ครั้งนี้เราจะมาพูดกันถึงเรื่องวีซ่าออสเตรเลียตัวที่ชื่อว่า “Work and Holiday Visa - Subclass 462” วีซ่าที่สามารถให้เราได้ทั้งเที่ยว ทั้งทำงาน และเรียน ได้อย่างถูกต้อง หลายคนเลือกใช้วีซ่าตัวนี้เพื่อเป็นการทดลองใช้ชีวิตในต่างประเทศ เรื่องราวของวีซ่าตัวนี้ค่อนข้างมีเยอะมาก พยายามรวบรัดให้เกิดประโยชน์ต่อผู้สนใจวีซ่าตัวนี้มากที่สุด ทีนี้ลองมาดูกันว่า วีซ่า WHV ตัวนี้เป็นอย่างไร..
1 ปี มีแค่ครั้งเดียว!! กับการสมัครขอหนังสือรับรองฯ WHV
ปี 2558 วันที่ 1 ก.ค.
ปี 2559 วันที่ 3 มิ.ย.
ปี 2560 วันที่ 2 มิ.ย.
ปี 2561 วันที่ 12 มิ.ย.
ปี 2562 ลงทะเบียนวันที่ 29 เมษายน - 3 พฤษภาคม, การสมัครวันที่ 3 มิ.ย.
(ต้องลงทะเบียนภายในระยะเวลาที่กำหนด ก่อนสมัคร)
ข่าวดี.!! เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2016 ทางอิมมิเกรชั่นเปิดโอกาสให้ผู้ที่ถือวีซ่า Work and Holiday สามารถยื่นขอวีซ่าต่อเป็นปีที่ 2 ได้ โดยมีเงื่อนไขทำงานในเขต Northern Australia ระยะเวลา 3 เดือน สามารถอ่านรายละเอียดได้ที่: https://www.homeaffairs.gov.au/trav/visa-1/462-
วีซ่า Work and Holiday คืออะไร?
Work and Holiday Visa (Subclass 462) หรือที่มักเรียกกันว่า WAH แต่ในบางครั้งของ ไทย - ออสเตรเลีย จะเรียกว่า WHV หากเป็นของ ไทย - นิวซีแลนด์ จะเรียกว่า Working Holiday Scheme (WHS)
วีซ่าประเภทท่องเที่ยวและทำงานในประเทศออสเตรเลียนี้ เป็นโครงการข้อตกลงร่วมกันระหว่างออสเตรเลียกับประเทศคู่สัญญา ซึ่งไทยก็เป็นหนึ่งในประเทศนั้น ข้อตกลงร่วมระหว่างไทยกับออสเตรเลียนั้น มีขึ้นมาตั้งแต่ 1 สิงหาคม 2005 (ยาวนานกว่า 10 ปีแล้ว) โดยปัจจุบันประเทศไทยมีโควต้าวีซ่าประเภทนี้อยู่ที่ 500 คนต่อปีงบประมาณ
จากสถิติของอิมมิเกรชั่น (Department of Immigration and Border Protection) ประจำปี 2014 จะเห็นว่า วีซ่า Work and Holiday ของทั่วโลกมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 11.7 % ซึ่งประเทศไทยของเราก็ติดอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศที่ได้รับการออกวีซ่ามากที่สุด อย่างไรก็ตามจากปีที่ผ่านมา ระหว่าง 2013- 2014 โควต้าของประเทศไทยที่ได้ 500 คนนั้น มีผู้ที่ได้วีซ่าเพียง 371 คน (จากผู้ที่ยื่นเรื่องวีซ่า 394 คน) หลาย ๆ ครั้งเกิดจากการสละสิทธิ์เป็นจำนวนมาก หรือคุณสมบัติไม่เป็นไปตามวีซ่า เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของการอนุมัติวีซ่าประเภทนี้ มีสถิติการอนุมัติอยู่สูงถึง 98.4-98.7 % (คำนวณการอนุมัติในช่วงปี 2014)
ที่มา: รายงานวีซ่า Working Holiday เดือน ธันวาคม 2014
วีซ่า Work and Holiday มีจุดประสงค์หลัก ๆ คือ เพื่อให้เยาวชนได้ใช้เวลา 12 เดือนในการเรียนรู้วัฒนธรรม ชีวิตความเป็นอยู่ของประเทศออสเตรเลีย ในขณะเดียวกันก็สามารถทำงานได้ด้วย อย่างไรก็ตาม ผู้สมัครสามารถทำงานกับนายจ้างแต่ละแห่งได้นานสุดไม่เกิน 6 เดือน ถ้าทำงานถึง 6 เดือนแล้วจะต้องเปลี่ยนที่ทำงานใหม่ นอกจากนี้ผู้สมัครจะต้องมีหลักฐานว่ามีเงินเพียงพอ กรณีไม่มีงานทำ ก็ยังสามารถใช้ชีวิตอยู่ในออสเตรเลียได้โดยไม่ลำบากอะไร
สรุปส่วนสำคัญของวีซ่า WHV มีดังนี้..
