พูดคุยกับศิลปินรูปหล่อ มากความสามารถ “เพชร พุ่มพวง” ทายาทคุณผึ้งพุ่มพวง ดวงจันทร์ ผู้ล่วงลับกับพระเอกตลอดกาลคุณไกรสร ลีละเมฆินทร์ หรือที่รู้จักกันในนามของ ไกรสร แสงอนันต์
วันนี้น้องเพชรได้เติบโตเป็นหนุ่มหล่อ มีความคิดอ่านเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น อาจเพราะด้วยวัยใกล้30ในปีหน้านี้ จึงทำให้ทุกคำพูดของ เพชร พุ่มพวง มีความเป็นมืออาชีพ ประกอบกับกิริยามารยาทที่น่ารัก เรียบร้อยและอ่อนน้อมกับผู้หลักผู้ใหญ่ เราจึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมเพรช พุ่มพวง ถึงได้มีงานอยู่เกือบตลอดทั้งปี
พี่รี่ - สวัสดีครับน้องเพชร ตอนนี้เพชรอยู่ที่ไหนครับ
เพรช - ตอนนี้ผมมางานร้องเพลงที่ญี่ปุ่นครับ มากับป๊าด้วย
พี่รี่ - พี่ได้ติดตามข่าวคราวของเพชรอยู่ตลอดเวลา เห็นว่าตั้งแต่สึกมา(บวชให้บุพการรี) น้องเพชรมีงานตลอด น้องแบ่งเวลายังไงบ้างครับ
เพชร - ผมทำงานประจำคือเป็นดีเจจัดรายการวิทยุที่คลื่นวิทยุลูกทุ่งมหานคร FM95 และก็กำลังทำผลงานเพลงเป็นของตัวเองครับ ซึ่งทำกันเอง และมีน้าโอ่ง คือคุณสลักจิตร ดวงจันทร์ เป็นผู้ให้การสนับสนุนด้วย ก็คือทำร่วมกัน เพราะน้าโอ่งเป็นน้องสาวของคุณแม่ผมครับ ส่วนในเรื่องของการแบ่งเวลาก็ไม่ยาก อาจเป็นเพราะผมชินแล้วด้วย ก็มีป๊าช่วยดูคิวงานให้และก็มีผู้ใหญ่ทางช่อง 9 ช่วยดูแลครับ แต่ในส่วนของผมเอง ถ้ามีงานอะไรที่ได้รับมาผมก็จะมีการปรึกษาหารือกับป๊าหรือทีมงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องของการเตรียมตัว เพื่อให้ผลงานออกมาดีครับ
พี่รี่ - แล้วทางแฟน ๆ เพลงจะได้มีโอกาสรับฟังผลงานของน้องเพชรเมื่อไหร่คะ
เพชร - สืบเนื่องจากตอนนี้ที่เมืองไทยเรายังคงอยู่ในช่วงแห่งความเศร้าโศกเสียใจเนื่องจากการสวรรณคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศรัชกาลที่ 9 ทางผมและทางทีมงานก็เลยต้องรอดูช่วงจังหวะที่เหมาะสมอยู่ครับ แต่คาดว่าน่าจะเป็นประมาณต้นปี 2017 นี้ครับ
พี่รี่ - ย้อนกลับมาถามเรื่องความรักระหว่างเพชรกับป๊าดีกว่า เห็นตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋เลยนะคะเดี๋ยวนี้ (หัวเราะ)
