เมื่อกลางเดือนกันยายน 2019 ที่ผ่านมา ทางทีมงาน MaBrisbane ได้เข้าร่วมงานสัมมนา Community Leaders Forum กับทางเจ้าหน้าที่อิมมิเกรชั่น Department of Home Affairs ของออสเตรเลีย เกี่ยวกับเรื่องราวของวีซ่าในปัจจุบัน เราจึงได้หยิบเอาเรื่องที่น่าสนใจของวีซ่าแต่ละตัวมาอัพเดทให้อ่านกัน
สำหรับสรุปหัวข้อสิ่งที่น่าสนใจและบางเรื่องที่มีการตั้งคำถามท้ายการสัมมนาครั้งนี้ได้แก่.. มีการพูดถึงเรื่องวีซ่าทำงาน TSS และ PESE โดยจะมีความเข้มงวดในการตรวจสอบประวัติธุรกิจของนายจ้างด้วย, มีความพยายามจะผลักดันวีซ่าตัวใหม่ Global Talent – Employer Sponsored (GTES) และ Distinguished Talent visa (subclass 124 and 858) ซึ่งเป็นโครงการเปิดรับผู้ที่มีความสามารถอันโดดเด่นจากทั่วโลกให้ย้ายมาอยู่ในออสเตรเลีย โดยไม่ใช่การเปิดรับเฉยๆ แต่ยังได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตั้งสำนักงานในต่างประเทศเพื่อมองหากลุ่มคนเหล่านี้ด้วย ซึ่งเป็นประเด็นที่น่าสนใจทีเดียวของการสัมมนาครั้งนี้, และอีกเรื่องคือวีซ่า GSM สำหรับผู้ที่มีทักษะความสามารถในสาขาอาชีพที่เป็นที่ต้องการในออสเตรเลีย ว่าทำไมผู้สมัครที่ได้รับเลือกถึงต้องมีคะแนนสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำเป็นอย่างมาก จึงจะได้รับจดหมายเชิญในการสมัคร
Temporary Skill Shortage visa (TSS) (subclass 482)
เป็นวีซ่าตัวใหม่ที่มาแทน subclass 457 ซึ่ง TSS ได้ถูกนำมาใช้ตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค. 2019 จุดประสงค์ของวีซ่าตัวนี้คือช่วยเรื่องการขาดแคลนแรงงาน โดยแบ่งออกเป็น 3 stream ด้วยกัน
- Short-term วีซ่าได้ถึง 2 ปี และสามารถขอต่อวีซ่าในออสเตรเลีย (onshore) ได้อีก 2 ปี
- Medium-term วีซ่าได้ถึง 4 ปี
- Labour Agreement เป็นการตกลงกันระหว่างรัฐบาลออสเตรเลียและนายจ้าง
ผู้มีสิทธิสมัคร
วีซ่าประเภทนี้ไม่จำกัดอายุ ผู้สมัครจะต้องมีคุณสมบัติดังนี้
- ต้องถูกเสนอชื่อโดยสปอนเซอร์ที่ได้รับการยอมรับ ในสาขาอาชีพที่ตรงกับความต้องการ
- ทำงานให้กับนายจ้างที่เสนอชื่อเรา
- มีทักษะที่จำเป็นในการทำงาน
- มีประสบการณ์การทำงานในสาขาที่ถูกเสนอหรือมีความสัมพันธ์กันอย่างน้อย 2 ปี
- มีสุขภาพและประวัติความประพฤติตรงตามข้อกำหนด
- ความสามารถทางภาษาอังกฤษตรงตามข้อกำหนดของ stream ที่สมัคร
ค่าใช้จ่าย
Short-term stream: ค่าวีซ่า AUD$ 1,265 สำหรับผู้สมัครหลัก สำหรับผู้ติดตามแต่ละคนมีค่าสมัครแยกต่างหาก
Medium-term, Labour Agreement steams: ค่าวีซ่า AUD$ 2,645 สำหรับผู้สมัครหลัก สำหรับผู้ติดตามแต่ละคนมีค่าสมัครแยกต่างหาก
นายจ้างที่ทำการสปอนเซอร์มีค่าใช้จ่ายในส่วนของ sponsorship application fee และ nomination fee รวมทั้ง Skilling Australians Fund (SAF) levy
การสมัคร
มีอยู่ 3 ขั้นตอน โดยทุกขั้นตอนต้องทำออนไลน์ผ่าน ImmiAccout
ขั้นตอนที่ 1: Sponsorship Stage
เป็นการตรวจสอบนายจ้างที่ทำการสปอนเซอร์ลูกจ้าง โดยนายจ้างจะต้องแสดงหลักฐานดังต่อไปนี้
