ความรู้สึกแรกที่ได้สัมผัส Sydney ครั้งแรกในชีวิต ที่นี่มีความเป็น”เมือง” อย่างชัดเจน เมืองที่เต็มไปด้วยรถ ผู้คนควักไขว่ ตึกราบ้านช่องสูงใหญ่ ร้านค้า ร้านอาหาร หากเปรียบกับ Brisbane นี่เรียกได้ว่าเป็นพี่ใหญ่ได้เลย
สิ่งแรกที่เราต้องหานั่นก็คือ อาคารที่จอดรถ เพราะในวันส่งท้ายปี เค้าจะปิดถนนสำหรับผู้ที่เข้ามาร่วมชมเทศกาลส่งท้ายปีเดินทาง ซึ่งรวมทั้งสิ้นประมาณ 1.6 ล้านคน!! กว่าเราจะหาที่จอดได้ก็ปาไปตอนบ่าย หายากยิ่งกว่าหาที่จอดในพารากอนซะอีก เราทั้ง 4 ต่างหิวโหยจากมื้อเช้าและมื้อเที่ยงที่ยังไม่มีอะไรตกถึงท้อง สถานที่แรกที่เราไปนั่นก็คือ China Town เพราะที่นี่เต็มไปด้วยร้านอาหารราคาถูกในปริมาณเยอะ
(หน้าตาเพื่อนแถบลาตินอเมริกา ผู้ร่วมชะตากรรมในทรปจากซ้ายไปขวา Cintya (อ่านว่า ซินเทียร์), Oscar และ Juan)
หลังจากที่เราท้องตึงกันแล้ว (และหนังตาหย่อนตลอดเวลา) อากาศดี๊ดี แดดแรง ลมเย็น ๆ เราก็พากันไปเดินรอบ ๆ เมือง เพื่อรอเวลาดูพลุยามค่ำคืน
หลังจากที่พวกเราเห็นความยาวของแถว ก็เริ่มมองหน้ากัน...หรือว่าเราควรจะไปหาที่ดูพลุจริง ๆ จัง ๆ แล้วนะ ยังคิดไม่ทันจบ ก็มองเห็นกลุ่ม Staff ใส่เสื้อโปโลสีชมพู และปักโลโก้ NYE Sydney ก็อยู่รอบ ๆ ตัว เราก็ได้มุ่งตรงไปเพื่อสอบถามถึงรายละเอียดกิจกรรมสำหรับค่ำคืนนี้
(ทีมงานเสื้อโปโลสีชมพู หมวกสีขาว ที่คอยให้ข้อมูล)
(ป้ายตั้งตามหัวมุมถนนที่บอกตำแน่งชมการแสดงพลุ)
สำหรับตำแหน่งการจุดพลุนั้น มีทั้งหมด 5 จุด ตั้งแต่บริเวณ Greenwish Point จนไปถึง Sydney Harbour โดยนักท่องเที่ยวสามารถชมพลุตามจุดที่แนะนำได้ทั้งหมด 9 จุด ซึ่งเราจะพบป้ายข้อมูลที่บอกถึงตำแหน่งของจุดชมพลุ และระยะเวลาที่เดินทางได้ตลอดหัวมุมถนนในเมือง ซึ่งในบางจุดมีการจำหน่ายบัตรอย่างเป็นทางการ เช่น Sydney Opera House, Royal Botanic Garden และ Harbour islands
ก่อนที่เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว พวกเราได้วางแผนซื้อของกินตุนจนถึงช่วงเย็น และพวกเราตัดสินใจชมพลุที่จุด West Circular Quay ซึ่งสามารถมองเห็น Opera House และสะพาน Sydney Harbour Bridge ได้ในจุดเดียว
เมื่อเราเข้ามาถึงในพื้นที่ เราก็ได้พบกับผู้คนจากทุกสารทิศเข้ามารอดูการแสดงเป็นจำนวนมาก และพื้นที่ได้ถูกจับจองกันแทบจะไม่เหลือที่ว่าง..จนสุดท้ายเราต้องขอนั่งแทรกกับกลุ่มที่เค้ากำลังนั่งตั้งวงไพ่ รอดูพลุเหมือนกัน
(เซลฟี่กับ Landmark ประเทศอย่าง Sydney Opera House ซะหน่อย)
ก่อนฟ้าเริ่มมืด เวลา 6 โมงเย็น ก็มี Pre-show entertainment ขับเครื่องบินผาดโผนให้ชม ซึ่งหวือหวาและเรียกเสียงปรบมือได้อย่างเกรียวกราว
(ภาพเพิ่มเติมจาก www.sydneynewyearseve.com/fireworks/)
ฟ้าเริ่มมืด ใกล้ถึงเวลาโชว์รอบแรก โดยการแสดงพลุจะมี 2 รอบ รอบแรกเรียกว่า Family firework เป็นการแสดงโชว์พลุทั้งหมด 8 นาที และอีกรอบคือเที่ยงคืนตรง หลัง Countdowm เข้าปีใหม่ โดยแสดงเป็นระยะเวลา 12 นาที ซึ่งทั้งสองช่วงเวลา สามารถชมถ่ายทอดสดได้ที่บ้านเช่นกัน