เพชร - ครับ ผมรู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่อยู่กับป๊า รู้สึกว่าเราได้กลับไปเป็นเด็ก อาจเพราะเคยมีช่วงที่ผมเคยห่างป๊าไปด้วยก็อย่างที่เคยเป็นข่าว แต่พอมาวันนี้ วันที่ป๊าและผมเข้าใจกันมากขึ้น ผมก็ได้กลับมาสัมผัสถึงความรักและความห่วงใยของป๊า และรู้ว่าป๊ารักผมไม่เคยเปลี่ยนเลย ทีสำคัญป๊าผมวัยรุ่นมาก ยังฟิตอยู่ (หัวเราะ) เวลาไปไหนกับป๊าแล้วรู้สึกสนุก สบาย และปลอดภัยครับ ที่สำคัญผมชอบที่จะดูแลเทคแคร์ป๊าด้วย อยากทำทุกอย่างที่ป๊าเคยทำให้ผม ถ้าผมทำได้ครับ
พี่รี่ - เดี๋ยวนี้เพชรดูหล่อขึ้นมาก รู้ตัวไหมเนี่ย (หัวเราะ) มีผลงานทางด้านถ่ายแบบถ่ายโฆษณาอะไรบ้างไหมคะ
เพชร - (หัวเราะ) อาจเป็นเพราะผมมีความสุขในทุก ๆ วันนะครับ โดยเฉพาะหลังจากที่ได้บวชทดแทนคุณให้กับมาม๊าและก็ป๊าครั้งล่าสุด ผมคิดว่าผมได้เรียนรู้ชีวิตมากขึ้น เรียนรู้เรื่องการปล่อยวาง และรู้ว่า “ทุกอย่างเป็นสิ่งที่ไม่เที่ยง เป็นภาพลวงตา ไม่ว่าจะเป็นอดีตหรืออนาคต แต่สิ่งที่เราควรจะทำให้ดีที่สุดคือ ปัจจุบันครับ ส่วนผลงานทางด้านถ่ายแบบถ่ายโฆษณา ก็มีการพูดคุยกันบ้าง ซึ่งผมก็สนใจนะครับ ถ้าบุคลิกของผมตรงกับผลิตภัณฑ์ของบริษัทไหนก็สามารถติดต่อมาทางป๊าได้เลยครับ
พีรี่ - หลังจากที่พูดถึงป๊ามาแล้ว อยากถามเพชรว่ามีความทรงจำอะไรที่จำได้เกี่ยวกับมาม๊าบ้างครับ
เพชร - ตอนที่ม๊าเสียชีวิตถึงแม้ว่าผมจะอายุ 5ขวบแต่ผมก็ยังจำได้เกือบทุกอย่างเลยครับ จำได้ว่ามาม๊าตอนเวลาอยู่บ้านก็ใช้ชีวิตเหมือนคุณแม่ทั่วไป คือมาม๊าจะทำงานบ้านเอง ทำกับข้าวเอง พูดคุยดูแลผมในทุกๆอย่างเป็นแม่ที่น่ารักมาก ๆ และภาพเหล่านั้นยังคงอยู่ในความทรงจำของผมแบบชัดมากเลยครับ แต่พอตอนที่มาม๊าขึ้นเวที มาม๊าจะกลายเป็นอีกคนหนึ่งเลย ทีเดียว ซึ่งภาพต่าง ๆ เหล่านั้นยังเป็นภาพที่ติดตาผมมาตลอด มันทำให้ผมรู้ว่ามาม๊าเป็นผู้หญิงที่เก่งและมีคนรักอย่างมากมาย
พี่รี่ - กับการที่ต้องสูญเสียคุณแม่ไปตั้งแต่เด็ก ทำให้เพชรรู้สึกขาดอะไรไปบ้างไหมครับ
เพชร - ไม่เลยครับ เพราะทุกวันนี้ผมก็รู้ว่ามาม๊าก็ยังอยู่กับผมอยู่ตลอดเวลาเพียงแต่ผมไม่สามารถเดินเข้าไปกอดมาม๊าได้เหมือนคนอื่นก็เท่านั้น ดังนั้นผมจึงไม่รู้สึกว่าผมขาดแม่ไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งทุกวันนี้เวลาไปที่ไหนผมก็ยังเห็นรูปและผลงานของมาม๊าอยู่ในหลายๆสถานที่ ก็ยิ่งเป็นการย้ำให้รู้ว่า “แม่ของเรายังอยู่กับเรานะ”