- เป็นบริษัทที่ถูกต้องตามกฎหมายและธุรกิจยังดำเนินการอยู่
- ธุรกิจจะต้องไม่เคยประสบปัญหาที่มีผลต่อคะแนนเครดิต เช่น ล้มละลาย การชำระบัญชี การตัดสินจากศาลชั้นสูง (no adverse information regarding the business)
- บันทึกที่แสดงว่าธุรกิจได้พยายามหาแรงงานภายในประเทศแล้ว
- หลังจากธุรกิจได้รับการยอมรับ (approved) สปอนเซอร์ชิพมีอายุอยู่ได้ 5 ปี ค่าสมัครสปอนเซอร์ชิพ AUD$ 420
ขั้นตอนที่ 2: Nomination Stage
หลังจากที่สปอนเซอร์ชิพผ่าน นายจ้างสามารถที่จะเสนอชื่อลูกจ้างต่างชาติได้ โดยจะต้องแสดงหลักฐานเอกสารต่อไปนี้
- การสำรวจตลาดแรงงาน การหาพนักงานภายในระยะเวลา 4 เดือนที่ผ่านมา
- ได้ลงโฆษณาอย่างน้อย 2 ครั้งในสื่อข้างล่างนี้
- เว็บไซต์หางานแบบมืออาชีพในออสเตรเลีย
- สื่อสิ่งพิมพ์ในออสเตรเลีย
- สถานีวิทยุในออสเตรเลีย
- ต้องยื่นสมัครแล้วอย่างน้อย 4 อาทิตย์
- สปอนเซอร์ต้องจ่ายเงินเดือนและทำตามข้อกำหนดในการว่าจ้างงานอย่างถูกต้อง เพื่อมั่นใจว่าแรงงานต่างชาติได้ค่าจ้างไม่ต่ำกว่าแรงงานออสเตรเลียที่ทำงานเหมือนกัน ในพื้นที่เดียวกัน
- สัญญาจ้างแรงงาน
ค่าสมัคร nomination AUD$ 330
ขั้นตอนที่ 3: Visa Application Stage
ผู้สมัครวีซ่าต้องแสดงหลักฐานต่อไปนี้
- หลักฐานยืนยันตัวตน
- หลักฐานทักษะการทำงาน ใบประกาศ ประวัติการทำงาน ในสาขาที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่สปอนเซอร์ขอ (nominated occupation)
- ระดับภาษาอังกฤษที่จำเป็นในการทำงานและระดับที่ถูกกำหนดสำหรับวีซ่าประเภทนี้
- หลักฐานประกันสุขภาพของผู้สมัครและผู้ติดตาม
- หนังสือรับรองความประพฤติจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในทุกประเทศที่ผู้สมัครได้อาศัยอยู่เป็นระยะเวลาตั้งแต่ 12 เดือนขึ้นไป ภายใน 10 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่ผู้สมัครมีอายุ 16 ปี รวมไปถึงประเทศบ้านเกิด หลักฐานการผ่านการเกณฑ์ทหาร และประวัติการได้รับการฝึกทหาร หรือรบในประเทศใด ๆ ก็ตาม
- เอกสารของคู่ครองหรือผู้ติดตาม
Permanent Employer Sponsored Entry (PESE: พีซี) Program
เป็นโปรแกรมวีซ่าแบบถาวรที่อนุญาตให้นายจ้างออสเตรเลียรับพนักงานซึ่งเป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในออสเตรเลีย ที่ถือวีซ่าชั่วคราว (temporary visa) หรือผู้ที่อาศัยอยู่นอกออสเตรเลีย ซึ่งโปรแกรมนี้มีขั้นตอนที่ซับซ้อนน้อยกว่า TSS โดยมีอยู่ 2 subclass ด้วยกันคือ Employer Nomination Scheme (ENS) visa (subclass 186) และ Regional Sponsored Migration Scheme (RSMS) visa (subclass 187)
หมายเหตุ: RSMS visa (subclass 187) จะปิดรับสมัครวันที่ 15 พ.ย. 2019 ผู้สมัครสามารถสมัคร Skilled Employer Sponsored Regional (Provisional) visa (subclass 494) แทน
Employer Nomination Scheme (ENS) visa (subclass 186)
มี 3 ช่องทางได้แก่