ณ สามทุ่มตามเวลาท้องถิ่น พลุชุดแรกจัดแสดงได้อย่างสวยงามสมการรอคอย ผู้ชมต่างยกกล้องขึ้นมาถ่ายรูปอย่างพร้อมเพรียง บางคนก็ยกไม้เซลฟี่เพื่อเก็บภาพวิดิโออย่างเต็มรูปแบบ คนเตี้ยอย่างเราก็ต้องชูแขนสุดมือเพื่อเก็บภาพบรรยากาศเหมือนกัน
หลังจากโชว์ชุดแรกจบไป ก็ต้องรออีก 3 ชั่วโมงเพื่อชมการแสดงพลุสุดตระการตาที่เรารอคอย
เที่ยงคืนตรง สิ้นสุดการรอคอย พลุลูกแรกได้ประทุขึ้น และตามมาด้วยพลุอีกนับร้อยพัน หลากสีสันเต็มท้องฟ้าอย่างบ้าคลั่ง นับเป็นการแสดงพลุที่สวยงาม ยิ่งใหญ่และตระการตาที่สุดในชีวิตที่เคยสัมผัส พวกเราต่างกอดกันตัวกลม พร้อมเอ่ยคำแรกในปี 2018 ว่า “Happy New Year”
(พายุพัดแรงจนต้นไม้ล้มขวางทางถนนเป็นระยะ)
เมื่อเหตุการณ์ทุกอย่างเริ่มกลับมาเป็นปกติ ก็ได้พักรถบริเวณถนนที่แยกออกจากเส้นหลัก พร้อมเปลี่ยนผลัดมาเป็นเราขับอีกครั้ง แต่เมื่อเราขับไปสักพัก ก็เริ่มรู้ตัวว่าขับเส้นเข้า Sydney จึงมองหาทางกลับรถ และเวลาก็ร่วงเลยมาถึง 4 โมงเย็น เพื่อนในทีมต้องไปทำงานในเมืองเวลา 1 ทุ่ม เราจึงรีบขับทำเวลา จนมาถึงทางเบี่ยงกลับรถ ซึ่งการที่ขับมาด้วยความเร็วระดับนึงและเป็นทางชนบทไม่มีรถผ่าน จากความเคยชินเลยหักเลี้ยวทันทีเมื่อเจอทางแยก และสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นอีกครั้ง รถตำรวจเปิดไซเรนขับประกบหลังเรามาติด ๆ !! เราตกใจมาก ทำอะไรไม่ถูกจึงจอดรถข้างทาง พร้อมกดกระจกลง...พี่ตำรวจหน้าดุก็ยื่นหน้าเข้ามาถามว่า “คุณเห็นป้าย Stop สีแดงมั้ย ตรงทางแยกที่คุณเลี้ยวมา” เออ..เรามองไม่เห็นเลยนี่หน่า แต่พอเค้าชี้นิ้วไปเท่านั้นแหละ...ป้ายแดงชัดเจนแจ่มแจ้ง เพื่อนทุกคนในรถต่างไม่มีใครสังเกตเห็นเช่นกันเพราะต่างมองหาทาง U-turn จากนั้นพี่ตำรวจก็ได้ขอดูใบขับขี่ไทย(ซึ่งใช้ได้นะเค้าไม่ได้ติดอะไร) และเล่ม Passport ตัวจริง รวมถึงตรวจเป่าแอลกฮอลล์เพื่อเช็คว่าเราไม่ได้เมาแล้วขับนะ
(หน้าตาใบสั่งที่ส่งมาถึงบ้านอย่างรวดเร็วจ้า...)
แม้ว่าจะเครียด แต่อย่างน้อยเราก็ยังได้เห็นพระอาทิตย์เริ่มตกดินอยากสวยงามในเส้นทางกลับบ้าน
จบทริปไปสำหรับทริปด่วน Sydney ซึ่งใช้เวลาในเมืองทั้งหมด 24 ชม. และใช้เวลาขับรถทั้งหมด 24 ชม. นับเป็นทริปที่ได้พบเจอทั้งความสุข ความสวยงาม ความอลังการ ความง่วง รวมไปถึงบทเรียนอันแสนราคาแพง (เหยียบหมื่น) ครั้งแรกในต่างแดนครั้งแรกในชีวิต...
Tips : สำหรับชาว Brisbane ใครที่อยากขับรถข้ามรถไป Sydney นับเป็นอีกวิธีที่น่าสนใจ แต่ต้องอึดและถึกนิดนึง เพราะเส้นทางไป-กลับรวมทั้งสิ้น 1,900 กม. แต่เราจะพบกับป่าเขาและต้นไม้สองข้างทางอันสวยงาม รวมไปถึงคุณภาพถนนเรียกได้ว่าเรียบเนียนยิ่งกว่าผิวหน้า ไร้ขรุขระ และป้ายบอกทางต่าง ๆ ชัดเจนแม้ในยามค่ำคืน ขับง่าย ขับสบาย โดยเฉพาะป้ายควบคุมความเร็วที่จะเห็นทุก ๆ กิโลฯเลยก็ว่าได้ อย่าลืมทำตามกฏอย่างเคร่งครัดล่ะ ไม่งั้นจะโดนปรับตัวซีดเหมือนเรา...