พี่รี่ - ขออนุญาตถามค่ะว่ากับการกลับมาหาคุณพ่อในครั้งนี้มีจุดอะไรยังไงให้เพชรคิดถึงท่านคะ
เพชร - ผมกับป๊าไม่ได้คุยกันมาเป็นเกือบ 10 ปี ซึ่งมันเป็นอะไรที่ยาวนานมาก แต่มีอยู่วันหนึ่งผมฝันว่าผมไปหาปาป๊าในห้องเก็บศพ ซึ่งพอผมตื่นมามันทำให้ผมรับตัวเองไม่ได้และหลังจากนั้นความโกรธและความรู้สึกอะไรในทางลบของผมหลายๆอย่างก็หายไปเลยครับ
พี่รี่ - แล้วเพชรทำยังไงต่อไปคะ
เพชร - ก็วันนั้นคิดเลยว่า เราไม่มีแม่อยู่ในโลกนี้แล้วนะแต่เรายังมีพ่ออยู่ ซึ่งถ้าต้องไปหาพ่อในสถานที่ที่เหมือนที่เราฝัน เราคงจะเสียใจไปตลอดชีวิต ก็เลยตัดสินใจโทรหาป๊าเลยครับ
พี่รี่ - แล้วปฎิกิริยาของป๊าในตอนนั้นเป็นยังไงบ้างคะ
เพชร - ก็คงประมาณว่า งงๆ ว่าผมจะกลับมาจริงหรือเปล่าหรือมาเพื่ออะไร แต่ท่านก็ตัดสินใจยอมพบผมก็ตั้งแต่นั้นมา ผมกับป๊าก็แทบจะไม่ห่างกันอีกเลยนอกจากที่ป๊าต้องกลับต่างจังหวัดบ้าง ไปไหนก็จะบอกป๊าตลอด
พี่รี่ - รู้สึกยังไงที่ได้กลับมาเป็นลูกของป๊าอีกครั้งคะ
เพชร - โห ดีใจมากๆเลยครับ ทำให้ผมรู้เลยว่า ความรักและการให้อภัยนั้นมีจริงโดยเฉพาะจากพ่อแม่ของเรา ซึ่งผมก็อยากจะขออนุญาตฝากบอกกับใครหลาย ๆ คนที่ยังมีพ่อแม่อยู่ในโลกนี้ ให้เรียนรู้ชีวิตความผิดพลาดจากผมที่ได้เคยกระทำในอดีตอยากให้ใครหลาย ๆ คนไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่นหรือวัยไหนก็แล้วแต่ ถ้ามีปัญหาทะเลาะกับพ่อแม่ก็ให้กลับไปหาท่านซะไปเปิดใจพูดคุยปรับความเข้าใจก่อนที่อะไร ๆ จะสายเกินไป
พี่รี่ - ทุกวันนี้ป๊าเลยกลายเป็นทั้งพ่อและแม่ของเพชรเลยใช่ป่ะคะ
เพชร - ใช่ครับ ขนาดตอนที่ผมบวชท่านยังยอมไปเดินเป็นเด็กวัดตามผมเลย (หัวเราะ) ผมรู้เลยว่าสถาบันครอบครัวเป็นสถาบันทีสำคัญที่สุด ความรักของบุพการีนั้นยิ่งใหญ่มหาศาลมาก มันเป็นความสุขที่เราไม่สามารถอธิบายได้มาเป็นคำพูด ซึ่งทุกวันนี้ผมบอกเลยว่าอะไรที่ทำให้ป๊ามีความสุขได้และไม่เกินความสามารถของผม ผมก็จะทำครับ
พี่รี่ - เห็นป๊าโพสรูปเพชรและกิจกรรมของเพชรทุกวันเลยทำให้แฟน ๆ ได้รับข่าวสารข้อมูลอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด เห็นรูปเพชรดูแลป๊าดีมากเลยค่ะ
เพชร - ก็อย่างที่หลาย ๆ คนทราบว่าผมมีช่วงที่เคยห่างป๊าไปและในวันนี้ผมมีโอกาสที่ได้กลับมาอยู่กับป๊าอีก ผมเลยตั้งใจไว้ว่าอยากจะใช้เวลาในปัจจุบันดูแลป๊าให้ดีที่สุดครับ