- Temporary Residence Transition (TRT) stream สำหรับผู้ถือ Temporary Work (Skilled) (subclass 457) visa และ Temporary Skill Shortage (subclass 482) visa ที่ได้ทำงานในสายอาชีพที่สมัครกับนายจ้างที่เสนอชื่อเราแล้ว 3 ใน 4 ปี ซึ่งนายจ้างต้องการจะเสนอตำแหน่งงานถาวรให้
- Direct Entry (DE) stream สำรหับผู้สมัครที่ไม่เคย หรือเพิ่งจะได้ทำงานในออสเตรเลีย และผู้ที่อาศัยอยู่ในออสเตรเลียชั่วคราว (temporary resident) ที่ไม่ผ่านเกณฑ์ของ TRT stream
- Labour Agreement steam สำรหับผู้สมัครที่ถูกสปอนเซอร์โดยนายจ้างผ่านข้อตกลงแรงงาน (labour agreement)
Regional Sponsored Migration Scheme (RSMS) visa (subclass 187)
มี 2 ช่องทางที่เหมือนกับ ENS คือ
- Temporary Residence Transition (TRT) stream
- Direct Entry (DE) stream
ผู้มีสิทธิสมัคร
- ต้องถูกเสนอชื่อโดยนายจ้างที่มีตำแหน่ง full-time ว่างในบริษัท
- อายุไม่เกิน 45 ปี
- มีทักษะและคุณวุฒิตรงตามข้อกำหนด
- มีทักษะภาษาอังกฤษอยู่ในระดับ ‘competent’
- มีสุขภาพและประวัติความประพฤติตรงตามข้อกำหนด
นอกจากคุณสมบัติข้างต้น ผู้สมัครต้องมีคุณวุฒิที่ตรงกับตำแหน่งที่ถูกเสนอ ซึ่งจะต้องเป็นการรับรองที่เทียบเท่ากับ Australian trade, diploma หรือ higher qualification ผู้สมัครต้องสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้โดยไม่ต้องมีผู้ชี้แนะหรือต้องได้รับการฝึกเพิ่มเติม อาชีพส่วนใหญ่ต้องได้รับการพิจารณาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
มีการยกเว้นเรื่องอายุ ทักษะ และภาษาอังกฤษในบางกรณี
ค่าใช้จ่าย
AUD$ 4,045 สำหรับผู้สมัครหลัก สำหรับผู้ติดตามแต่ละคนมีค่าสมัครแยกต่างหาก.
อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีก AUD$ 4,890 สำหรับผู้สมัครที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปที่มีทักษะภาษาอังกฤษต่ำกว่าเกณฑ์(จะได้รับการยกเว้นถ้าผู้สมัครที่มาจากสถาบันทางศาสนา) ซึ่งค่าใช้จ่ายส่วนนี้จะถูกเรียกเก็บเมื่อวีซ่ากำลังจะผ่าน
การสมัคร
ผู้สมัครสามารถอาศัยอยู่ในหรือนอกประเทศออสเตรเลียได้ เมื่อทำการสมัครขอวีซ่า หากผู้สมัครอาศัยอยู่ในประเทศออสเตรเลีย ผู้สมัครจะต้องถือวีซ่าที่ถูกต้องหรือ bridging A, B, C ทำการสมัครออนไลน์ผ่าน ImmiAccount โดยมี 2 ขั้นตอนดังนี้
- การเสนอชื่อของนายจ้างโดยธุรกิจที่ยังดำเนินการอยู่และเป็นธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมายในออสเตรเลีย
- ยื่นเรื่องขอวีซ่าโดยผู้ที่ถูกเสนอชื่อจากนายจ้างในข้อแรก ภายใต้ steam และอาชีพที่ถูกเสนอ
เพื่อเป็นการแน่ใจว่าผู้สมัครวีซ่าจะกลายมาเป็นแรงงานของออสเตรเลียในสาขาที่ตรงต่อความต้องการและการขาดแคลน จะมีการตรวจสอบธุรกิจของนายจ้าง และนายจ้างต้องแสดงให้เห็นว่าตนได้ทำการค้นหาลูกจ้างในออสเตรเลียแล้ว โดยจะต้องเป็นการสำรวจตลาดแรงงานเมื่อเร็ว ๆ นี้