- สามารถอยู่ในออสเตรเลียได้สูงสุด 1 ปี (12 เดือน)
- สามารถเดินทางเข้า-ออกประเทศออสเตรเลียได้ตลอดระยะเวลาของวีซ่า
- ทำงานได้สูงสุด 6 เดือน ต่อ 1 นายจ้าง (ฉนั้นถ้าจะทำงานทั้งปี ก็ต้องอย่างน้อย 2 แห่ง)
- เรียนได้สูงสุด 4 เดือน
การออกหนังสือรับรองคุณสมบัติฯ
ในไทยนั้นทางกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) จะเป็นผู้เปิดรับสมัครทางออนไลน์ เพื่อคัดเลือกและออกหนังสือรับรองคุณสมบัติสำหรับผู้เข้าร่วมโครงการ WHV หลังจากนั้นจึงนำเอกสารตัวนี้ ไปใช้ในการแนบประกอบกับเอกสารอื่น ๆ เพื่อขอวีซ่ากับทางสถานทูตฯ ต่อไป
(ปี พ.ศ. 2558) กรมกิจการเด็กและเยาวชน มีโควต้าการออกวีซ่า WHV ไทย – ออสเตรเลีย ได้ทั้งหมดจำนวน 500 คน (รับสมัคร 800 คน, ลำดับที่ 601-800 เป็นตัวสำรอง, สุดท้ายคัดเลือกให้เหลือ 500 คน)
(ปี พ.ศ. 2559) กรมกิจการเด็กและเยาวชน มีโควต้าการออกวีซ่า WHV ไทย – ออสเตรเลีย ได้ทั้งหมดจำนวน 500 คน (รับสมัคร 700 คน, ลำดับที่ 501-700 เป็นตัวสำรอง, สุดท้ายคัดเลือกให้เหลือ 500 คน)
(ปี พ.ศ. 2560) กรมกิจการเด็กและเยาวชน มีโควต้าการออกวีซ่า WHV ไทย – ออสเตรเลีย ได้ทั้งหมดจำนวน 500 คน (รับสมัคร 800 คน, ลำดับที่ 501-550 เป็นตัวสำรองที่จะต้องเข้าไปยื่นเอกสาร, ลำดับที่ 551-800 เป็นตัวสำรองที่ต้องรอประกาศเรียกตัว, สุดท้ายคัดเลือกให้เหลือ 500 คน)
(ปี พ.ศ. 2561) กรมกิจการเด็กและเยาวชน มีโควต้าการออกวีซ่า WHV ไทย – ออสเตรเลีย ได้ทั้งหมดจำนวน 500 คน (รับสมัคร 800 คน, ลำดับที่ 501-550 เป็นตัวสำรองที่จะต้องเข้าไปยื่นเอกสาร, ลำดับที่ 551-800 เป็นตัวสำรองที่ต้องรอประกาศเรียกตัว, สุดท้ายคัดเลือกให้เหลือ 500 คน)
(ปี พ.ศ. 2562) กรมกิจการเด็กและเยาวชน มีโควต้าการออกวีซ่า WHV ไทย – ออสเตรเลีย ได้ทั้งหมดจำนวน 500 คน หากมีการเพิ่มโควตาในปีนี้จะประกาศให้ทราบล่วงหน้า ทางเว็บไซต์กรมกิจการเด็กและเยาวชน www.dcy.go.th ภายหลังจากหนังสือรับรองรอบแรกหมดเขตการยื่นขอวีซ่า ณ สถานเอกอัคราชทูตออสเตรเลีย ประจำประเทศไทย ตามวันเวลาที่กำหนด อ่านรายละเอียด..
