนำมาใช้ผสมกัน ทำให้พี่เย็นลงมาก ซึ่งอาจจะเป็นเพราะด้วยวัยของเรานะครับ เราต้องรู้ว่าอะไรที่สมควรทำหรือไม่สมควรทำ
ค่ะ แล้ววันนี้เราก็ได้รู้ประวัติคร่าวๆของ พี่กบ ไมโคร กันไปแล้ว... รอติดตามบทสัมภาษณ์ต่อไปเกี่ยวกับโครงการ “กีต้าร์ฮีโร่” และโครงการ “เพลงเพื่อน้อง”