การสมัครของ nomination และวีซ่าจะต้องสมัครใน stream เดียวกัน มีหลายกรณีที่พบบ่อย ที่เจ้าหน้าที่ต้องปฏิเสธวีซ่าเพราะสมัคร stream ไม่ตรงกัน ถือเป็นความผิดพลาดทางเทคนิค ผู้สมัครควรตรวจสอบ stream ให้ถูกต้องและแน่ใจ ถึงแม้ว่าจะใช้บริการของ migration agent ก็ตาม
ตำแหน่งที่ธุรกิจเสนอให้ผู้สมัครจะต้องมีอย่างน้อย 2 ปี
Department of Home Affairs Immigration and Citizenship ไม่ได้เป็นผู้ทำรายชื่ออาชีพ Skilled Migration Occupation Lists แต่เป็นอีกหน่วยงานคือ Department of Employment, Skills, Small and Family Business
ดูรายชื่ออาชีพได้ที่ https://immi.homeaffairs.gov.au/visas/working-in-australia/skill-occupation-list
Global Talent Australia’s Programs
ด้วยการแข่งขันหาผู้มีความสามารถทั่วโลกอย่างสูง ประเทศออสเตรเลียต้องการผู้ที่มีความสามารถระดับสุดยอดเพื่อมาช่วยทำให้เศรษฐกิจของประเทศเข้มแข็งและโตขึ้น โดยในปี 2018 รัฐบาลออสเตรเลียได้ประกาศโปรแกรมที่ดึงดูดให้ผู้มีความสามารถทั่วโลกมาใช้ชีวิตอยู่ในออสเตรเลีย 3 โปรแกรมด้วยกัน
1. Global Talent Independent (GTI)
- สำหรับผู้ที่มีความสามารถอยู่ในระดับสูงสุดในสายอาชีพของเขา
- โควตาวีซ่าถาวร 5,000 คนต่อปี
- มีเจ้าหน้าที่ Global Talent Officer ประจำอยู่ทั่วโลก 6 แห่งด้วยกันคือ Berlin, Dubai, Santiago, Singapore, Shanghai และ Washington DC
- สามารถขออยู่ถาวร (permanent residence) ได้เมื่อขอ GTI ผ่าน
- ไม่มีข้อจำกัดเรื่องอายุหรืออาชีพ
- อยู่ที่ไหนก็ได้ในออสเตรเลีย
2. Global Talent – Employer Sponsored (GTES)
- เปิดโอกาสให้ธุรกิจในออสเตรเลียได้สปอนเซอร์แรงงานต่างชาติที่มีความสามารถ
- มี 2 ช่องทางด้วยกัน คือ
- Startup stream
- เปิดให้แก่ธุรกิจใหม่ (startup) ที่ได้รับการรับรองจาก Startup Advisory Panel
- ขอได้ 5 ตำแหน่งต่อปี
- Salary threshold AUD$ 80,000 (including equity)
- Established Business stream
- เปิดให้แก่สปอนเซอร์ที่ได้รับการยอมรับ
- ขอได้ 20 ตำแหน่งตอปี
- Salary threshold AUD$ 148,700
- Startup stream
- สามารถขอเป็นผู้อยู่อาศัยถาวรได้หลังจาก 3 ปี
- Age and occupation concessions available
- ข้อตกลง 5 ปีภายใต้ TSS visa Labour Agreement stream
3. Supporting Innovation in South Australia pilot (SISA)
- ออกแบบเพื่อดึงดูดผู้ประกอบการต่างชาติให้มาเริ่มลงทุนที่ South Australia
- South Australia ต้องรับรองผู้สมัคร
- ผู้ที่ผ่านการสมัครจะได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยงานบ่มเพาะวิสาหกิจของ South Australia (South Australian incubator)
- ใช้ Australian Government Endorsed Event temporary visa และอีเว้นท์มีกำหนดสิ้นสุดในเดือนพฤศจิกายน 2021
- ผู้สมัครจะต้องมีส่วนร่วมใน Supporting Innovation in South Australia event ที่กำลังมีอยู่ใน South Australia
General Skilled Migration (GSM)
เป็นโปรแกรมสำหรับผู้ที่มีทักษะความสามารถในสาขาอาชีพที่เป็นที่ต้องการในออสเตรเลีย ในแต่ละรัฐจะมีจำนวนโควตาของวีซ่าแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสาขาอาชีพที่มีความต้องการในแต่ละพื้นที่