ใครจะสามารถสมัครวีซ่า Work and Holiday ได้บ้าง ?
- ผู้สมัครจะต้องถือหนังสือเดินทางของประเทศที่ทำข้อตกลงกับออสเตรเลียที่สามารถออกวีซ่าประเภทนี้ได้ (ไทยเป็นหนึ่งในประเทศดังกล่าว)
- มีอายุระหว่าง 18 ถึง 30 ปี (ไม่เกิน 31 ปีบริบูรณ์ ณ วันที่ยื่นวีซ่ากับทางสถานทูตฯ)
- สำเร็จการศึกษาตั้งแต่ระดับปริญญาตรีขึ้นไป
- มีหลักฐานด้านทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ อย่างใดอย่างหนึ่ง ตามรายการดังนี้..
1) ผลการสอบ IELTS (ประเภทใดก็ได้) เฉลี่ยไม่ต่ำากว่า 4.5 ในทุกทักษะ มีอายุไม่เกิน 1 ปี
2) ผลการสอบ TOEFL iBT ระดับคะแนน 32 ขึ้นไป ทุกทักษะ มีอายุไม่เกิน 1 ปี หรือ
3) ใบรับรองหรือประกาศนียบัตรที่แสดงว่าได้สำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่มีระยะเวลา 2 ปี จากสถาบันการศึกษาที่มีการใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อการเรียนการสอน
4) หลักฐานการจบระดับประถมศึกษา (Primary) และมัธยมศึกษาตอนต้น (3 years of secondary education) จากสถาบันการศึกษาที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อการเรียนการสอน
5) หลักฐานที่แสดงว่าได้ศึกษาระดับมัธยมศึกษา 5 ปี (5 years of secondary education) จากสถาบันการศึกษาที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อการเรียนการสอน
6) สำเร็จการศึกษาจากประเทศออสเตรเลียหลักสูตร 1 ปี ในระดับปริญญาบัตรหรือประกาศนียบัตร) - ต้องเดินทางคนเดียว ผู้สมัครไม่สามารถขอวีซ่าติดตามสำหรับบุตรหรือผู้อื่นได้
- มีหนังสือรับรองคุณสมบัติฯ* ซึ่งออกให้โดยกรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
- สถานภาพทางการเงิน: ผู้สมัครต้องแสดงให้เห็นว่า สามารถเข้าถึงแหล่งของเงิน และมีเงินเพียงพอต่อการใช้ชีวิตในออสเตรเลีย จำนวน 5,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย
- มีความประพฤติและสุขภาพดี ตามที่รัฐบาลออสเตรเลียกำหนด
- ผู้สมัครจะต้องไม่เคยเดินทางมาออสเตรเลียโดยถือวีซ่า Work and Holiday มาก่อน (จำกัดสิทธิคนละ 1 ครั้ง)
- อื่น ๆ ดูได้ที่.. https://www.homeaffairs.gov.au/ หรือ http://thailand.embassy.gov.au
ขั้นตอนการดำเนินการตั้งแต่เริ่มต้นจนได้วีซ่า
- ลงทะเบียน : ปี 2562 นี้เป็นปีแรกที่ทางกรมกิจการเด็กและเยาวชนกำหนดให้ต้องลงทะเบียนก่อนการสมัคร โดยลงทะเบียนได้ผ่านทางเว็บไซต์ www.dcy.go.th ระหว่างวันที่ 29 เมษายน - 3 พฤษภาคม ไม่จำกัดจำนวนลงทะเบียน
- การสมัคร : รับสมัครออนไลน์เว็บไซต์กรมกิจการเด็กและเยาวชน www.dcy.go.th สำหรับปี 2562 เปิดสมัครวันที่ 3 มิถุนายน หากมีผู้สมัครครบเต็มจำนวนที่กำหนด ระบบจะปิดทำการรับสมัครทันที
- ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิยื่นเอกสารและเข้ารับการสัมภาษณ์ ทางเว็บไซต์ ดย. www.dcy.go.th
- ผู้ที่สมัครสำเร็จให้ดำเนินการยื่นเอกสารและเข้ารับการสัมภาษณ์ ภายในวันที่กำหนด
- หากเอกสารครบถ้วนและถูกต้อง จะได้รับนัดหมายให้ไปรับหนังสือรับรองคุณสมบัติฯจาก ดย.