พี่รี่ - และกับความรู้สึกกับคำว่า “ลูกของราชินีลูกทุ่ง” มีผลอย่างไรกับเพชรบ้าง
เพชร - ความรู้สึกที่มีก็คือ “รู้สึกภูมิใจและดีใจที่ได้เกิดมาเป็นลูกของมาม๊า” แต่เหนือสิ่งอื่นใด ในทุกวันนี้ผมก็ได้มีโอกาสได้เข้ามาในวงการที่มาม๊าเคยอยู่ ก็ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะขอโอกาสความรักความเมตตาจากทั้งท่านที่เคยรักหรือยังรักพุ่มพวง ดวงจันทร์อยู่ ให้โอกาสและแบ่งปันความรักนั้นมาให้ผมบ้าง เพื่อจะได้สานฝันของมาม๊าที่อยากทำให้แฟนคลับของมาม๊ามีความสุขและจดจำ พุ่มพวง ดวงจันทร์ ตลอดไปครับ
พี่รี่ - หลังจากที่เพชรได้บวชเรียนมาครั้งล่าสุด เพชรคิดว่าอะไรบ้างทีทำให้เราเปลี่ยนแปลง
เพชร - ผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่นิ่งมากขึ้น ไม่ค่อยรับรู้ความตื่นเต้นดีใจเสียใจอะไรมาก ซึ่งก็ยังเคยถามตัวเองเลยว่า “นี้เราเป็นอะไรเนีย” ขอย้อนไปช่วงบวชในวันสองวันแรกนิดหนึ่งนะครับตอนนั้นรู้สึกไม่ค่อยชิน เนื่องจากหน้าที่การงานของผมส่วนใหญ่จะเป็นงานกลางคืนก็จะมีนอนไม่หลับบ้างแต่สุดท้ายก็ปรับตัวได้ และวัดที่ผมไปบวชนี้ก็คือวัดบวรนิเวศวิหารซึ่งเป็นสายธรรมยุติ และสิ่งที่ทำให้ผมได้รับมาจาการบวชครั้งนี้ก็คือ ทำให้ผมมองเห็นว่า “ทุกอย่างเป็นสิ่งที่ไม่เที่ยง เป็นภาพลวงตา ไม่ว่าจะเป็นอดีตหรืออนาคต แต่สิ่งที่เราควรจะทำให้ดีที่สุดคือ ปัจจุบันครับ ก็อยากให้กลับไปกราบท่านไปกอดท่านในวันที่คุณยังสามารถทำสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ได้ครับ อย่ารอจนสายเกินไป”
พี่รี่ - หล่อ ๆ อย่างนี้ มีแฟนหรือยังคะ (พี่รี่อยากรู้เอง)
เพชร - ตอนนี้ยังครับ เพราะหลังจากที่ผมได้เคยห่างหายป๊าไป ผมตั้งใจว่าอยากจะใช้เวลาอยู่กับป๊าให้มากที่สุดก่อนครับ
พีรี่ - อันนี้เป็นคำตอบที่สร้างความหวังให้สาวๆเลยนะครับเนี่ย คือตอนนี้เพชรอยากทำงานให้มากที่สุดว่างั้นเถอะ
เพชร - ใช่ครับ ตอนนี้ผมให้ความสำคัญในเรื่องการสร้างอนาคตและดูแลป๊าก่อนครับ
พีรี่ - ขอบคุณน้องเพชรมากและหวังว่าทางแฟนๆเพลงทางออสเตรเลียจะได้มีโอกาสต้อนรับน้องเพชรในเร็ว ๆ นี้นะคะ
เพชร - ยินดีมากครับ ถ้ามีโอกาสผมไปแน่นอนครับออสเตรเลียก็สามารถติดต่อมาทางพี่รี่ ได้เลยนะครับ(หัวเราะ)