Skilled Independent visa (subclass 189) points tested stream
เป็นวีซ่าถาวร ที่อนุญาตให้ผู้ถือสามารถทำงานและอาศัยอยู่ในออสเตรเลียได้อย่างถาวร โดยผู้สมัครจะต้องได้รับการเชิญให้สมัครวีซ่าตัวนี้ และผู้สมัครจะต้องมีทักษะความสามารถในอาชีพที่อยู่ใน skilled occupation list
ผู้มีสิทธิสมัคร
ผู้สมัครจะต้อง:
- ยื่น Expression of Interest (EOI) ผ่าน SkillSelect
- ถูกเชิญโดย Department ให้สมัครวีซ่า
- ทำคะแนนให้ได้ 65 แต้มขึ้นไปเพื่อมีสิทธิถูกเชิญ
- อยู่ในสายอาชีพที่อยู่ใน skilled occupation list
- มีทักษะความสามารถสำหรับอาชีพนั้น
- อายุไม่เกิน 45 ปี ณ เวลาที่ถูกเชิญ
- มีทักษะภาษาอังกฤษในระดับ competent
- มีสุขภาพและประวัติความประพฤติตรงตามข้อกำหนด
ค่าใช้จ่าย
AUD$ 4,045 สำหรับผู้สมัครหลัก สำหรับผู้ติดตามแต่ละคนมีค่าสมัครแยกต่างหาก
อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีก AUD$ 4,885 สำหรับผู้สมัครที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปที่มีทักษะภาษาอังกฤษต่ำกว่าเกณฑ์ ซึ่งค่าใช้จ่ายส่วนนี้จะถูกเรียกเก็บเมื่อวีซ่ากำลังจะผ่าน
การสมัคร
- ผู้สมัครจะต้องยื่น Expression of Interest (EOI) ใน SkillSelect EOI คือใบแสดงความต้องการของผู้สมัครที่อยากจะได้รับการพิจารณาให้ถูกเชิญในการสมัคร skilled หรือ business visa
- ผู้สมัครอาจต้องยื่นเอกสาร skills assessment และผลคะแนนแบบทดสอบภาษาอังกฤษไปพร้อมกับ EOI
- EOI ไม่ใช่การสมัครวีซ่า ไม่มีค่าใช้จ่ายในการสมัคร EOI มีอายุการใช้งาน 2 ปี
- การเชิญให้สมัครวีซ่าจะมีเป็นรอบ ๆ ไป ในแต่ละรอบจะใช้การจัดลำดับโดย EOI ที่มีคะแนนสูงสุดจะได้รับการเชิญก่อน ตามด้วยวันเวลา (dates of effect) ซึ่งเป็นการประมวลผลแบบออโต้
- ไม่มีการการันตีระยะเวลาว่าเมื่อไรจะได้รับเชิญให้สมัครวีซ่า หรือจะได้รับการเชิญหรือไม่
- หลังจากผู้สมัครได้รับเชิญให้ยื่นขอวีซ่า จะต้องทำการสมัครขอวีซ่าภายใน 60 วัน รายละเอียดการสมัครจะอยู่ในจดหมายเชิญ
- ผู้สมัครสามารถอยู่ในหรือนอกออสเตรเลียเมื่อทำการสมัครขอวีซ่า และเมื่อทางเจ้าหน้าที่พิจารณาตัดสินการสมัคร หากผู้สมัครอยู่ในออสเตรเลีย ผู้สมัครจะต้องถือวีซ่าที่ถูกต้องหรือ Bridging visa A, B, C
Skilled Nominated Visa (subclass 190)
ทุกอย่างคล้ายกับ subclass 189 มีข้อแตกต่างที่
ผู้มีสิทธิสมัคร
จะต้องถูกเสนอชื่อโดยหน่วยงานของรัฐ
การสมัคร
ผู้สมัครควรติดต่อไปยังรัฐบาลที่เราต้องการให้เสนอชื่อเรา เพื่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการเสนอชื่อและข้อกำหนดต่าง ๆ เพราะแต่ละที่มีข้อกำหนดแตกต่างกันไป
Business Innovation and Investment (Provisional) visa