- ดำเนินการส่งเอกสารเพื่อขอวีซ่ากับทางสถานทูตฯ ผ่านทางศูนย์ยื่นวีซ่าออสเตรเลีย VFS โดยกรอกแบบฟอร์ม 1208, ชำระค่าธรรมเนียมวีซ่า, แนบหนังสือรับรองคุณสมบัติฯที่ได้มา และตรวจเช็คเอกสารที่ต้องยื่นจากรายการ (WHV Checklist: Home Affairs | VFS)
- รออีเมล์รายละเอียดการตรวจสุขภาพ (eHealth) จากทางสถานทูตฯ และไปตรวจตามรายชื่อโรงพยาบาลที่กำหนด (รพ.จะส่งผลตรวจไปยังสถานทูตฯ โดยตรง)
- รอผลการอนุมัติวีซ่า และการติดต่อกลับจากทางสถานทูตฯ
*การสมัครขอหนังสือรับรองคุณสมบัติฯ Work and Holiday
(เปิดปีละ 1 ครั้ง)
ลิงค์สมัคร:
(คลิ๊กที่นี่)
(ปี 2558 เปิดสมัครวันที่ 1 กรกฎาคม)
(ปี 2559 เปิดสมัครวันที่ 3 มิถุนายน)
(ปี 2560 เปิดสมัครวันที่ 2 มิถุนายน)
(ปี 2561 เปิดสมัครวันที่ 12 มิถุนายน)
(ปี 2562 ลงทะเบียนวันที่ 29 เมษายน - 3 พฤษภาคม, การสมัครวันที่ 3 มิ.ย.)
ในการกรอกข้อมูล เพื่อขอ username และ password ผู้สมัครควรเตรียมพร้อมข้อมูลส่วนตัว ดังนี้
ในการกรอกใบสมัครผ่านระบบออนไลน์ ผู้สมัครควรเตรียมพร้อมข้อมูลส่วนตัว ดังนี้..
2) ชื่อ-สกุล (ภาษาไทยและอังกฤษ)
3) วัน เดือน ปีเกิด
4) ที่อยู่ตามบัตรประชาชน
5) ที่อยู่ที่ติดต่อได้สะดวก พร้อม เบอร์โทรศัพท์มือถือ และ e-mail address
6) ข้อมูลเกี่ยวกับหลักฐานแสดงทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ
7) ข้อมูลบุคคลติดต่อในกรณีฉุกเฉิน
ตัวอย่างหน้าเว็บรับสมัคร (ปี 2558):
สิ่งจำเป็นที่ควรทราบเพิ่มเติม
- ต้องสมัครด้วยตัวเอง และอยู่ในประเทศไทยเท่านั้น
- หลังจากวันยื่นเอกสาร ผู้สมัครจะได้รับจดหมายนำตรวจสุขภาพจากสถานทูตผ่านทางอีเมล์
- รอผลวีซ่า โดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 8 อาทิตย์ (ระหว่างนี้หากเจ้าหน้าที่สถานทูตฯ ต้องการเอกสารเพิ่มเติม อาจมีการสัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัพท์หรือมีการขอผ่านทางอีเมลล์ ดังนั้นผู้สมัครควรเช็คอีเมลล์เป็นระยะ)
- เงื่อนไขของวีซ่า
- เงื่อนไข 8547 ผู้สมัครอนุญาตให้ทำงานได้ถึง 12 เดือน แต่ห้ามว่าจ้างด้วยนายจ้างใด นายจ้างหนึ่งเกินกว่า 6 เดือน หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ จะต้องเปลี่ยนที่ทำงานทุกๆ 6 เดือนนั่นเอง
- เงื่อนไข 8548 ในช่วงเวลาที่ผู้สมัครอยู่ในประเทศออสเตรเลีย 12 เดือนนั้น จะสามารถเข้าลงเรียนได้เป็นระยะเวลามากสุด 4 เดือน แต่จะต้องไม่เป็นคอร์สที่สามารถต่อยอดเข้ามหาวิทยาลัย
..เป็นอย่างไรกันบ้าง ไม่ยากเลยใช่มั้ย เตรียมตัวกันให้พร้อมแล้วไปสมัครกัน ขอให้โชคดีกันทุกคนนะคะ
ข้อมูลอ้างอิง:
homeaffairs.gov.au - "Work and Holiday visa (subclass 462)"
dcy.go.th - "กรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.)"