เป็นวีซ่าที่สามารถให้ผู้ถือมีและบริหารธุรกิจในออสเตรเลีย มีหลาย stream ด้วยกัน อายุวีซ่าอยู่ที่ประมาณ 4-6 ปี ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นตั้งแต่ AUD $645 - $9,455 ข้อกำหนดในแต่ละ stream แตกต่างกันออกไป เช่น ผู้สมัครต้องบริหารธุรกิจในออสเตรเลีย ต้องถูกเสนอชื่อโดยหน่วยงานของรัฐ ต้องลงทุน 1.5 - 15 ล้านเหรียญ เป็นต้น
ในการสมัครขอวีซ่าประเภทนี้ มีความเป็นไปได้สูงที่หน่วยงานรัฐจะต้องการพูดคุยพบปะผู้สมัครตัวต่อตัว เพื่อสนทนาเกี่ยวกับธุรกิจ จะไม่ได้อิงแค่เอกสารเท่านั้น ผู้สมัครต้องสามารถแจ้งที่มาของแหล่งเงินทุนให้ชัดเจน
Distinguished Talent visa (subclass 124 and 858)
เป็นวีซ่าถาวร สำหรับผู้ที่มีความสามารถระดับแนวหน้าทั่วโลก มีสอง subclass ด้วยกัน
Subclass 124 - ผู้สมัครสามารถอยู่ในหรือนอกออสเตรเลียในขณะที่ยื่นเรื่องสมัครได้ แต่จะต้องอยู่นอกออสเตรเลียเมื่อได้รับวีซ่า
Subclass 858 – ผู้สมัครต้องอยู่ในออสเตรเลียเมื่อทำการสมัครและเมื่อได้รับวีซ่า
ผู้สมัครจะต้องไม่ถือวีซ่าประเภทต่อไปนี้เมื่อทำการสมัคร subclass 858
- Business (Short Stay) visa (subclass 456)
- Electronic Travel Authority (subclass 601)
- eVisitor (subclass 651)
- Maritime Crew Visa (subclass 988)
- Special purpose visa
- Superyacht Crew visa (subclass 488)
- Temporary Work visa (subclass 400)
- Tourist visa (subclass 676)
- Visitor visa (subclass 600)
ผู้มีสิทธิสมัคร
- เป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับความสามารถในระดับนานาชาติ มีผลงานดีเด่น หนึ่งในด้านต่าง ๆ ข้างล่างนี้
- อาชีพ
- กีฬา
- ศิลปะ
- การศึกษาและค้นคว้า
- มีความโดดเด่นในสายของตัวเองในระยะสองปีที่ผ่านมา
- มีคุณค่าต่อชุมชนออสเตรเลีย (be an asset to the Australian community)
- สามารถหางานได้ง่ายและอยู่ได้ด้วยตัวเองในออสเตรเลีย
- ถูกเสนอชื่อโดย
- พลเมืองออสเตรเลีย
- ผู้อาศัยถาวรในออสเตรเลีย
- พลเมืองนิวซีแลนด์ที่ได้รับการยอมรับ
- องค์กรของออสเตรเลีย
- ซึ่งเป็นผู้ได้รับการยอมรับในออสเตรเลียในสาขาเดียวกันกับผู้สมัคร
- มีประโยชน์อย่างสูงแก่ชุมชนออสเตรเลีย หากผู้สมัครมีอายุต่ำกว่า 18 หรือมีอายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไป
- มีสุขภาพและประวัติความประพฤติตรงตามข้อกำหนด
ค่าใช้จ่าย
AUD$ 4,110 สำหรับผู้สมัครหลัก สำหรับผู้ติดตามแต่ละคนมีค่าสมัครแยกต่างหาก
อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีก AUD$ 4,890 สำหรับผู้สมัครที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปที่มีทักษะภาษาอังกฤษต่ำกว่าเกณฑ์ ซึ่งค่าใช้จ่ายส่วนนี้จะถูกเรียกเก็บเมื่อวีซ่ากำลังจะผ่าน
การสมัคร
ผู้สมัครต้องสมัครโดยกรอกแบบฟอร์ม (กระดาษ) Form 47SV – Application for special migration to Australia และส่งเอกสารทางไปรษณีย์ไปยัง Adelaide office, South Australia ที่อยู่ในแบบฟอร์ม
ต้องกรอก Form 1000 – Nomination for Distinguished Talent และยื่นพร้อมเอกสารประกอบที่เกี่ยวข้องเมื่อขอวีซ่า
รายละเอียดเพิ่มเติม.. https://immi.homeaffairs.gov.au/